เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ประกาศขจัดวงจรยาเสพติด ลั่นยาบ้าต้องหมดในรัฐบาลนี้ ตั้งเป้า 1 ปี ต้องลดลง

17 ก.ย. 2566

157 views

วันนี้ (17 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหัวหน้าหน่วยราชการจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุม


นายเศรษฐา เปิดการประชุม โดยระบุว่าปัญหา ยาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญ ที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน นำมาเป็นนโยบายหาเสียงกับประชาชน ตนและพรรคร่วมทั้ง 11 พรรค ตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาล เราให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตนจะเป็นประธาน นั่งหัวโต๊ะ ทำให้ระยะอันใกล้ หมดลงไปให้มากที่สุด


รวมถึง การดูแลผู้เสพ ผู้ป่วย และการคืนกลับสู่สังคม รวมถึงป้องกันตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ให้เข้าไปเสพ การยึดยาเสพติด ที่มีระยะเวลา เผาทำลายที่ช้า ก็จะต้องตอบสังคมหลายเรื่อง รวมถึงการยึดทรัพย์ ถ้าช้า ผู้ผลิต จะมีสถานภาพการเงินแข็งแรง และจะนำกลับมาสู้วงจรใหม่ รวมถึง การลักลอบนำเข้าชายแดน ดังนั้น ขอให้วันนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี เพื่อขจัดยาเสพติดออกจากสังคมไทย


นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำนโยบายรัฐบาลให้หน่วยงานราชการบูรณาการและเป็นเสาหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่วมกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบ ในขณะที่ผู้ค้าต้องปราบปรามอย่างเข้มข้น และยึดทรัพย์ พร้อมถกแผน 3 ระยะ เพื่อลดปัญหายาเสพติดในสังคม และให้ประเทศไทยกลับมามีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง มีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่วัดผลได้


จากนั้นในเวลา 14.30 ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน ในพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลาง โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ จากการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมในพิธี พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม ประชาชน จากหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน เข้าร่วมกว่า 200 ราย ร่วมเป็นสักขีพยานในการเผาทำลายยาเสพติดครั้งนี้


นายกรัฐมนตรี ระบุ ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนตลอด ทำให้สถาบันครอบครัวอ่อนแอ รัฐบาลมีนโยบาย ทั้งปราบปรามและบำบัด ผู้ที่ติดยาเสพติดไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นผู้ป่วย ฉะนั้นต้องช่วยรักษา พากลับมาเป็นพลเมือง และลูกที่ดีของครอบครัวอีกครั้ง และจะต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วม ขอให้หน่วยงานทำงานใกล้ชิดกับประชาชน


"ผู้ค้าต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด คนเหล่านี้เป็นอาชญากร ที่ไม่ควรติดคุกติดตะราง แต่พวกเขากลัวที่สุดคือการถูกยึดทรัพย์ที่ได้มา ขอให้หน่วยงาน เร่งดำเนินการยึดทรัพย์ให้เร็วที่สุด อย่าให้เกิดการโอนถ่ายได้ง่าย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตนขอเป็นประธาน ในการผนึกกำลังทุกหน่วยงาน และประชาชน แก้ไขปัญหา และจะติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยจะปฏิบัติงานอย่างมีนิติธรรมนิติรัฐ ให้ประชาชนอยากทำงานร่วมกับรัฐ และรู้สึกปลอดภัย ที่จะแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ รัฐบาลนี้เอาจริง ผมตั้งเป้าที่ชัดเจนให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาจะต้องลดลงให้ได้ภายใน 1 ปี ในรัฐบาลนี้จะต้องทำยาบ้าหมดไปให้ได้ ตนจะนำมาทำลายให้หมด เหมือนที่ทุกคนจะได้เห็นในวันนี้”


โดยวันนี้เป็นการทำลายของกลางยาเสพติดของกลางจากคดียาเสพติดจำนวน 100 คดี เป็น ยาบ้า 12,522 กิโลกรัม ไอซ์ 11,656 กิโลกรัม เฮโรอีน 418 กิโลกรัม ฝิ่น 179 กิโลกรัม คีตามีน 704 กิโลกรัม และสารเสพติดอื่น ๆ น้ำหนักรวม 25,517 กิโลกรัม ซึ่งทำลายโดยการเผาไหม้ด้วยระบบเตาเผาอุณหภูมิสูง 2 ชุด เผาไหม้ที่ 800-1,200 องศาเซลเซียส ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง พร้อมระบบควบคุมมลพิษอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำลายได้หมดสิ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน


ด้านนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงการเผาทำลายยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดที่สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคดีสิ้นสุดซึ่งบางคดีใช้เวลาเป็น 10 ปี ซึ่งช่วยลดภาระในการเก็บรักษาได้จำนวนมาก


นอกจากนั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นสถานที่เก็บรักษายาเสพติดของกลาง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 เพื่อให้การดำเนินการเก็บรักษายาเสพติดของกลางเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าด้วยการตรวจรับ การตรวจพิสูจน์ การเก็บรักษา การทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด พ.ศ. 2565 ทำให้ กระบวนการ ตรวจรับเก็บรักษา


และทำลายยาเสพติด สามารถดำเนินการได้โดย สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้กระบวนการทำลายยาเสพติด ทำได้รวดเร็วขึ้น และลดภาระการเก็บรักษา พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ายาเสพติดที่จับมาได้นั้น จะถูกทำลายโดยเร็วหลังการตรวจพิสูจน์ ไม่มีการนำมาเวียนขายได้อีกแต่อย่างใด โดยการทำลายยาเสพติดจะต้องทำอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับการจับกุมยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่ากระบวนการมีความโปร่งใสทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ