เลือกตั้งและการเมือง

'ชูวิทย์' ฟ้องกลับ 'เศรษฐา-ทนายวิญญัติ' 3 ข้อหา เตรียมร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' สอบปมนอมินี 'แสนสิริ' กู้เงินพันล้าน

โดย petchpawee_k

17 ส.ค. 2566

45 views

“ชูวิทย์” ฟ้องกลับ “เศรษฐา-ทนายความ” 3 ข้อหา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 9 หมื่นบาท เตรียมร้อง “บิ๊กโจ๊ก” วันนี้ (17 ส.ค.) เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบปากคำ เหตุมองเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เชื่อ หาก “เศรษฐา” โหวตผ่านนั่งนายกฯอยู่ไม่ถึง 3 เดือน


จากกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดปฏิบัติการแฉเพื่อชาติ ซึ่ง Ep.1 ใช้ชื่อว่า “12 วัน 12 คน” โดยกล่าวอ้างว่านายเศรษฐา ทวีสินแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย สมัยที่ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมเลี่ยงภาษีที่ดิน ทำรัฐเสียหายกว่า 521 ล้านบาท


จากนั้นฝั่งนายเศรษฐาโต้กลับนายชูวิทย์ ด้วยการส่งทนายความฟ้องเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท ฐาน มินประมาทด้วยการโฆษณาพร้อมยืนยันว่าสิ่งที่นายชูวิทย์พูดไม่เป็นความจริง และแสนสิริ ขับเคลื่อนภายใต้หลักธรรมมาธิบาล ทำทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมายทุกประการ


ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ (15 ส.ค.66) นายชูวิทย์แฉต่อ Ep.2 “ปั่น บวม ตัดตอน” โดยกล่าวอ้างว่านายเศรษฐา ตั้งบริษัทนอมินี ซื้อที่ดินย่านทองหล่อ ปั่นราคาสูงถึง 1 พันล้านบาท โดยมีคนถือหุ้นนอมินีเป็น “แม่บ้าน-รปภ.”


ล่าสุดวานนี้ (16 ส.ค.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้องนายเศรษฐา และนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ใน 3 ข้อหา คือ ฟ้องเท็จ หมิ่นประมาท และละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเรียกค่าเสียหาย 90,000 บาท ในกรณีที่นายเศรษฐา ส่งนายวิญญัติ มายื่นฟ้องตนเองที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา


โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า การที่ตนมายื่นฟ้องนายเศรษฐา และนายวิญญัติ เพื่อให้ความจริงปรากฎต่อหน้าศาล เมื่อฟ้องมา ตนก็จะฟ้องกลับ เพราะเมื่อนายเศรษฐาลงชื่อจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ และในฐานนะตนเองเป็นประชาชนก็มีสิทธิ์ และสามารถตรวจสอบได้ทุกประการ ทั้งเรื่อง ที่ดินสารสิน 12 คน โอน 12 วัน รวมทั้งที่ดินที่ทองหล่อซอย 12 ล่าสุดที่แฉไป และอย่าคิดว่าตนจะกลัว



ส่วนเงินที่ตนเรียกไป จำนวนเพียง 90,000 บาท นั้นมาจากจำนวนเงินวันละ 10,000 บาท นับตั้งแต่ที่ นายวิญญัติ มายื่นฟ้องตนเมื่อวันที่ 7-15 ส.ค. เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้อยากได้เงินแต่ต้องการเพียงข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ทางฝั่งนายเศรษฐา กลับเรียกเงินจากตนเอง จำนวนถึง 500 ล้านบาท



 ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังมั่นใจว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้ศาลจะรับคำฟ้องแน่นอนเพราะหลักฐานที่มี มันชัดเจน อีกทั้งที่ผ่านมาตนเองเคยฟ้อง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ และนายสันธนะ  ประยูรรัตน์ มาแล้ว ซึ่งศาลท่านก็รับฟ้องทั้งหมด


 จากนั้นนายชูวิทย์ บอกว่า ตัวเองขำ ขำเพราะว่าเมื่อวานนี้มีการแฉ EP.2 ซึ่งเป็นการขุดหลุมพรางไว้ ซึ่งบริษัทแสนสิริก็ตกหลุมพรางในทันที โดยการแถลงข่าวตอบโต้ บอกว่าไม่รู้เรื่อง และหากจำได้ตนแฉเอกสารที่เป็นสัญญาจำนองที่ดิน พร้อมตั้งคำถามว่า หากบริษัทจะซื้อที่ก็ซื้อไปเลยทำไมต้องทำสัญญาจำนอง  พร้อมถามว่าคนที่ไปซื้อคิดได้ยังไง จะซื้อที่แต่ไปทำสัญญาจำนองก่อน แล้วค่อยครอบสัญญาจำนองโดยสัญญาจะซื้อจะขาย



จากนั้นนายชูวิทย์ได้โชว์สัญญาจำนอง บ.อักษรย่อ N (เอ็นแอนด์เอ็น) และบริษัท อักษรย่อ อ. (อาณาวรรธน์) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแสนิริ หุ้น 99.99% พร้อมจำนวนเงิน 1 พันล้าน  พร้อมถามย้ำว่าทำไมถึงทำสัญญานองก่อนค่อยทำสัญญาซื้อขายในเวลาต่อมา นั่นเพราะว่า คุณจ่ายเงิน 1 พันล้านบาทให้กับนอมินี และเอา 1 พันล้านที่ บวมค่าที่หายไป แล้วค่อยไปซื้อ ซึ่งตนมองว่าตรงนี้มันแปลกและอยากรู้ว่าทำแบบนี้ไปทำไม  พร้อมถามอีกว่าแล้วเงินทอน 435 ล้านบาทไปไหน



นายชูวิทย์ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า เจ้าของลายเซ็นในสัญญาจำนองนาย ส. (สมศักดิ์) ที่เป็น รปภ.เป็นคนเซ็น ซึ่งมีหุ้น 1 หุ้น  ต่อมานาย ส.ขายทิ้ง ก่อนที่จะเอานาย ย. มาแทน ก่อนที่จะปล่อยบริษัททิ้งร้างโดยไม่ส่งงบต่อกัน 5 ปี


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sy203usdzoY

คุณอาจสนใจ

Related News