เลือกตั้งและการเมือง
"วิษณุ" ชี้ "ทักษิณ" เข้ารพ. อาจกระทบสภาพจิต ลามมาร่างกาย บอกคนเคยอยู่สะดวกสบาย ก็ต้องเข้าใจ
25 ส.ค. 2566
57 views
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจว่าต้องอยู่จนกว่าจะหายดีใช่หรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบต้องถามความเห็นคณะแพทย์ ซึ่งมีคำยืนยันเพียงว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และอาการยังทรง เป็นธรรมดา เข้าใจว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สุขภาพจิตด้วย มันก็เลยกระทบกับร่างกาย รัฐมนตรีบางคนยังมาบอกให้ตนฟังในเชิงตลกว่า ขณะ คสช. ยึดอำนาจ ท่านถูกเชิญไปควบคุมตัวไว้ บ้านช่องก็แสนจะสบาย แต่ความดันขึ้น 200 ทุกวัน ตนไม่ขอเอ่ยว่าเป็นใคร ซึ่งก็ต้องเห็นใจ
มันเป็นไปได้คนเคยอยู่สะดวกสบาย อยู่บ้านอยู่คอนโด เคยลงสระว่ายน้ำ ออกกำลังกาย ยกเวท พอไม่ทำสิ่งเหล่านั้นบางทีก็กระทบได้ ก็ต้องเข้าใจ
เมื่อถามว่าสามารถย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนได้หรือไม่ นายวิษณุระบุว่า ไม่ควร ตนยังไม่เห็นเหตุผลอะไร แต่ที่ออกจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มารักษานั้นเพราะว่าไม่มีแพทย์เฉพาะทาง จึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่หากจะออกจากโรงพยาบาลตำรวจนั้นแปลว่าแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจไม่มีความเฉพาะทาง จะไปพูดอย่างนั้นไม่ได้
ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เราจะมองเห็นว่าไม่ได้มีการฝึกฝนคนหรือรับหมอมารักษาโรคเฉพาะทาง ซึ่งโรงพยาบาลตำรวจมีแพทย์เฉพาะทางทั้งหมด หากคุณจะไปอยู่ที่อื่น ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าคุณจะไปอยู่ที่โรงพยาบาลไหน อย่าว่าแต่โรงพยาบาลเอกชนเลย แม้แต่โรงพยาบาลของรัฐตนก็ไม่เห็นเหตุผลนี้ ว่าจะย้ายไปอีกทำไม ซึ่งโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์นั้นมีเอ็มโอยู ส่งต่อผู้ป่วยมาแล้วหลายลาย ร่วมกันมากกว่า 30 ปี แล้วทำมาแล้วหลายราย จึงปลอดภัยกว่าที่จะไปที่อื่น ตำรวจสามารถจัดกำลังเข้าไปดูแลได้ อย่าเคสของนายทักษิณ กรมราชทัณฑ์จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ไปดูแลประมาณ 4 คน ส่วนตำรวจจะเพิ่มคนอีก ก็เป็นเรื่องของตำรวจ
เมื่อถามว่าศาลฎีกาได้แจ้งหรือไม่ว่าโทษของนายทักษิณนั้นสรุปแล้ว 8 หรือ 10 ปี นายวิษณุ ระบุว่า สำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรม ได้แจ้งมาว่านายทักษิณ ต้องได้รับโทษ 8 ปี
เมื่อถามว่าในระหว่างที่นายทักษิณยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ขั้นตอนของการขอพระราชทานอภัยโทษ ยังทำได้หรือไม่นั้น นายวิษณุ ยืนยันว่ายังทำได้ เพราะถือว่ายังอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ และสามารถทำได้ทันที ส่วนจะพระราชทานคดีใด หรือทุกคดี ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เอาเป็นว่าพระราชอำนาจ การพระราชทานอภัยโทษ กว้างขวางมาก และไม่มีข้อยกเว้นเกี่ยวกับคดีทุจริต ขณะความผิดทางวินัย สมัยตั้งประธานศาลฎีกา ในรัฐบาลยุคนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี มีมติไล่ผู้พิพากษาออก 13 คน ก็มีการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งพระองค์ท่านก็พระราชทานกลับมาภายใน 1-2 วัน ตนก็ไม่คิดว่าเรื่องของวินัยจากสามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้ ซึ่งเป็นพระราชณอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า "Prerogative" คือพระราชอำนาจที่ ไม่สามารถ ที่จะโต้เถียงท้าทายได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง