เลือกตั้งและการเมือง

'ก้าวไกล' วาง 30 ขุนพล ชำแหละนโยบายรัฐบาล ‘วิโรจน์’ แนะ ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯครั้งแรก อย่าว้าวุ่น

8 ก.ย. 2566

133 views

'ก้าวไกล' วาง 30 ขุนพลชำแหละนโยบายรัฐบาล ยันอภิปรายครอบคลุมทุกมิติ 'ชัยธวัช' รับผิดหวังคำแถลงคลุมเครือ ชวนสงสัย สะท้อนเนื้อแท้ของการเมือง เกรงใจ-พินอบพิเทา ไม่พูดถึงปัญหาจากการรัฐประหาร


เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า การประชุมวิป 3 ฝ่ายวานนี้ (7 ก.ย.) เป็นไปด้วยความราบรื่นเหมือนแมตช์กระชับมิตร ซึ่งฝ่ายรัฐบาลยอมให้เวลาฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง ในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล เป็นกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล เนื่องจากได้โทรฯ คุยประสานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน หลังจากนี้คงประสานแบ่งเวลากันได้ เบื้องต้นน่าจะใช้วิธีเดิมคือแบ่งสัดส่วนตามจำนวน สส. แล้วจึงเจรจาต่อรองกัน


ทั้งนี้ ยืนยันว่าเวลา 14 ชั่วโมงไม่ถือว่าเยอะเกินไป หากเทียบกับการอภิปรายในอดีตของรัฐบาลที่แล้ว ฝ่ายค้านใช้เวลา 12 ชั่วโมง หรือหากย้อนไปสมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้านมีเวลา 12 ชั่วโมง แต่ไม่รวมเวลาของหัวหน้าพรรคที่อภิปรายได้ไม่จำกัดเวลา 14 ชั่วโมงจึงถือว่าน้อยกว่าอดีตด้วยซ้ำ


ส่วนที่รัฐบาลระบุว่า วาระนี้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แน่นอน ทางพรรคก้าวไกลยึดถือเรื่องนี้ดี และไม่อภิปรายออกนอกวาระ เพราะวาระนี้สำคัญมาก เป็นการซักถามรัฐบาล และให้สัญญาประชาคมว่า 4 นับจากนี้ รัฐบาลชุดนี้ จะผลักดันประเทศให้เดินไปข้างหน้าอย่างไรบ้าง จึงคิดว่าต้องใช้เวลาเต็มที่


ในการซักถามให้ตรงประเด็น ทั้งนโยบายเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รัฐบาลมองเรื่องนี้ในรายละเอียดอย่างไรใน 4 ปีข้างหน้า และจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนเลือกตั้งอย่างไรบ้าง และยืนยันจะไม่มีการพูดถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรี เพราะชัดเจนว่าเป็นการแถลงนโยบาย


ส่วนจะอภิปรายเรื่องใดบ้างนั้น นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า เราให้ความสำคัญใกล้เคียงกัน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง แต่จะให้เวลาเรื่องใดมากสุด ต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ไม่ได้ยึดว่าประเด็นต้องไม่ซ้ำกัน เพราะแต่ละพรรคก็มีเอกสิทธิ์ในการซักถาม เพียงจัดหมวดหมู่ให้ร้อยเรียงกันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน


ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์ เพียงแต่ชี้แจงไปอย่างตรงไปตรงมา ก็จบแล้ว สบายๆ และในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะให้ความสำคัญกับงานของรัฐสภา


 "สภาผู้แทนราษฎรชื่อตรงตัวอยู่แล้ว ว่าเป็นที่รวมกันของผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยก็เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน รู้ดีมาโดยตลอดถึงความบอบช้ำที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการตอบคำถามในสภา ก็หวังว่าคงไม่ต้องทวงถามกัน สมานฉันท์" นายวิโรจน์ กล่าว


ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลฝากว่าพรรคฝ่ายค้านอย่าเพิ่งฮึกเหิมมากนัก นายวิโรจน์ กล่าวว่า"ทำไมฝากเยอะจัง กลัวหรือไม่ แต่ก็เข้าใจ นายเศรษฐา ทวีสิน เพิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก แล้วก็เพิ่งมารวมกับลุงด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย อย่าว้าวุ่นนะ เตรียมสมาธิดีกว่า แล้วเจอกันวันที่ 11 ก.ย.”


-----------------------------


ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นถึงการเตรียมอภิปรายนโยบายของฝ่ายค้านในวันที่ 11-12 ก.ย. นี้ โดยระบุว่า หลังจากนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมกัน ซึ่งในส่วนพรรคก้าวไกลได้จัดผู้อภิปรายไว้ทั้งสิ้น 30 คน รู้สึกเสียดายที่ได้เวลาอภิปรายเพียง 2 วัน หากได้เวลา 3 วัน จะชัดเจนและลงลึกมากขึ้น จะพยายามให้ครอบคลุมทุกเรื่อง บางเรื่องอาจมีเวลาไม่พอจะพูดถึง แต่ก็จะทำให้ครบทุกมิติ  


 "จะไม่ได้เน้นที่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะครบทุกมิติ รวมถึงตรวจสอบ ตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายที่ออกมาจะสะท้อนเนื้อแท้ของรัฐบาลชุดนี้ และการเมืองในยุคปัจจุบันอย่างไร" นายชัยธวัช กล่าว


 ส่วนกระแสวิจารณ์ของบางฝ่ายว่า คำแถลงนโยบายมีความกว้างเกินไป ก็เห็นแต่ตัวร่าง ยังไม่รู้ว่าตัวจริงดีกว่านี้หรือไม่ ซึ่งยอมรับว่ามีความกว้างจริง หลายเรื่องคลุมเครือ ชวนให้สงสัยว่าหมายถึงอะไรกันแน่ มีไม่กี่กรณีที่ระบุเป็นรูปธรรมชัดเจนว่าจะบรรลุเป้าหมายด้วยมาตรการใด แต่ก็ยังต้องถามรายละเอียดของมาตรการนั้น และตอนนี้ยังไม่มีตัวชี้วัดและกำหนดเวลาที่ชัดเจน ตอนนี้พรรคก้าวไกลก็ทำการบ้านอย่างเต็มที่


นายชัยธวัช กล่าวว่า ค่อนข้างผิดหวัง ไม่รู้ว่านโยบายของรัฐบาลจะเป็นความหวังได้หรือไม่ แต่ก็คงร้องให้โอกาสในการทำงานจริง ขณะที่บางนโยบายที่ 8 พรรคร่วมเดิม เคยพัฒนาร่วมกันนั้น สส.ก้าวไกลหลายคน มองว่ามีหลายนโยบายยังไม่ได้อยู่ในคำแถลง คงต้องเสนอแนะต่อรัฐบาล แต่อีกส่วนที่สำคัญคือนโยบายที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดไว้แล้วบางส่วนหายไป หรือไม่เหมือนเดิม คงจะเป็นคำถามที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางท่านต้องตอบ



ขณะที่ตอนนี้รัฐบาลกำลังสร้างความปรองดอง สลายขั้ว พรรคก้าวไกลมีแนวทางจะเข้าไปสู่สมการสลายความขัดแย้งนี้อย่างไร นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสลายขั้ว หรือจับขั้วกันใหม่ ลักษณะทางการเมืองแบบนี้ก็สะท้อนผ่านนโยบายอยู่



"จะเห็นได้ว่ามีความตั้งใจใช้คำพูดที่คลุมเครือ ไม่ได้พูดถึงปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร มีความพยายามจะเกรงอกเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง พินอบพิเทาเป็นอย่างยิ่ง ในการแถลงนโยบาย แต่ก็ไม่เป็นไร คำพูดอาจจะประนีประนอมได้ แต่เนื้อหาสุดท้ายต้องดูว่าการปฏิบัติเป็นอย่างไร" นายชัยธวัช กล่าว



ขณะที่การวางตัว สส.หน้าใหม่ ที่จะอภิปรายนโนบาย นายชัยธวัช กล่าวว่า จะมีทั้ง สส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ขอให้รอติดตาม พร้อมย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลกล่าวว่า การแถลงนโยบายไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ไม่ใช่การอภิปรายซักฟอก แต่ก็ต้องใช้เวลา เนื่องจากปัญหาประเทศมีหลายอย่าง


"ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้เปลี่ยนจากอภิปราย 1 วันเป็น 2 วัน ถือว่ายังดีขึ้น"


ส่วนการอภิปรายจะรุนแรงจนถึงขั้นประท้วงกันเหมือนปี 2562 หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่หวังว่ารัฐบาลจะปล่อยให้การอภิปราย การตรวจสอบตั้งคำถาม เป็นไปอย่างราบรื่น


ทั้งนี้ ในวันศุกร์-อาทิตย์นี้ (8-10 ก.ย.) พรรคก้าวไกลได้นัดหมายติวเข้ม สส.ทุกคนที่จะขึ้นอภิปรายนโยบายของรัฐบาล โดยนายชัยธวัช กล่าวติดตลกว่า ต้องขออภัยครอบครัวของ สส. เหล่านั้นด้วย 3 วันนี้ ถูกบังคับเข้าโรงเรียนประจำอยู่ที่พรรค


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5eq_TAV4bNE



คุณอาจสนใจ

Related News