เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' ยันบริสุทธิ์ มั่นใจ สส.-สว.หนุนเป็นนายกฯ - 'จตุพร' ชี้จับตา 21 ส.ค. เศรษฐาอาจประกาศถอนตัว

โดย passamon_a

21 ส.ค. 2566

64 views

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง และเข้าใจว่าการเข้าสู่ชีวิตการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ ก็ต้องยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เชื่อว่าทั้ง สส. และ สว. จะมีวิจารณญาณ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากที่ตนนั้นได้แถลงข่าวอย่างชัดเจนแล้ว หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา และย้ำว่าการบริหารงานบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เป็นไปอย่างโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล


"เราเป็นผู้ซื้อ ภาระอยู่ที่ผู้ขายในแง่ของการเสียภาษี เราไม่มีส่วนในการช่วยเหลือเขา ไม่มีเงินทอน ไม่มีการตั้งบริษัทนอมินี และที่สำคัญไม่มีการให้กู้กับบริษัทนอมินีด้วย ราคาที่ดินที่ทำการซื้อขายเหมาะสม เราบริสุทธิ์ใจในการทำงาน"


ส่วนกระแสว่าในวันที่ 21 สิงหาคม จะมีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองที่สนับสนุน นายเศรษฐา บอกว่า ตนไม่ทราบ แต่เข้าใจว่าทุกอย่างคงเป็นไปได้ด้วยดี รวมถึงมั่นใจในคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทยว่ามีความคืบหน้าไปได้มากแล้ว "ถึงเวลาแล้ว ปัญหาบ้านเมืองถูกหมักหมมมานาน ควรจะต้องมีรัฐบาลได้แล้ว"


เมื่อถามถึงสิ่งแรกที่จะดำเนินการ หากได้รับเลือกจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ระบุว่า หลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็ต้องตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งคงต้องมีการพูดคุยกันก่อน หล่อหลอมนโยบายของทุก ๆ พรรคการเมือง โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่การเป็นรัฐบาลผสม ตนก็เข้าใจ และต้องให้เกียรติพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทุกพรรคด้วย "เรามีไอเดียอยู่แล้ว แต่ขอเก็บไว้รอคุยกับพรรคร่วมก่อน"


นายเศรษฐา ย้ำว่าตนมีความมั่นใจในคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ รวมถึงอยากให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้ วันที่ 22 สิงหาคม จะเป็นสเต็ปที่สองหลังจากวันเลือกตั้ง หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี


ส่วนกรณีโผคณะรัฐมนตรีที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ นั้น นายเศรษฐา บอกไม่ขอแสดงความคิดเห็น ต้องให้เกียรติคณะเจรจาและพรรคร่วมฯ ด้วย เพราะกระทรวงต่าง ๆ ก็ยังไม่ลงตัว แต่เข้าใจว่าก็มีความคืบหน้าแล้ว และถ้าลงตัวแล้วรายชื่อก็คงจะตามมา ก่อนบอกว่า "อย่าเพิ่งรีบร้อน อดใจอีกนิดหนึ่งก่อน เป็นขั้นเป็นตอนไปดีกว่า แต่มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฯ จะเสนอบุคลากรที่มีคุณภาพ ทำงานให้ประเทศเดินหน้าได้"


ถามต่อถึงวันที่ 22 สิงหาคม จะมีการตั้งวอร์รูมติดตามความเคลื่อนไหวการอภิปรายในรัฐสภาหรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่า วันอาทิตย์หรือวันจันทร์ที่จะถึง คงมีการประชุมกัน แต่คาดว่าคงเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยตามปกติ


สำหรับกรณีกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ยืนยันตนไม่ทราบกำหนดการมาก่อน ส่วนการเดินทางกลับของนายทักษิณมองเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย "เป็นความปรารถนาของท่านเอง ที่ท่านจะกลับมาเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถือเป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่สื่อมวลชนให้คงความสนใจ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้ความนิยมสูงสุด จากบ้านเมืองไป 17 ปีแล้ว ส่วนการโหวตนายกฯ ก็เป็นเรื่องของสภา คนละเรื่องกัน"


ถามถึงภายหลังที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้โทรศัพท์ให้กำลังใจ ตอนนี้มีพรรคการเมืองอื่นติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่ายัง คงเพราะยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการด้วย อาจต้องรอเปิดตัวก่อน แต่เราก็พอรู้จักกัน คุยกันนอกรอบบ้างแล้ว


"ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจในนโยบายของพรรคเพื่อไทย มั่นใจทีมงานพรรคเพื่อไทย มั่นใจในเจตนารมณ์ที่ดีของพรรคร่วมฯ และไม่ว่าจะได้กระทรวงไหน หรือส่งบุคคลใดเข้ามา เชื่อว่าทุกพรรคคงคำนึงถึงการช่วยเหลือบ้านเมืองเป็นหลัก"


นายเศรษฐา ยังยืนยันว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่เคยหาเสียงไว้จะถูกผลักดันจนสำเร็จอย่างแน่นอน ถือเป็นนโยบายหลัก และมั่นใจว่าทุกพรรคการเมืองจะเห็นชอบ "แต่ผมค่อนข้างจะผิดหวังกับคุณชูวิทย์ ซึ่งท่านไม่เข้าใจเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วมาด้อยค่าเรื่องนี้ อย่าเอาผลประโยชน์ที่ประชาชน ผู้ผลิต ผู้จ้างงาน ผู้ได้รับการจ้างงาน มาเป็นประเด็นด้านการเมืองเลย ผมเชื่อว่าหลายล้านคนต้องการตรงนี้ ถ้าหากพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลจริง ๆ จะพยามผลักดันนโยบายนี้โดยเร็วที่สุด"


เมื่อถามว่าจะผลักดันทุกนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ย้ำว่าต้องให้เกียรติพรรคร่วมฯ ด้วย เอามาหล่อหลอมเป็นนโยบายรัฐบาลของประเทศไทย ทำงานร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าไป ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน ขจัดความจัดแย้งที่มีอยู่ในทุกอายุและความคิด เป็นภารกิจของผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต้องพร้อมทำ


ด้าน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ Dr.Adisorn Piengkes ระบุว่า


"หนึ่งคน ล้มละลาย

หนึ่งคน หมาย สำเร็จการ

เชื่อใคร ว่าทำงาน

ที่ผ่านมา ประกอบดี

กอร์ปกิจเป็นสีเทา

หลายเรื่องราวที่บัดสี

แค้นเคืองเรื่องใดมี

บดขยี้ไร้ศีลธรรม

คนดีพระคุ้มครอง

คนชั่วปองมันน่าขำ

ร้องแรกชำแรกทำ

ความริยำแก่บ้านเมือง....."


ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีราชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ว่า คิดว่าจากการทำงาน และการประสานงานทุกฝ่ายที่ราบรื่นดี ไม่ว่าจะทางฝ่าย สว. หรือพรรคการเมือง เราพยายามทำตามข้อประสงค์ของทุก ๆ ฝ่ายเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการปฏิเสธนายเศรษฐา


นอกจากนี้ นายเศรษฐาถือว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่มาตามระบบของกฎหมายทุกประการ ทั้งผ่านการคัดกรองจากพรรคเพื่อไทย ผ่านการตรวจคุณสมบัติจาก กกต. และผ่านการเลือกตั้งมา


ส่วนประเด็นที่หลายคนวิตก หรือที่มีการพยายามสร้างให้เกิดความวิตกโดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พยายามกล่าวหา ประเด็นนี้ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกประเด็นพรรคมีคณะทำงานได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบด้านในทุกเรื่องที่ถูกนายชูวิทย์กล่าวหา ซึ่งจากการที่ได้ตรวจสอบมาทั้งหมดจนถึงวันนี้คณะทำงานเล็งเห็นว่าเรื่องนี้สามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ และนายเศรษฐาไม่น่าจะเป็นอย่างที่นายชูวิทย์กล่าวหา และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ชอบกันส่วนตัวของนายชูวิทย์ และมีความพยายามดิสเครดิตกัน ซึ่งเรื่องนี้นายเศรษฐา และทางบริษัทแสนสิริได้แถลงชี้แจงแก่ประชาชนอย่างละเอียดให้เข้าใจแล้ว


เมื่อถามย้ำว่า เป้าหมายของนายชูวิทย์แน่ชัดว่าไม่อยากให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ กระบวนการที่ผ่านมาของนายชูวิทย์จะไม่กระทบการโหวตนายกฯใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เข้าใจว่ากระบวนการทั้งหมดของนายชูวิทย์คือต้องการไม่ให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ นี่เป็นสิทธิพลเมืองของนายชูวิทย์ แต่คนที่จะเลือกนายเศรษฐาในสภาจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เขาจะเลือกเพื่อประชาชน ไม่ใช่เลือกเพื่อให้ถูกใจใครคนใดคนหนึ่ง และคงไม่มีใครเอาปัญหาไม่ชอบกันส่วนตัวมาเป็นปัญหาของประเทศ


"ผมเชื่อว่าวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ได้นายกฯชื่อเศรษฐา ทวีสิน เพราะวันนี้สมาชิกรัฐสภาฟังเสียงสังคมอยู่ ซึ่งสังคมวันนี้อยากให้ได้นายกฯ โดยเราผ่านการเลือกตั้งมาเกือบจะ 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีนายกฯ และรัฐบาลมาทำงานเสียที ไม่มีใครที่คนจะชอบตรงกันหมดทั้ง 100% หรอก แต่วันนี้ที่สังคมไทยอยากได้คืออยากให้มีนายกฯ และรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาประเทศ เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อไปไม่น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ และประชาชน"


ส่วน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน พูดในรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ระบุว่า ก่อนวันโหวตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 22 ส.ค.นี้  เชื่อว่า อาจได้เห็นภาพนายเศรษฐา ประกาศถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อโหวต เนื่องจากถูกนายชูวิทย์แฉหนัก จนพรรคเพื่อไทยอาจต้องเปลี่ยนชื่อคนโหวตเป็น อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะหากไม่เปลี่ยนชื่อ ก็เชื่อว่า สว.คงไม่โหวตให้อยู่ดี


พร้อมระบุว่า การกลับมาของนายทักษิณ ครั้งนี้ผ่านการดีลเหมือนทุกครั้ง ครั้งล่าสุดที่ฮ่องกง ซึ่งคนที่มาเล่าให้ฟังบอกว่า ตอนนั้นนายทักษิณบอกว่า การกลับมาจะราบรื่น สว. จะโหวตให้ผ่าน และการตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่มีพรรค 2 ลุง แต่ตอนนั้นชื่อคนที่จะมาเป็นนายกฯคือ อุ๊งอิ๊ง ซึ่งหากอุ๊งอิ๊งได้เป็นนายกฯจริง ก็จะได้เห็นนายกทักษิณกลับบ้าน ซึ่งเชื่อว่าช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ ก็จะมีการดีลเรื่องเก้าอี้ต่าง ๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างหนัก


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/6Ki94d_OBeI

คุณอาจสนใจ

Related News