เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' แจงดรามา 'รัฏฐาธิปัตย์' - 'ปิยบุตร' เสียดาย 'ชูศักดิ์' เหมาะนั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย
15 ก.ย. 2566
257 views
จากกรณีที่ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ถึงกรณีวิธีการจะยกเลิกคำสั่ง คสช. ว่า สามารถใช้มติคณะรัฐมนตรีก็ยกเลิกได้ เพราะตอนนี้รัฐบาลนี้เป็น 'รัฏฐาธิปัตย์' ยกเลิกได้อยู่แล้ว ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากย์วิจารณ์ในประเด็นต่างๆ
----------
วานนี้ (14 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงหลักการในการยกเลิกคำสั่ง คสช. สามารถทำได้เลยหรือไม่ ว่า
จะต้องปรึกษาสำนักงานกฤษฎีกา เนื่องจากกฎหมายบางข้อไม่ได้ใช้แล้ว หากเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต หรือการปฏิบัติหน้าที่ ก็ยกเลิกไป แต่ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็ต้องนำกลับเข้ามา ครม.ใหม่
“เป็นการพูดคร่าว ๆ ซึ่งเราพยายามทำให้เป็นรัฐสนับสนุน ถ้ากฎหมายไม่ได้บอกทำไม่ได้ อยากให้รีบ ๆ ทำ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักนิติธรรมทั้งหมดโดยรวมของการบริหารจัดการประเทศ และการดำเนินธุรกิจของประเทศ”
----------
วานนี้ (14 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ
“รัฐบาลนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานในรูปแบบ “รัฐสนับสนุน” ในการยกเลิกคำสั่ง คสช. นั้น คงต้องปรึกษากฤษฎีกาด้วย หากกฎหมายบางข้อไม่ได้ใช้แล้ว และเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตอยู่ของประชาชน หรือการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการก็ต้องยกเลิกไป แต่ถ้ายังยกเลิกไม่ได้ก็ควรนำกลับมาเข้ามาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาใหม่ เท่านั้นเอง
อะไรที่กฎหมายไม่ได้ห้าม บอกว่าทำไม่ได้ เราก็อยากให้มีโอกาสได้ทำ ได้คิดสร้างสรรค์ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักนิติธรรมทั้งหมดโดยรวมของการบริหารจัดการประเทศ รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจของประชาชนด้วย”
----------
วานนี้ (14 ก.ย. 66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
เห็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวประเด็นการยกเลิกคำสั่ง คสช. แล้ว แสดงให้เห็นถึงการขาดความรู้เรื่องกฎหมายเบื้องต้น หากไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในพรรคเพื่อไทย หรือนักกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้
แถลงไป ตอบนักข่าวไป แบบนี้ ไม่ใช่เสียแค่ตัวโฆษกฯเท่านั้น แต่กระทบถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะโฆษกไปอ้างว่า ทั้งหมดเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
เห็นแบบนี้แล้ว ก็เสียดาย และคิดถึงอาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ครับ พรรคเพื่อไทยควรให้อาจารย์ชูศักดิ์ เป็นรองนายกฯดูแลงานกฎหมายของรัฐบาล จะดีกว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีคนทำหน้าที่นี้
ในอดีต ตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน มาจนถึงเพื่อไทย มีนักกฎหมายผู้เข้าใจกฎหมายมหาชน และการบริหารราชการแผ่นดิน จำนวนมาก เช่น โภคิน พลกุล, พงศ์เทพ เทพกาญจนา, ชูศักดิ์ ศิรินิล, นพดล ปัทมะ ยังไม่นับรวมดึงคนนอกมาร่วมงานใน ครม. อีกเช่น วิษณุ เครืองาม, บวรศักดิ์ อุวรรโณ
แต่มารอบนี้ ไม่ตั้งคนแนว ๆ นี้ ไปทำงานเลย พรรคแกนนำรัฐบาลจำเป็นต้องมีคนของตนเองเข้าไป ทั้งทำงานกับนักกฎหมายในระบบราชการ และทั้งชนกับนักกฎหมายในระบบราชการ
----------
วานนี้ (14 ก.ย. 66) นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ทวิต ว่า
“รัฐบาลไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ ดังนั้น การจะยกเลิกคำสั่ง คสช.ใด ๆ ต้องดูเนื้อหาของคำสั่งนั้น ๆ ว่าอยู่ลำดับศักดิ์ใด ถ้าเป็นระดับ มติ ครม. รัฐบาลนี้ก็ใช้มติ ครม. ยกเลิกได้เลย แต่ถ้าเนื้อหานั้นเป็นกฎหมาย การจะแก้ไข หรือยกเลิก ก็ต้องเสนอกฎหมายผ่านสภา จะใช้ข้อสั่งการไม่ได้”
ทั้งนี้ ได้มีแฟนทวิตของนายนพดล มาแสดงความคิดเห็นถึงการทำหน้าที่ของโฆษกรัฐบาล โดย นายนพดล ตอบว่า “มีกองโฆษกคอยช่วยอยู่ครับ ค่อย ๆ เรียนรู้ และปรับไปครับ เรื่องนี้แก้ไขได้ พื้นฐานโฆษกเป็นคนมีความรู้ ครับ”
------------
วานนี้ (14 ก.ย. 66) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของโฆษกรัฐบาล ที่ได้ใช้คำว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ว่า
หลักการในประเด็นที่โฆษกรัฐบาลได้แถลงเข้าใจได้ว่า รัฐบาลต้องการที่จะยกเลิก หรือแก้ไขประกาศหรือคำสั่งของ คสช. ที่เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หรือต้องการที่จะยกเลิกแก้ไข ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเห็นด้วยในหลักการสามารถทำได้ แต่รัฐบาลต้องสั่งการให้มีการรวบรวม เพื่อแยกประกาศ และคำสั่งของ คสช. ว่า มีสถานะเทียบลำดับชั้นกฎหมายว่าอยู่ในสถานะใด เพราะจะมีผลนำไปสู่วิธีการดำเนินการเพื่อยกเลิก หรือแก้ไข ด้วยวิธีการที่ถูกต้องต่อไป
นายราเมศ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะให้มีการสังคายนาประกาศ และคำสั่ง คสช. ที่เป็นอุปสรรค และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ข้อเท็จจริงในปัจจุบัน แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการ
แต่การที่รัฐบาลจะใช้คำว่ารัฐบาลเป็น รัฏฐาธิปัตย์ ไม่ถูกต้อง ดูแล้วเหมือนเริ่มลุแก่อำนาจขาดการตรึกตรองที่ดี จะคิดว่าคำสั่งของรัฐบาลเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ออกกฎหมายได้เอง มีอำนาจสูงสุด คงผิดหลักการปกครองในระบบประชาธิปไตย
เพราะขณะนี้ อำนาจในการตรากฎหมายออกกฎหมาย เป็นของฝ่ายนิติบัญญัติ ยกเว้น กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง พระราชกฤษฎีกา ที่รัฐบาลสามารถออกได้ แต่ก็ต้องอยู่ภายในขอบเขตอำนาจ ที่ฝ่ายนิติบัญญัติมอบหมายไว้อย่างเคร่งครัด
ฉะนั้น ประกาศหรือคำสั่ง คสช. ต้องแยกให้ชัด เพราะมีบางส่วนที่จำต้องออกเป็นพระราชบัญญัติมาแก้ไขหรือยกเลิกเสียก่อน เหตุผลที่สำคัญ มี มาตรา 279 รัฐธรรมนูญกำหนดว่า คําสั่ง และการกระทําของ คสช. ตลอดจนการปฏิบัติตามประกาศ หรือคําสั่ง ให้มีผลใช้บังคับโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ต่อไป
การยกเลิก การแก้ไขเพิ่มเติมประกาศหรือคําสั่งดังกล่าว ให้กระทําเป็นพระราชบัญญัติ เว้นแต่ประกาศหรือคําสั่ง ที่มีลักษณะเป็นการใช้อํานาจทางบริหาร การยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมให้กระทําโดยคําสั่งนายกรัฐมนตรี หรือมติคณะรัฐมนตรี
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารปกครองราชการแผ่นดิน สิ่งที่สำคัญ การดำเนินการสิ่งใดควรตรวจดูกฎหมายให้ถี่ถ้วน ประเทศปกครองด้วยกฎหมาย ถ้ารัฐบาลละเมิดเสียเอง แล้วประชาชนจะหวังอะไรได้จากรัฐบาล การอ้างว่า รัฐบาลเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เหมือนเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า รัฐบาลนี้เริ่มต้น แล้วในการเดินเข้าสู่เส้นทางการใช้อำนาจตามอำเภอใจ
-------------