ลุงมาครบ! ปิดดีล 'รทสช.' ประกาศร่วม 'รัฐบาลเพื่อไทย' จับมือปรองดอง พาประเทศก้าวไปข้างหน้า

ปิดดีล! รทสช. ประกาศร่วมรัฐบาลเพื่อไทย อ้างเพื่อให้ประเทศเดินหน้า หลังไร้นโยบายแก้ม.112 ปัดต่อรองกระทรวงพลังงาน ยันไม่มีปัญหานายทุนต่อรองกระทรวง ลั่นพร้อมโหวตหนุนแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย 


เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แถลงข่าว ประกาศร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หลังจากมีกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาตินัดเจรจากับพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เกิดความสับสนในฐานะโฆษกของพรรครวมไทยสร้างชาติจึงได้รับมอบหมาย จากผู้บริหารของพรรคให้มาชี้แจง

โดยวานนี้ คณะเจรจาของพรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการพูดคุยกับคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทยซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ รวมไทยสร้างชาติ ยืนยันมาตลอดว่าการจะร่วมรัฐบาล ต้องมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งวันนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว และ เห็นพ้องต้องกัน ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย และเพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งจุดยืนของพรรคที่สำคัญ คือการไม่ร่วมงาน กับพรรคการเมืองที่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะไม่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบายดังกล่าว ซึ่งเรามีความต้องการที่อยากจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ วันนี้จึงมีความชัดเจนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ส่วนที่สื่อบางสำนักได้เสนอข่าวว่ามีการเจรจาเรื่องกระทรวงพลังงาน รวมถึงกระทรวงต่างๆ นั้นตนขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการเจรจาในการต่อรองกระทรวงใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงจำนวนโควตา เก้าอี้รัฐมนตรีด้วย วันนี้เป็นการตกลงในเชิงหลักการว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ไม่มีการพูดคุยในเรื่องของรายละเอียดกระทรวง ส่วนที่ เจ๋ง ดอกจิก ออกมาพูด ถึงโควตา กระทรวงที่ได้ 2 ว่าการ 2 ช่วยนั้น เป็นแค่กระแสข่าว

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าโควตารัฐมนตรี จะต้องมีความชัดเจนก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายอัครเดช ระบุว่า ในวันนี้ (18 ส.ค.) ตนจะเป็นตัวแทนของพรรคไปพูดคุยกับวิป 3 ฝ่าย เพื่อหารือกรอบแนวทางในการประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมที่จะถึง ดังนั้นในระหว่างนี้จึงยังมีระยะเวลาที่จะพูดคุยในรายละเอียดจัดตั้งรัฐบาล พร้อมยังยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีบุคลากรที่เหมาะสม สามารถบริหารงานได้ทุกกระทรวงอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาเรื่องนายทุน เพราะเราบริหารด้วยกรรมการบริหารพรรค และ สส. ดังนั้น ข่าวลือหลายกระแสที่ออกมาจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคให้ตนมาชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจน

เมื่อถามว่าถึงกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ 4 เก้าอี้ นายอัครเดช กล่าวว่า เรื่องนั้นตนไม่ทราบ แต่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคบอกกับตนว่ามีความชัดเจนเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ส่วนรายละเอียดเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีหรือเข้าไปบริหารกระทรวงใดนั้น ต้องรอฟังข้อสรุปจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและคณะเจรจา

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า สส. 36 คนของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมสนับสนุนบุคคลของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคม ส่วนกังวลหรือไม่ต่อชื่อของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ถูกตรวจสอบอย่างหนัก นั้น นายอัครเดช กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยจะต้องชี้แจงเอง พรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ในส่วนของดำเนินภารกิจการจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วงสำเร็จ เพราะประชาชนเฝ้าคอยและปัญหาของประเทศชาติมีอยู่ทุกวัน ประชาชนรอรัฐบาลใหม่มา

 ดังนั้น การตัดสินใจของของรวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทยในวันนี้ จึงอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพราะยิ่งล่าช้าไปประเทศชาติและประชาชนได้รับผลกระทบ มีหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องรีบทำและขับเคลื่อน เช่น เรื่องพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่เช่นนั้นประชาชนจะได้รับผลกระทบ นี่คือสิ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติเล็งเห็นและตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่าหากการโหวตชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่าน คุยกับพรรคเพื่อไทยไว้อย่างไร นายอัครเดช กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้อยู่ในคณะเจรจา

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า การเจรจายังไม่ได้ข้อยุตินั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่าในรายละเอียดนั้นอยู่ที่ทีมเจรจา ซึ่งส่วนตัวไม่ได้เข้าร่วมอยู่ในทีมดังกล่าว แต่หากมีความชัดเจนก็จะมีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

------------------------------------

'พีระพันธุ์-เอกนัฏ' ยืนยันไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ หลังจับมือเพื่อไทย

 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "วันนี้ผมและเลขาธิการพรรคได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทยเรื่องการร่วมกันทำงานให้ชาติบ้านเมือง ซึ่งเราทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าถึงเวลาที่บ้านเมืองควรจะมีความสามัคคีปรองดองและร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การพูดคุยกันวันนี้เป็นการพูดคุยในหลักการทำงานเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญเท่านั้น ไม่ได้มีการพูดคุยกันในรายละเอียดอื่นๆ

ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีข้อต่อรองหรือข้อเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงให้ร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชนอย่างแท้จริงเท่านั้น

ทางพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่มีนโยบายหรือการดำเนินการใดที่ขัดต่อเจตนารมณ์และแนวทางทางการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติโดยเฉพาะในเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยจะช่วยกันสร้างความเข้มแข็งมั่นคงของสถาบันหลักทั้งสามต่อไป

ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้เกียรติและเห็นถึงศักยภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติครับ"

เช่นเดียวกับ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า

"พรรคเพื่อไทยได้ประสานกับหัวหน้าและผมอย่างเป็นทางการในวันนี้ทั้ง 2 ฝ่าย มีข้อสรุปร่วมกันว่าจะเร่งจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศ แต่ละพรรคต่างก็เป็นสถาบันการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนของประชาชน จะร่วมกันทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยความปรองดองสมานฉันท์

ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีการตั้งเงื่อนไขเรื่องกระทรวงในการพูดคุยหารือกันแต่อย่างใด  พรรครวมไทยสร้างชาติจะให้การสนับสนุนและให้เกียรติพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้

ทางพรรคเพื่อไทยได้ยืนยันว่าจะไม่มีการผลักดันการแก้ไขกฏหมายอาญามาตรา 112 และร่วมกันทำงานด้วยความสุจริต โปร่งใส เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก

----------------------------------------

ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า  ประธานรัฐสภานัดหารือตัวแทนทุกฝ่าย และจะนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 ส.ค.นี้ วาระหลักคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะนี้จึงเป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทย ที่รับช่วงต่อจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในการตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรทำภารกิจให้จบวันจันทร์ที่ 21 ส.ค.นี้ ไม่ใช่ไปคุยกันนอกรอบ ในการตั้งรัฐบาลจริงๆ ว่าจะมีนโยยายหลักที่ทุกพรรครับได้หรือไม่รวมถึงการแบ่งหน้าที่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องแบ่งกันให้เสร็จ หากไปร่วมรัฐบาลกันไม่แบ่งงานกันจะร่วมอย่างไร นี่คือหลักธรรมชาติ

 ส่วนจะได้ข้อสรุปวันนี้หรือไม่ตนไม่รีบ เป็นวันจันทร์ก็ได้เพื่อให้รอบคอบ แต่หากให้ดีประธานรัฐสภาควรฟังสักนิด ว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมวันไหนค่อยนัด อย่าเพิ่งกำหนดกดดันว่าต้องเป็นวันที่ 22 ส.ค. ดังนั้น ต้องรอพรรคเพื่อไทยว่าพร้อมตกลงเลือกนายกฯวันไหน ประธานรัฐสภาค่อยนัดทีเดียว เพราะหากไม่จบขึ้นมาจะยุ่งยากไปกันใหญ่ การเมืองจะเปลี่ยนไป ถ้าไหลจากคนที่เสนอชื่อคนแรก มาคนที่สอง คนที่สาม จะเอาอยู่หรือไม่ แล้วมันก็จะไปถึงพรรคที่ 3 อีก จึงต้องรอความพร้อมพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าคุณสมบัติ ของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เหมาะสม ในสถานการณ์นี้หรือไม่ว่า มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องรับฟัง ให้รอบคอบ เพราะไม่มีโอกาสแก้ตัว ส่วน นายเศรษฐา ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มองว่า เป็นเรื่องปกติ การจะปลุกเสกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นรูปลอย ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีเวลาจริงๆ ไม่ถึงกับเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ แม้ไม่ได้เป็นสส. แต่ที่ผ่านมาข้าราชการที่มาชี้แจงต่างๆ ก็ไม่ได้เป็นสส. เขาก็ยังเข้ามาชี้แจงได้ อยู่ที่อำนาจของประธาน

"ผมเชื่อว่าประธานไม่ขัดข้องอยู่แล้ว แต่เรื่องที่น่าเกลียดก็คือ คนมาตะลุมบอนเบื้องหลังกัน ก็ไม่สง่าสำหรับคนพูด และไม่สง่าสำหรับคนถูกเลือกด้วย ดีที่สุด ผมว่าให้เตรียมตัวมาชี้แจง" นายวิทยากล่าว


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CjxHXr-pyVA