เลือกตั้งและการเมือง

อย่าด้อยค่า ทหารอันทรงเกียรติ! ‘เศรษฐา’ สวน ‘ก้าวไกล’ ยันชาติต้องการความสามัคคี ย้ำแผนพัฒนากองทัพ

13 ก.ย. 2566

21 views

เมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 6 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ เป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย


นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงเรื่องการปฏิรูปกองทัพ อย่างดุเดือด พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะมีอำนาจพอที่จะเข้าไปจัดการเรื่องต่างๆ หรือไม่ หรือจะมาเป็นแค่ แมสเซ็นเจอร์หรือโฆษกของกองทัพ

จนเมื่อเวลา 19.41 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งที่ 6 ของวัน หลังพรรคก้าวไกลอภิปรายนโยบายรัฐบาลเรื่องการทหารว่า นโยบายรัฐบาลไม่มีความชัดเจนเรื่องการปฏิรูปกองทัพและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และมองว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นแค่ Messenger หรือโฆษกของกองทัพไม่กล้ามีปากมีเสียงหรือแม้แต่จะค้านอะไร ทำได้แค่รับคำสั่งจากกลาโหมแล้วส่งให้ครม. อนุมัติ ว่า ตนฟังมาก็เกือบสองวันเต็มแล้วเป็นอะไรที่ผมเชื่อว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ฝังรากลึกคือเรื่องของการด้อยค่ากัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองด้วยกันเอง ทั้งที่ยังไม่ได้บริหารราชการ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันทหารอันทรงเกียรติ ซึ่งแน่นอนว่าทุกสถาบัน ทุกหน่วยงาน มีทั้งคนดีคนไม่ดี


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การที่เรามีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นจุดเริ่มต้น ในการที่เราจะเข้ามาช่วยกันแก้ไข สะสางปัญหาที่หมักหมมมานาน เป็นปัญหาใหญ่ เป็นเรื่องของการที่ไม่เข้าใจกัน เป็นเรื่องของช่องว่างที่มีระหว่างกัน รวมถึงประเด็นที่ยกอภิปรายคือประเด็นของทหาร


นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของผมผมใช้คำว่าพัฒนากองทัพ ผมเชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกันผลลัพธ์ออกมาอาจจะแตกต่างกันบ้างตามการที่เปลี่ยนไป ตามขีดจำกัดในการทำงาน ตามผลลัพธ์ที่เราอยากออกมาให้เห็นสังคมเดินไปข้างหน้าได้ ลดความขัดแย้ง ลดการใช้วาทกรรมที่มีการด้อยค่ากันในสภาอันทรงเกียรตินี้


“เมื่อกี้ที่ฟังไปเห็นใบหน้ายิ้มแย้มหัวเราะเยาะกันไปกับตัวอย่าง อาจจะจริงหรือต้องการพิสูจน์ทราบ ผมเข้าใจวิธีการนำเสนอ แต่แทนที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกัน ในการเจรจา ในการพัฒนาสถาบันทหารควบคู่กันไปเพื่อพี่น้องประชาชนอาจจะลำบากขึ้น ตนในฐานะผู้นำรัฐบาลมีความเป็นห่วงจริงๆ แต่ผมบังคับในการใช้วาทกรรมด้อยค่าไม่ได้ ผมว่าผมพูดมามากพอในเรื่องนี้แล้ว ว่าการที่เราจะพัฒนากองทัพรวมกัน ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้เกียรติกองทัพและภาคการเมืองที่ต้องมีเวลาในการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ยืนยันเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ในการเลือกประกอบอาชีพอย่างสมศักดิ์ศรี โดยดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันทหาร เมื่อยามที่ต้องการการปกป้องอธิปไตยของคนไทย”


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทหารเป็นภาคส่วนที่มีวินัยสูง ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพเป็นการเบื้องต้นอย่างผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ เรื่องของการเคารพการมาช่วยกันพัฒนาประเทศ ซึ่งทหารก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามที่เกิดปัญหา


ส่วนเรื่องของการจัดซื้ออาวุธ ก็มีการพูดคุยกันว่าจะซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเปราะบาง และรัฐบาลต้องการงบประมาณในการจัดสรรไปด้านอื่นๆ ที่อาจจะมีความจำเป็นมากกว่า

--------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/oQGIdn95w28



คุณอาจสนใจ

Related News