เลือกตั้งและการเมือง

"ก้าวไกล" พ่ายมติขอเลื่อนวาระประชุมจัดประชามติแก้ รธน. แซะ "เพื่อไทย" ถ้าร่วมมือด้วยคงราบรื่น

30 ส.ค. 2566

233 views

"ก้าวไกล" พ่ายมติขอเลื่อนวาระประชุมจัดประชามติแก้ รธน. แซะ "เพื่อไทย" ถ้าร่วมมือด้วยคงราบรื่น ด้าน "ครูมานิตย์" โต้ อีก 2 สัปดาห์ นายกฯ คุยเพื่อไทยแน่แก้ รธน.



30 ส.ค.2566 ในการประชุมสภาสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม วันนี้ (30 ส.ค.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้เปลี่ยนระเบียบวาระการปรชุม โดยขอให้นำญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้ คณะรัฐมนตรี ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ถูกบรรจุในเรื่องที่ค้างพิจารณา ลำดับที่ 33 ขึ้นมาพิจารณาก่อนในวันนี้ (30 ส.ค.) โดยให้เหตุผลว่า มีความจำเป็นที่สภาฯ จะต้องทำให้เกิดความชัดเจน หลังจากสังคมถกเถียงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาดำเนินการถึง 2 ปี เพื่อยืนยันหลักการของสภาผู้แทนราษฎร ที่เคยลงมติให้ความเห็นชอบมาแล้วในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมา เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2665



แต่นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก ยังมีเรื่องที่บรรจุในวาระพิจารณาลำดับก่อนหน้า ที่มีความสำคัญ และเร่งด่วนต่อการแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่ตนเสนอ และบรรจุไว้ในลำดับที่ 3 พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ขัดข้อง หากทุกพรรคการเมือง เห็นพ้องให้มีการเลื่อนระเบียบวาระการประชุม แต่หากไม่ใช่ ตนเองก็ขอให้คงระเบียบวาระไว้เช่นเดิม



ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ขอให้นายอรรถกร นำปัญหาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ไปเสนอในการปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม หรือหากนายอรรถกร รับปากว่าในวันพรุ่งนี้ ( 31ส.ค.) จะรับพิจารณาญัตติคำถามประชามติ พรรคก้าวไกล ก็พร้อมถอนญัตติของนายพริษฐ์ เพื่อคงระเบียบวาระตามเดิม



ขณะที่ นายอรรถกร ชี้แจงว่า ตนไม่สามารถให้คำสัญญา และตัดสินใจเองได้ เพราะหากจะเปลี่ยนวาระจะต้องหารือกันในสภาฯ และขณะนี้ ยังมี สส. หลายคน ที่ยื่นญัตติไว้ จึงขอให้พรรคก้าวไกล พิจารณาตามลำดับวาระอย่าแซงวาระการพิจารณาของ สส.คนอื่น ๆ



อย่างไรก็ตาม ยังมี สส.คนอื่น ๆ อาทิ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.นครศรีธรรมราช พรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยกับแนวทางของนายอรรถกร พร้อมขอให้คำนึงถึงปัญหาความเร่งด่วนของประชาชน ทั้งปัญหาราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ และปัญหาปากท้องของประชาชน เพราะวาระการพิจารณาขอมติสภาผู้แทนราษฎรให้คณะรัฐมนตรีจัดการออกเสียงประชามติแก้รัฐธรรมนูญนั้น ก็ได้บรรจุไว้ในวาระการประชุมอยู่แล้ว และอ้างว่า พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้มีการประสานกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุม จึงขอให้ที่ประชุมฯ พิจารณาไปตามระเบียบวาระ ทำให้ต้องมีการลงมติว่าจะ เลื่อนระเบียบวารการประชุมหรือไม่



โดย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ตนเองในฐานะวิปพรรคก้าวไกล ได้ประสานพูดคุยแล้ว ทั้งกับพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงยังทราบว่า มีญัตติการแก้ไขปัญหาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรอการพิจารณาอยู่ ดังนั้น การกล่าวหาว่า พรรคก้าวไกล ไม่ได้ประสานกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ทำให้พรรคฯ เสียหาย และเชื่อมั่นว่า หากพรรคก้าวไกล รวมกับพรรคเพื่อไทย ดำเนินการเหมือนกับที่เคยดำเนินการมาเมื่อสภาผู้แทนราษฎรชุดก่อน ที่มีมติร่วมกันขอให้คณะรัฐมนตรี จัดการออกเสียงประชามติแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างราบรื่น



จนทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้เพื่อยืนยันว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการพูดคุยถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนกำลังถกเถียงอยู่ แต่ขณะนี้ การถกเถียงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในสภาสำคัญกว่า จึงไม่อยากให้สภาหารือซ้ำซาก หรือพาดพิงพรรคเพื่อไทย และขอให้พรรคท่าน ที่เป็นผู้เจริญแล้ว จะทำอะไรก็ทำท่านก็ทำไปเถอะ ขอนิมนต์



ด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงกรณีที่ สส.พรรคก้าวไกล พาดพิงได้มีการหารือเพื่อขอเลื่อนระเบียบวาระการประชุมว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ยินยอมและไม่ขัดข้อง หากจะมีการเลื่อนวาระการหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาพิจารณาก่อน แต่หากจะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนก็ตั้งข้อสังเกตว่า ใครเดือดร้อน และไม่เห็นด้วย



สุดท้ายแล้ว ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมาก 262 เสียง ต่อ 143 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระการประชุม



นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงที่รัฐสภา หลังจากที่สภาฯเสียงข้างมากไม่เห็นชอบต่อการเลื่อนระเบียบวาระให้พิจารณาคำถามประชามติในที่ประชุมสภาฯ ว่าตนยอมรับในมติของสภาฯ ดังกล่าว และยอมรับว่าพรรคได้สูญเสียการดำเนินการตามขั้นตอนในสภาฯ ดังนั้นขอเรียกร้องไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ยืนยันให้ชัดเจนว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกจะถกในประเด็นการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ขณะที่การตั้งคำถามเพื่อนำไปทำประชามตินั้นต้องให้ครอบคลุมในหลักการ คือ สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน 100%



นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการของพรรคก้าวไกลในเรื่องดังกล่าวเป็นการทำคู่ขนานกับสภาประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ conforall ที่ยื่นรายชื่อประชาชนกว่า 2 แสนรายชื่อเพื่อเสนอคำถามประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในขั้นตอนที่ประชาชนเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อ ครม. จะเป็นอำนาจของครม.ว่าจะรับหรือไม่รับไปดำเนินการหรือไม่ ซึ่งตนหวังว่าครม.จะรับไปพิจารณา เพื่อให้การตั้งคำถามประชามตินั้นครอบคลุมในหลักการ



เมื่อถามว่าในกรณีที่ ครม. สร้างคำถามประชามติที่ไม่ครอบคลุมหลักการจะดำเนินการอย่างใดหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องใช้กลไกของสภาและประชาชนให้เต็มที่



เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิซต์สว.ต่อหรือไม่ นายพริษฐ์ ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อ และไม่ถอนวาระดังกล่าวออกจากที่ประชุมรัฐสภา แม้ขั้นตอนดังกล่าวจะเลยช่วงโหวตนายกฯ ไปแล้วก็ตามทั้งนี้เพื่อยืนยันในหลักการว่า สว.ไม่ควรมีอำนาจร่วมเลือกนายกฯ



เมื่อถามถึงกรณีที่สว.มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญ ในส่วนของคุณสมบัติสว.เพื่อปลดล็อกห้ามสว.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือลงเลือกตั้ง นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น ควรต้องมาจาก ส.ส.ร.







คุณอาจสนใจ

Related News