โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สั่งโละคกก.รัฐบาลเก่า-คำสั่ง คสช. ที่ไม่จำเป็น ลั่น รัฐบาลนี้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ นายกฯสั่งการยกเลิกได้

นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลังได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก โดยแถลงผลการประชุม พร้อมแนะนำตัวว่า จบสัตวแพทย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยบอกว่าเป็นการแถลงข่าวในชีวิตทางการเมืองครั้งแรกกับสื่อมวลชน


โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีคำสั่งมอบหมายให้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการเตรียม จัดพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ


ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาความเห็นต่าง ครม.มีนโยบายจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ตามคำสั่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าต้องสอบถามความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งจะมีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยการแก้จะต้องมี 2 ประเด็นคือ ต้องให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และต้องไม่แก้หมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์


สำหรับการเติมเงินในระบบดิจิตอลวอลเลต 10,000 บาท นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเจ้าภาพไปกำหนดเงื่อนไขรายละเอียด และให้นำกลับมาเสนอ ครม.โดยเร็ว ซึ่งอาจจะทันการประชุม ครม.ครั้งหน้า ส่วนข้อท้วงติงจากหลายฝ่ายถึงแหล่งที่มาของเงิน นั้น นายกรัฐมนตรี เห็นด้วย


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาก่อนโควิด-19 ประเทศไทย มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านล้านบาท และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 15 ล้านคน ดังนั้นจึงได้กำชับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ตั้งเป้านักท่องเที่ยวทั้งปี 28 ล้านคน


ซึ่งเมื่อประมาณการทั้งปีจะมีรายได้กว่า 2.4 ล้านล้านบาท และเป้าหมายปี2567 ต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศ 180 ล้านคน ส่วนที่การยกเว้นวีซ่าจีนและคาซัคสถาน เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนเติบโต โดยปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศถึง 200 ล้านคน จึงเป็นโอกาสของไทย ซึ่งจะมีการทำภาพยนตร์โฆษณา เชิญอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งจะเพิ่มเที่ยวบินไปยังเมืองรองของจีนและจัดอีเว้นต์ตลอดทั้งปี และจะทำให้ไทยเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ฮับในเอเชีย


ขณะเดียวกันรัฐบาลรัฐบาลจะตั้งทีม Online Crisis Management เพื่อไม่ปล่อยให้มีเรื่องกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์ โดยนายกรัฐมนตรีจะนั่งเป็นประธาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นั่งรองประธาน นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นคณะกรรมการ และมีนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นเรกกูเลเตอร์ หรือ เป็นคุณพ่อรู้ดี


นายสัตวแพทย์ชัย ยังระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงไปดูมติ ครม. ของรัฐบาลที่ผ่านมาที่ได้ตั้งคณะกรรมการ 178 ชุด ถ้ากรรมการชุดใดไม่มีความจำเป็น หรือข้อเสนอที่ดีว่า ทำไมต้องมีคณะกรรมการชุดนั้นให้ยกเลิกทั้งหมด โดยให้รายงานกลับมาภายใน25 กันยายนนี้ รวมถึงให้กระทรวง ทบวง กรม ไปทบทวนว่า คณะกรรมการใดที่ถูกตั้งโดยใช้อำนาจ คสช. ยังมีอะไรที่จำเป็นต้องคงไว้หรือไม่ โดยให้เสนอกลับมาภายในวันที่ 9 ต.ค. นี้ หากไม่เสนอมาถือว่ายกเลิกทั้งหมด


เมื่อถามว่าหากต้องมีการยกเลิกคำสั่ง คสช. นายกฯ จะใช้อำนาจอะไรในการยกเลิก หรือต้องมีการออก พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช. นายสัตวแพทย์ชัย ระบุว่ามติ ครม. ก็ยกเลิกได้ ตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้ว


เมื่อถามย้ำว่าใช้มติ ครม.ยกเลิกคำสั่ง คสช. เช่น ม.44 ได้เลยหรือไม่ นายสัตวแพทย์ชัย ระบุว่าคำสั่งอะไรก็ตามของ คสช. และ ครม. ต้องส่งกลับมาภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ หากไม่มีการเสนอมาใหม่ว่าจะขอใช้ต่อ ให้มีผลยกเลิกทันที ซึ่งเป็นกลไกที่มีอยู่แล้ว


เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นข้อสั่งการของนายก หรือ เป็นมติครม. โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อสั่งการ เพราะข้อสั่งการของนายกฯคือมติ ครม. และ เท่ากับมติครม. ซึ่งเมื่อโฆษกยืนยัน ต่างทำให้สื่อมวลชนอึ้ง เพราะคำสั่ง คสช.อยู่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ซึ่งการจะแก้ ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือออก พ.ร.บ.เพื่อยกเลิก


เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดการงบประมาณที่จะใช้ในการลดราคาพลังงาน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า เรื่องรายละเอียด มีการบริหารจัดการเรื่องภาษีสรรพสามิต เงินอุดหนุน ค่าเอฟที แต่ขอเรียนว่าการลดค่าไฟฟ้า ครม. ไม่มีอำนาจ คนที่มีอำนาจคือคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน แต่การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนำมาเสนอให้กับ ครม. รับทราบ ซึ่ง ครม. ไม่ทวงติงและเห็นด้วย เพราะฉะนั้นคำตอบก็คือมีการบริหารต้นทุนต่างๆ ที่อยู่ในโครงสร้างพลังงานใช้การบริหารจัดการในกลุ่มนั้น ส่วนเงินจะใช้เงินสนับสนุนของรัฐบาลหรือไม่ คือ ไม่ควักออกเพิ่มอาจจะ ของเดิมที่เคยเก็บเยอะอาจจะเก็บน้อยลงและขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด


“ซึ่งในที่ประชุมบอกว่า หากมีคำถามจากสื่อมวลชนขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ชี้แจง และเวลาที่สื่อมวลชนสงสัยอะไรให้ในการแถลงมติ เวลาเจอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ท่านไปเจาะได้เลย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะอธิบายได้ละเอียดเพราะท่านเป็นคนทำมาเสนอ”


ทำให้ผู้สื่อข่าว ถามกลับไปโฆษกรัฐบาล ว่า ถ้าจะให้สืบคุยกับรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือหน่วยงานก็ให้เอารัฐมนตรีมาแถลงจะได้ชัดเจน เพราะการที่ประชุม ครม. ประชาชนกำลังรอเรื่องการลด ค่าไฟค่าน้ำมัน ว่าจะลดลงเท่าไหร่ และจากกระทบกับภาษีของประชาชนมากน้อยแค่ไหน ภาระของประเทศจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน อันนี้คือสิ่งที่สื่อต้องการ ไม่ใช่ให้กลับไปถามรัฐมนตรี


โฆษกรัฐบาล จึงบอกว่า ที่ท่านพูดมาว่าประชาชนอยากรู้ว่าค่าไฟ ค่าน้ำมันลดเท่าไหร่ มติครม. ชัดเจนอยู่แล้วว่า ลดหน่วยละเท่าไหร่


ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า สื่ออยากรู้ว่า ภาระที่ลูกหลานต้องใช้ในอนาคต เป็นสิ่งที่ประชาชนก็ต้องการรู้ด้วย