"พิชิต" เปิดใจ วอนเลิกเรียกว่าทนายถุงขนม 2 ล้าน ยืนยันคำสั่งศาลให้จำคุก ไม่ใช่คำพิพากษา

"พิชิต" เปิดใจกับทีมข่าวการเมืองช่อง 3 หลังมีชื่อเข้าในโผ ครม.ว่าจะเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ โดยตอบทุกประเด็นที่เป็นคำถาม โดยประเด็นแรก ที่ถูกตั้งคำถามเรื่องคุณสมบัติ เพราะเคยถูกศาลสั่งจำคุกข้อหาละเมิดศาล เมื่อปี 2551 ซึ่งนายพิชิต ยืนยันว่า ครั้งนั้นตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เพียงแค่โทรศัพท์ไปสอบถามทางศาลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้มีความผิดไปด้วย แต่ยืนยันว่าคำสั่งศาลให้จำคุก ไม่ใช่คำพิพากษา และไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา และขอร้องให้เลิกเรียกว่าเป็นทนายถุงขนม 2 ล้าน เพราะถือว่าไม่เป็นธรรมกับตนเอง หากใครยังละเมิดสิทธิจะขอให้สิทธิทางกฎหมาย ยืนยันว่าคนอย่างตน ถ้าไม่มั่นใจจริง ๆ ไม่ออกมายืนในที่แจ้ง


ส่วนกรณีที่ถูกศาลสั่งให้จำคุกทำให้มีถูกตั้งคำถามเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของการเป็นรัฐมนตรี นายพิชิต ถามกลับว่า การวัดว่าซื่อสัตย์สุจริตจะวัดจากตรงไหน สำหรับตน การไม่มีคุณลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ก็ถือว่ามีความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว


ส่วนที่มีการนำประมวลจริยธรรมมาใช้กับตนนั้น เห็นว่าไม่เป็นธรรม เพราะประมวลจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องใช้กับผู้ที่ดำรงตำแหน่งแล้ว แต่ตนยังไม่มีตำแหน่ง โดยย้ำหลายครั้งว่าขอความเป็นธรรมด้วย


และที่ถูกมองว่าเป็นรัฐมนตรีต่างตอบแทน ได้ตำแหน่งเพราะนายทักษิณนั้น นายพิชิต ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะได้ตำแหน่งเพราะทำงานให้พรรคอย่างหนักมาตลอด ในฐานะที่ปรึกษาของพรรค ซึ่งเรื่องนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ยืนยันได้ และถามว่า หากคุณทักษิณจะให้ตำแหน่งเป็นการตอบแทน ทำไมตนไม่ได้ตำแหน่งตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2554


นายพิชิต ยืนยันด้วยว่ายังไม่เคยเข้าไปเยี่ยมนายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจ และไม่ทราบว่ามีชื่ออยู่ในบุคคลที่จะเข้าเยี่ยมหรือไม่ แต่ยอมรับว่าในวันที่นายทักษิณเดินทางกลับมา ได้ไปช่วยดูแลเรื่องเอกสารต่างๆ ให้ ยืนยันว่านายทักษิณเป็นบุคคลที่ตนให้ความเคารพสูงสุด รองจากพ่อแม่


นายพิชิต ยังยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่ได้ขอให้ทำเรื่องการขออภัยโทษให้ การเข้ามามีตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ใช่เข้ามาเพื่อทำเรื่องนี้ให้นายทักษิณ ทั้งนี้ไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพราะนายทักษิณ ไม่ได้คุยกับตนในเรื่องนี้