เลือกตั้งและการเมือง

"สุทิน" มั่นใจทำงานได้กับกองทัพ บอกตนเป็นเหมือนนกแล เป็น สส.ที่มีแต่ใจ

15 ก.ย. 2566

151 views

(15 ก.ย.) กรรมกรข่าวคุยนอกจอกับ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการทำงานหลังได้รับตำแหน่ง ว่ากรอบภารกิจต่อไปนี้ของกองทัพต้องมีความทันสมัย ทั้งในเรื่องของการป้องกันประเทศ รักษาอธิปไตย ป้องกันประเทศ รักษาความมั่นคงของประเทศ โดยงานทางด้านการทหาร กองทัพทำต่อไป ต้องเข้มแข็ง แต่ภารกิจต่อไปคือ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งถือว่าเป็นภัยใหม่และยังมีเรื่องของความยากจนอีก เพราะฉะนั้น กองทัพ ถ้าจะทำความมั่นคงด้วย ต้องทบทวนให้มาช่วยความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความยากจน



เมื่อสรยุทธ ถามว่า บางคนคาดหวังให้ลดกำลังพล นายพลเยอะไปไหม? นายสุทินตอบว่า อันนี้ก็คุย เพราะเป็นนโยบายของเรา อันหนึ่งต้องทันสมัยด้วยขนาด นอกจากภารกิจเข้มแข็ง ขนาดต้องทันสมัย เพราะไม่อย่างนั้นสังคมมองแล้วจะมีข้อกล่าวหา พอได้คุยกัน เขาก็ยอมรับว่าเยอะ แล้วมีแผนปรับและพัฒนากัน โดยเขามีทิศทางอยู่แล้ว แต่แค่มากน้อยแตกต่างกัน เราก็เร่งรัดให้เร็วขึ้น ตอนนี้คณะทำงานกำลังทำกันอยู่



เมื่อสรยุทธถามต่อว่าเท่าที่คุยทางกองทัพเปิดรับหรือไม่? นายสุทินตอบว่า เท่าที่คุยเปิดรับ เท่าที่ดู หลายคนอาจจะมองผมมองโลกในแง่ดีเกินไป แต่ผมคุยกับผู้นำเหล่าทัพทุกระดับ หัวรุ่นใหม่ วิธีคิดใหม่ๆ ไม่เหมือนทหารรุ่นเก่า  ก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ โดยปกติผมไม่เคยใกล้ชิดขนาดนี้ ดูท่าทีเปิดรับ และมั่นใจว่าทำงานได้



เมื่อสรยุทธถามว่าตอนนี้สังคมตั้งคำถามว่า กอ.รมน. ยุคนี้จำเป็นหรือไม่



นายสุทิน ตอบว่า จริงๆ กอ.รมน. เป็นนโยบายโดยตรงกับของนายกฯ กองทัพเป็นเพียงหน่วยปฏิบัติไปประกอบ เพราะมีทั้งทหาร พลเรือน ฝ่ายปกครองด้วย ทีนี้ถ้าเรื่องระดับนโยบายกองทัพคงไปพูดอะไรไม่ได้ คนเข้าใจว่ากลาโหม คุม แต่ไม่ใช่ ดังนั้น วิธีการคือกลับมาทบทวนว่าตัวตนกำลังคน น่าจะมีเท่าไหร่ ไม่ให้ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานเดิมที่เขาทำอยู่ และอย่าไปสร้างความหวาดระแวงให้กับพลเรือนและพลเมือง




นายสุทินยังกล่าวอีกว่า เชื่อว่ามี IO แต่ไม่เห็นตัวตนเป็นทางการ ทุกวันนี้ฝ่ายพลเมืองก็มี ฝ่ายการเมืองก็ทำ IO ทุกฝ่ายทำแล้ว บอกเป็นการต่อสู้กันเชิงข่าวสาร เราก็ถามกองทัพว่ามีไหม เขาบอกไม่มี ถ้ามีก็เป็นเพียงการ IO ให้คนรักชาติ เคารพสถาบันหลัก หลอมรวมให้สามัคคี เป็นหนึ่งเดียว ไม่ได้ IO เพื่อไปทำร้ายใคร แต่เราก็คุยว่ามีวิธีในการจัดการแบบอื่นอีกเยอะ ก็คุยกันไป




ทั้งนี้ เรื่องเกณฑ์ทหาร นายสุทินกล่าวว่า แก้กฎหมายเป็นแบบไม่ต้องมาบังคับได้ แต่ก็ต้องดูเหตุดูผลด้วย ถ้าบ้านเมืองเกิดศึกสงครามเราจะกำลังพลจากไหน ผมยกตัวอย่างในสภาฯคือ ยูเครน รัสเซีย เรียกกำลังพลไม่ได้ วันนึงถ้าเราเป็นอย่างนั้นละ? มันมีทางที่ไม่กระทบคือเรียกให้สมัครใจ เราใช้ทางนี้ดีมั้ย พยามบริหารเต็มที่จนคนสมัครพอ แล้วไม่ต้องเกณฑ์ แล้วช่องทางที่ไม่ต้องปิดตัวเอง




"เราคิดไว้หลายเรื่อง เรียก โปรโมชัน ก็ได้ เราเชื่อว่าคนจะสมัครเยอะ เดือนนี้ก็เริ่มโปรโมตแล้ว ที่จะสร้างแรงจูงใจ เชื่อว่าคนจะมา แล้วไม่ใช่กลยุทธ์กหลอกมาเป็นทหาร มันต้องสร้างความเป็นอยู่ให้เขาจริงๆ จะมีผลไปให้ศก.ดีด้วย เช่น รายได้ก็เป็นเรื่องหลัก รายได้มีอยู่ แต่ปกติจะหักไป 3,000 บาท ค่าประกอบเลี้ยง ค่าอาหาร เขารับจริงประมาณ 7,000 บาท แต่ต่อไปนี้บอกว่ารับเต็ม เขาก็จะสนใจมากขึ้น อธิบายง่าย ๆ ลดยอดกองทัพก่อน  แต่ไม่กระทบความเข้มแข็ง เราก็สามารถโยกยอด มาเป็นส่วนของค่าเลี้ยง ประกอบอาหารได้ เพราะมาจากคนที่ลดไป" ทั้งนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนเป็นการเพิ่มโอกาส พอกแต้มมีสิทธิ์สำหรับสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนนายสิบเพิ่มเข้ามาอีกด้วย



เมื่อสรยุทธถามเกี่ยวกับ เรื่องเรือดำน้ำ สรุปปุ๋ย เป็นตัวเลือกสุดท้ายใช่ไหม




วันนั้นผมไปสัมมนา แต่ก็คุยกับทางกองทัพเรือ เขาก็ยอมรับ ไม่ได้ขัดข้อง ผมก็เปิดโอกาสให้เขาพูด เรื่องยุทธการณ์ ว่าจำเป็นไหม อย่างอื่นทดแทนได้ไหม ถ้าเขาบอกทดแทนได้ เราก็รับฟัง




สุดท้าย นายสุทินยังได้กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ยังไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ เพราะตนเป็น สส. ที่มีแต่ใจ เงินไม่มี บารมีไม่มี เขาเลยเรียกนกแล แต่การเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ต้องสร้างมตราฐานที่ดีไว้ว่าพลเรือนเข้ามาก็ทำได้ คนต่อไปก็จะได้มาได้




แท็กที่เกี่ยวข้อง  ข่าวการเมือง

คุณอาจสนใจ

Related News