เลือกตั้งและการเมือง
อำลา 9 ปีเก้าอี้นายกฯ 'บิ๊กตู่' เข้าทำเนียบวันสุดท้าย น้ำตาคลอร้องเพลงสะพาน ร่วมโต๊ะครม.-สื่อ
โดย nattachat_c
1 ก.ย. 2566
148 views
วานนี้ 31 สิงหาคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าปฎิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล วันสุดท้าย ในเวลา 09.09 น. โดยเปลี่ยนจากรถประจำตำแหน่งเป็นรถยนต์ส่วนตัวทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร
โดยเมื่อขบวนรถนายกฯ เดินทางมาถึง ทำเนียบรัฐบาล ได้จอดบริเวณประตู 1 ทำเนียบฯ จากนั้น พลเอกประยุทธ์ เดินลงจากรถ มาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย ก่อนที่จะขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
โดยพลเอกประยุทธ์ เปิดเผยหลังสักการะว่า ตนอธิฐานให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น มีความสุขนะจ๊ะ ช่วยๆกัน พร้อมยืนยันว่านายกฯก็ยังทำงานอยู่แหละ
ส่วนวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อย่างนั้นไงถึงได้ลาวันนี้ ฉันยังทำงานอยู่นะ ก็เดี๋ยวเขียนหนังสือข้างนอก ก่อนที่จะกล่าวย้ำถึง 2 ครั้งว่า เป็นมารยาท เป็นมารยาท
----------
นายเสกสกล อัถถาวงศ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย ว่า มาอาลัยอาวรณ์พลเอกประยุทธ์เนื่องจากท่านเป็นคนดีและให้โอกาสตนเองได้ทำงาน เพื่อชาติบ้านเมืองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งตนกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำโดยไม่อวยว่า ไม่เคยเจอนายกรัฐมนตรีและผู้นำประเทศที่มีความตั้งใจและเสียสละเหมือนกับพลเอกประยุทธ์ ดังนั้นความรักความศรัทธาที่ตนมีให้กับพลเอกประยุทธ์จะไม่มีวันเสื่อมคลาย ตราบจนสิ้นลมหายใจ
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย ส่วนตัวยินดีต้อนรับเพราะมาตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง ย้ำประเทศชาติต้องเดินหน้าไม่มีทะเลาะกัน ต้องให้โอกาสและให้เกียรติท่าน เพื่อให้ได้เข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน ซึ่งเมื่อนายทักษิณกลับมาก็อาจทำให้บ้านเมืองเกิดความสามัคคีปรองดองได้ ยืนยันว่าไม่มีอะไรคาใจกับนายทักษิณ อีกทั้งนายทักษิณก็บอกว่าอโหสิให้กับทุกคนไม่มีอะไรโกรธเคือง และตนเองในฐานะลูกน้องเก่า อยู่กับนายทักษิณมา 10 ปี ก็ให้โอกาสนายทักษิณได้กลับมา เพราะได้กลับมาอยู่กับครอบครัวเป็นสิ่งที่ดี
----------
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมาร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมวงรับประทานอาหารอำลาสื่อฯในการปฏิบัติหน้าที่เป็นวันสุดท้าย
โดยทันทีที่เดินทางมาถึงยังบริเวณหน้ารังผู้สื่อข่าว พลเอกประยุทธ์ได้เบรกสื่อมวลชน ว่าวันนี้คุยแต่เรื่องสนุกสนานก็พอ การเมืองไม่ต้องคุยกัน เพราะคุยกันมา 9 ปีแล้ว ทะเลาะกันไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็ทำงานเป็น พูดไม่เพราะบ้างอะไรบ้างก็ตามสไตล์
ส่วนหลังจากนี้ จะไปเที่ยวพักผ่อนที่ใด พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าคงให้นิ่งสักระยะ ไปถูกหรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะที่ผ่านมานั่งรถจากบ้านมาทำเนียบทุกวัน
เมื่อถามว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น กับพลเอกอนุพงษ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ฝากลุงป๊อกไปเที่ยวก่อน ชีวิตเราหายไป 9 ปี ก็อยากอยู่กับครอบครัว สถานการณ์มันก็เปลี่ยนไป ตามสภาวะซึ่งขณะนี้ ก็สงบเรียบร้อยในระดับที่น่าพอใจ หากพวกเราช่วยกันรักษามันก็ไปได้ เราต้องทำให้ต่อเนื่อง วันนี้ไม่ขอวิจารณ์ หลังจากนี้ตนก็จะปฏิบัติหน้าที่ยังบ้านพัก จนกว่าครม.ชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เดินทางมาพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า แล้วถามถึงห้องนอน พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าแล้วแต่ท่าน ถ้าจะนอนก็มีห้องเล็กๆอยู่ ซึ่งหากงานเยอะ งานสำคัญ ก็แล้วแต่ท่าน แต่ตนไม่เคยนอน เพราะพวกเธอมารบกวน นอนไม่หลับ พูดผิดไปตนก็โมโห แล้วก็กลับมาเสียใจ พร้อมกับยกตัวอย่างนายอนุทิน สายหวานไม่เคย ทะเลาะกับใคร พูดจาดีตลอด ส่วนฉันสายดาร์ก หรือขี้โมโห มันก็เป็นประจำ อยู่แล้วเพราะเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว บางทีอาจไม่เหมาะสม แต่เราก็ดูผลงานที่ออกมา เพราะเราเป็นทหารมาก่อน
ส่วนหลังจากนี้หากพ้นตำแหน่งจะเหงาหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าไม่เหงา เราเป็นคนช่างคิดช่างอ่าน นิสัยนี้เลิกไม่ได้ แต่ก็ดูสถานการณ์ความเป็นไป ตนก็เหมือนประชาชนคนหนึ่ง เราต้องกำหนดบทบาทตัวเองให้เหมาะสม แต่ก่อนอาจจะดุไปบ้างเพราะเป็นนายกฯ ก่อนที่จะหยอกสื่อมวลชนว่า เดี๋ยวจะให้ไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งสื่อมวลชนตอบกลับว่า เข้าไม่ได้ตั้งแต่สนามบินแล้ว ก่อนที่พลเอกประยุทธ์จะกล่าวต่อ ว่า แบบนี้ให้ไปสัมภาษณ์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก่อนที่สื่อจะกล่าวว่า เข้ารั้วทำเนียบขาวยังไม่ได้ พลเอกประยุทธ์จึงกล่าวว่า ไม่เหมือนกับที่ประเทศไทยนี่แหละ คืออิสระเสรีของสื่อนี่คือประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่น
เมื่อสื่อมวลชนขอให้ พลเอกประยุทธ์ พูดเสียงดังๆเพราะไม่ได้ยิน พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า บางทีพูดไม่ได้ยินแล้วทำไมเขียนได้ รู้ใจขนาดนั้นเลย เขียนออกมาเป็นนิยายเต็มเลย
เมื่อสื่อถามย้ำว่างานอดิเรกจากนี้ไปของพลเอกประยุทธ์ นอกจากอ่านหนังสือแล้ว จะมีการเขียนหนังสือหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ขอคิดดูก่อน ขอพักสมองบ้าง เพราะเจอกับหนังสือมา 9 ปีแล้ว
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนชอบทุกเพลงที่แต่งมา เพราะมีความหมายสำหรับเรา เราไม่ใช่กวี แต่เราทำได้ก็เลยทำ ภาษาไทยเราก็ได้ดี เพราะแม่เป็นครู เวลาประชุมทหาร ก็มีกลอน มีกวีตลกบ้างอะไรบ้าง แล้วก็ปลุกใจน้องๆทหารเด็ก เพราะไม่เช่นนั้นเวลาไปถึงสนามรบแล้วอ่อนแอ จะไม่สามารถสู้รบได้
โดยพลเอกประยุทธ์ ยังเปิดใจว่าเพลงที่ตนชอบที่สุดคือเพลงสะพาน เนื่องจากได้แรงบันดาลใจมาจาก เพลง การข้ามสายน้ำที่เกรี้ยวกราด Brudge overTrobleled water พร้อมบอกให้สื่อมวลชนเปิดเพลงสะพานและฮัมเพลงตาม
ส่วนเพลงเราจะทำตามสัญญา พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนั้นก็คิดอย่างนั้นจริง ไม่ได้คิดจะมาถึงตอนนี้หรอก ก็รู้ว่าเข้ามาอย่างไร สถานการณ์เป็นอย่างไร ถ้ามันเรียบร้อยฉันก็ไปนานแล้ว ถ้ามันสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหาก็ไม่ได้ตั้งใจอยู่มาถึงขนาดนี้หรอก 4 ปีแรก 4 ปีหลังอย่าลืมว่าเข้ามาด้วยอะไร ไม่ใช่พูดอยู่อย่างนั้นแหละไม่ยอมเลิกสักที ต้องไปดูว่าตอนนั้นเกิดอะไร ขึ้นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อกันเป้าหมายฉันมีแค่นั้น
ส่วนมองอย่างไรกับการตั้งรัฐบาลปรองดอง พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า มันไม่ใช่รัฐบาลปรองดอง เราต้องปรองดองกันเอง ใครจะไปสั่งให้ปรองดองกันได้
ขณะเดียวกันยังกล่าวอีกว่า ทุกอย่างจะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนที่คนบอกว่าตนหวงอำนาจ อำนาจนั้นต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ มันเป็นไปตามกลไกการเลือกตั้ง ถามพี่หนูสิ (อนุทิน) ว่าใช้อำนาจอะไร ตนบอก ครม.ทุกครั้ง อำนาจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ดีหรือไม่ดี คือการใช้อำนาจ หากใช้ไม่ถูกก็มีปัญหา ตนพยายามระมัดระวังมาตลอด 9 ปี เราอยู่กับการเมืองมาหลายปีทั้ง 4 ปีแรกและ 4 ปีหลัง เราต้องทำการเมืองที่สร้างสรรค์ ถ้าคนแตกแยกกันมากๆมันก็อันตราย ถ้าแตกแยกกันเป็นกลุ่มๆมันเดินหน้าไม่ได้ อันตรายกับลูกหลาน แต่วันหน้าอาจจะดีก็ได้ เราพูดมากก็จะกลายเป็นมีอำนาจอะไรหรือเปล่า ตนไม่เคยคิดว่าตนมีอำนาจ
ส่วนจะฝากอะไรถึงชาวเน็ตหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ฝากความรักความคิดถึง ไม่โกรธเคืองใคร ไม่ว่าจะชมจะรักจะชอบหรือไม่ชอบ แต่คนในโซเชียลจะต้องมีภูมิคุ้มกัน บางทีไม่รู้จักกันแต่ฟังมากๆก็เกลียดตามเขา ต้องมีเหตุผล ไม่อย่างนั้นวันหน้าจะอยู่อย่างไรถ้าทุกคนบิดเบี้ยวไปหมด กฎหมายอยู่ไหนไม่รู้มันอันตรายสำหรับประเทศ พวกเราก็ช่วยกันก็แล้วกัน
พร้อมกันนี้พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวว่าอ่านโซเชียลแล้วจี๊ดทุกเรื่อง แต่ไม่เป็นไรมันเป็นการแสดงความคิดเห็น ซึ่งจากนี้ไปตน ก็คงไม่ดูเพราะที่ผ่านมาทีมงานเป็นคนทำให้ และตนไม่เคยเล่นโชเชียล มีคนทำให้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามองหน้าผู้สื่อข่าวคนใดแล้วจี๊ดที่สุด พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า จี๊ดทุกคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่าประทับใจอะไรกับเรือลำนี้ 9 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า คือความรักความสำเร็จ คือความรักความสามัคคีที่ทำอย่างไรเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชนและเพื่อสถาบันต่างๆ
ส่วนประทับใจอะไรใน 9 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ประทับใจการประชุมครม. ทุกสัปดาห์ ที่ทุกคนเห็นชอบร่วมกันในการปฏิรูปประเทศ พร้อมกล่าวถึงยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ ขอให้ไปอ่านดู ไม่ใช่ไม่อ่านแล้ววิจารณ์ได้เป็นหน้าๆ
ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์ยังยอมรับว่า 9 ปีที่ผ่านมางานคืบหน้าไปได้เกินครึ่ง บางโครงการก็ถึง 80% 90% อย่างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณสุข และได้ร่วมถ่ายรูปกับสื่อมวลชน และหยอกล้ออย่างเป็นกันเอง
จากนั้นพลเอกประยุทธ์ ได้ขึ้นไปสักการะศาลพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กับตึกไทยคู่ฟ้า ในเวลา 13.00 น. ก่อนที่จะลงมาพบเอฟซี และข้าราชการที่มารอส่ง การปฏิบัติหน้าที่ในวันสุดท้าย พน้อมกล่าวกับผู้ที่มาส่งว่า อะไรก็ตามที่ทำให้พวกเราไม่สบายใจ ไม่พอใจก็ขอบอกว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ตั้งใจแบบนั้นขอบคุณทุกคนและทุกหน่วยงานทั้งรัฐและรัฐวิสาหกิจทุกคน ขอให้เดินหน้าได้อย่างปลอดภัยขอฝากแค่นี้ พวกเราไม่ว่าใครจะมาใครจะไป หน่วยงานต้องอยู่ให้ได้ทั้งตัวเองและครอบครัวจะทำอะไรต้องไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อน ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เจอกันข้างนอกขอให้ทักบ้างอาจจะจำไม่ได้ตหน้าผมอาจจะเปลี่ยนไปเยอะ หลายคนบอกว่าจะพาผมไปเที่ยวแต่จะไปได้อย่างไรเพราะทุกคนก็จำหน้าผมได้ในขณะนี้
จากนั้นพลเอกประยุทธ์ได้เชิญชวนให้ทุกคนร่วมร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด คำสัญญา ของอินโดจีน เพลงด้วยรักและผูกพัน ของเบิร์ด ธงชัย และเพลง ศรัทธา ของหินเหล็กไฟ ก่อนที่ จะลงจากตึกไทยไปถ่ายรูปกับแฟนคลับสนามหญ้าหน้าตึกไทย ก่อนที่จะขึ้นรถยนต์ส่วนตัว หมายเลข ญค 1881 กทม. ออกจากทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 14.04 น . และแวะสักการะสิ่งศักด์สิทธิ์ บ้านพิษณุโลก ด้วย โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ ประยุทธ์ น้ำตาคลอ ระหว่างขึ้นรถ เดินทางกลับด้วย
----------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/bFFl3rQgQyk