เลือกตั้งและการเมือง
"ปดิพัทธ์" ไม่กังวลผิดกฎหมาย ยันทำตามระเบียบ ลั่นถ้าเปิดข้อมูลหลายหน่วยงาน คงมีคนเข้าคุกอีกเยอะ
20 ส.ค. 2566
981 views
จากกระเด็นร้อนกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ใช้งบรับรอง รองประธาน เลี้ยงหมูกระทะ แม่บ้านสภา 370 คน
วันนี้ (20 ส.ค.) นายปดิพัทธ์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ระบุว่า “เรียนตรง ๆ ว่ามันใช้ยังไงก็ได้จริง ๆ แต่ที่ผ่านมาไม่รู้คนอื่นใช้มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ ผมมองว่าการที่ผมเอางบนี้มาเพื่อเลี้ยงแขกต่าง ๆ ในเวลาไปเจอทูต เจอนักการเมืองผมก็เลี้ยงอาหาร แต่ไม่เคยมีการเลี้ยงใหญ่ ๆ แต่พอผมบอกว่าอยากเลี้ยงแม่บ้านจังเลย ลองไปเช็กยอดให้หน่อยว่า ปรากฏว่ามี 370 คน ผลก็เลยบอกว่าเลี้ยงให้หมด ไม่ได้คิดอะไรเยอะ”
ส่วนการจัดทำคูปองที่มีชื่อของปดิพัทธ์อยู่ เจ้าตัว แจง ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนจัดทำบัตรนี้ แต่จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่เผยว่าจะมีการจัดทำคูปอง เพื่อนับและยืนยันจำนวนพ่อบ้านแม่บ้านที่จะเข้ามาทานหมูกระทะกับเงินที่จ่ายว่าเป็นเท่าไร เนื่องจากคนที่มาทานก็ไม่ครบ 370 คน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนสั่งของตนเองแน่นอน
และจากประเด็นที่ “คริส โปตระนันทน์” โพสต์เฟซบุ๊กที่เนื่องจากบนบัตรมีชื่อตัวเอง กังวลไหม นายปดิพัทธ์ เผยว่าไม่กังวล เพราะใช้จ่ายงบก้อนนี้อย่างตรงไปตรงมา “ถ้าเปิดของอีกหลายหน่วยงานน่าจะเข้าคุกก่อนผมเยอะ”
และตนเองพร้อมชี้แจง เพราะเราทำตามระเบียบราชการทุกอย่าง ถ้าตนไปเลี้ยงนายทุนบริษัทหนึ่งในห้องรับรองหรู อาจจะต้องใช้ 2-3 แสน แต่พอไปเลี้ยงพ่อบ้านแม่บ้านกลับเป็นเรื่องเป็นราว เพราะว่าเขาไม่สมควรหรือ หรือว่าตนจะได้หน้า ยืนยันว่าไม่ได้ประโยชน์จากอะไรเลย
หรือที่"คุณอี้ แทนคุณ" โยงว่าเลี้ยงแม่บ้านเพื่อหวังผลเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.ระยอง “ตนเป็นสส.พิษณุโลก จะไปหวังผลเลือกตั้งซ่อมระยอง ไปกันใหญ่แล้ว ผมว่าสังคมมีสติ ๆ หน่อย”
ขณะที่ที่พรรคก้าวไกล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ใช้งบรับรอง รองประธาน เลี้ยงหมูกระทะ แม่บ้านสภา 370 คน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า งบดังกล่าวระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นอำนาจของประธานและรองประธานสภาที่สามารถใช้ได้ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองและจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยทำงานในกรรมาธิการ 35 คณะก็มีงบรับรอง เวลาไปดูงานหรือสัมมนา ก็สามารถใช้ได้ ถ้าเพื่อประโยชน์ของการดำเนินงานและทางการเมือง และเป็นงบค่อนข้างยืดหยุ่น
และหากผิดระเบียบ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เบิกงบประมาณมาใช้ ส่วนกระแสวิจารณ์ในสังคมออนไลน์เชื่อว่าจะเป็นการปลุกสังคมอีกครั้ง พร้อมกับคำถามว่าที่ผ่านมาการใช้งบประมาณ ดังกล่าวใช้ไปในส่วนไหนบ้าง และถ้านำเอกสารเก่ามาดูก็อาจจะตกใจ
นายปกรณ์วุฒิ ยังมั่นใจว่ากรณีใช้งบเลี้ยงหมูกระทะ และกรณี โพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนายปดิพัทธ์ จะไม่เป็นปัญหาถึงขั้นให้หลุดจากเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง
ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ใช้งบรับรอง รองประธาน เลี้ยงหมูกระทะ แม่บ้านสภา370 คน โดยย้อนถามกลับว่าปกติทราบกันหรือไม่ ว่างบดังกล่าวเคยใช้รับรองใครที่ไหน ไปเลี้ยงญาติใครเลี้ยงนักการเมือง ในกลุ่มของตัวเอง หรือไปกินกันที่ไหนมีอาหารอะไรมีไวน์มีคาเวียร์หรือไม่
และหลายครั้งก็มีการ เลี้ยงข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป้าหมายของการใช้งบดังกล่าวคือ การปรึกษาหารือประชุม เพื่อปรับปรุงงาน และในกรณีเลี้ยงหมูกระทะก็มีการประชุมกันจริง เพื่อปรึกษาหารือในมุมมองของแม่บ้านสภา เพื่อปรับปรุงการทำงานในสภา
ดังนั้นจึงขอถามว่าแม่บ้าน ไม่ใช่ข้าราชการสภาระดับสูง แม่บ้านไม่มีศักดิ์ศรีพอ ที่จะเป็นแขกของรองประธานสภาหรือ จึงไม่มีสิทธิ์ใช้งบรับรองตรงนี้ แม่บ้านซึ่งถือเป็นคนปฏิบัติงานรากหญ้าที่สุด จะรับฟังเสียงไม่ได้เลยถือเป็นเรื่องแปลกที่สุด หรือจะต้องจัดเลี้ยง บุฟเฟ่ต์หัวแพง ๆ 500-600 หรือ 1,000 บาทในสภา การไปกินหมูกระทะถูกเกินไปหรือ เหมือนกรณีที่เคยเปิดเผยข้อมูลกางเกงในทหารที่ จัดซื้อ ราคาแพงกว่า 3 เท่า ต้องการให้เงินภาษีไปรับรอง เฉพาะการประชุมระดับสูงเท่านั้น ให้ลองฉุกคิดกันดู
"หัวหนึ่ง อู้หู เฮ้ย มีการส่งเงินทอนกัน ไปกินอะไรที่ไหนตรงนั้นเรียกว่าลับลอง ใช้ ล ลิง เพราะคือลับ และลองของ"
นายวิโรจน์ กล่าวว่าที่สื่อมวลชนรับทราบเพราะเป็นการเปิดเผยโปร่งใส ว่าประชุมเรื่องอะไรที่ไหนใช้งบเท่าใด ดังนั้นจึงขอให้มีการเปิดเผยการใช้งบประมาณรับรองของประธานวุฒิสภารองประธานวุฒิสภารวมถึงประธานสภาและรองประธานทั้งหมด ตั้งแต่ในอดีตว่าได้ไปใช้เลี้ยงใครที่ไหน เพราะคิดว่าการนำงบไปใช้เลี้ยงนักการเมืองในกลุ่มตัวเองหรือข้าราชการระดับสูง ไม่ได้งานอะไร
ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าหากดำเนินการอะไรที่ผิดระเบียบข้าราชการคงไม่แนะนำ และในฐานะที่ทำงานในกรรมาธิการ งบอะไรที่เบิกได้หรือเบิกไม่ได้ ข้าราชการต้องตรวจสอบระเบียบอยู่แล้ว และถ้าทำแบบเดิมที่ทั้งเลี้ยงกันเอง กินอาหารแพง ๆ เปิดไวน์กิน เป็นเรื่องห่วย ๆ ที่ทำกันจนเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า
ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ก่อตั้ง กลุ่มองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เตรียมไปร้องเรียนนายวิโรจน์ มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าไม่ร้อง สิแปลก แต่อยากให้นายศรีสุวรรณร้องเพื่อให้เปิดเผยข้อมูลการใช้งบประมาณ รับรอง ของประทานวุฒิสภารองประธานวุฒิสภาและ ประธานสภาคนก่อนๆ ด้วย รวมถึงในยุค สนช.ด้วยจะดีมาก รวมไปถึงงบรับรองของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เดี๋ยวรอให้ครบไม่ใช่ร้องเฉพาะบางเพลงหรือเฉพาะบางคน พร้อมทิ้งท้ายว่าหากเปิดงบมาอาจจะต้องร้อง เฮ้ย.. อู้หูกันเยอะแยะแน่นอน อยู่ที่ว่าจะกล้าเปิดหรือไม่
แท็กที่เกี่ยวข้อง