พปชร.โชว์แมน พร้อมยก 40 เสียง โหวตให้เพื่อไทย - 'ชัยธวัช' โต้ 'ไผ่ ลิกค์' ยัน 'ก้าวไกล' ไม่เคยขอคะแนนพรรคลุง

พปชร.พร้อมยก 40 เสียง โหวตนายกฯ เพื่อไทย แบบไร้เงื่อนไข ‘ไผ่ ลิกค์’ ชี้พร้อมอยู่แล้ว หากหลังโหวต ถูกชวนร่วมรัฐบาล ไม่กลัวถูกหลอก เพราะไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง ด้าน ‘ชัยธวัช’ โต้ ’ไผ่ ลิกค์’ ยืนยัน ‘ก้าวไกล’ ไม่เคยขอคะแนน พปชร.ไม่เคยคิดจะร่วมสังฆกรรม ถาม บอกแบบนี้ต้องการอะไร สร้างความชอบธรรมให้พรรคใดนำ พปชร.ร่วมรัฐบาลหรือไม่ ยังกังวลว่าการตั้งรัฐบาล เกรงใจผู้มีอำนาจ เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน

วานนี้ (วันที่ 10 ส.ค.) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า 40 สส.ของพรรค พร้อมโหวตนายกรัฐมนตรี ให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะสมาชิกหารือกันแล้ว ว่าประเทศชาติจำเป็นต้องเร่งมีรัฐบาล จากปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ซึ่งเรามีนโยบายที่อยากผลักดันร่วมกัน ทั้งการเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุและอยากให้บัตรประชารัฐยังคงต่อ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทยและเราก็และเราเคยได้ทำงานกับพรรคเพื่อไทย อีกทั้งตนเป็นเด็กเก่าพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้

ซึ่งก่อนหน้านั้นที่พรรคก้าวไกลเลือกนายก รัฐมนตรีตนก็ได้รับการประสานเพื่อขอเสียงสนับสนุนเช่นเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก วันนี้พวกเราก็พร้อมที่จะให้บ้านเมืองก้าวข้ามปัญหานี้ไป ขอยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก มาทำให้ผ่านตรงนี้ไปก่อน คิดว่าควรผ่านเรื่องนี้ไปก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน ถ้าพรรคเพื่อไทยทำได้อย่างที่พูด อย่างเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ว่าไป ถ้าเรามีโอกาส ผมทำเต็มที่ แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็พร้อมตรวจสอบเต็มที่

ส่วนเงื่อนไขของ 2 ลุงที่เคยมีปัญหาอยู่ นายไผ่ ลิกค์ ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดถึงเรื่องการร่วมรัฐบาลเลยพูดแค่เรื่องนโยบาย พรรคตนก็สนับสนุนอยู่แล้วมีลุงไม่มีแล้ว พร้อมยืนยันว่า ลุงยังอยู่สิครับ และย้ำว่าไม่มีการตกลงเรื่องร่วมรัฐบาล เราแค่สนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน

เมื่อถามว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค รู้เรื่องนี้หรือยัง นายไผ่ ลิกค์ เลี่ยงจะตอบในประเด็นนี้ โดยระบุว่า ขอให้คุยเรื่องนโยบายกันดีกว่า ทั้งนี้หาก 10 เดือนยังไม่มีรัฐบาล สู้มีรัฐบาลแล้วมาว่ากันดีกว่าไหม และยืนยันว่าไม่มีและยืนยันว่า พปชร. มีจุดในการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีข้อแม้ไม่มีข้อเสนอใดๆ ทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งไปยังพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าการโหวตให้แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พปชร.ได้อะไรนั้น นายไผ่ ลิกค์ ระบุว่าประเทศได้ประโยชน์มากที่สุด และเราได้นำนโยบายที่เคยหาเสียงกับชาวบ้านไว้ ไปดำเนินการ เพราะจากการพูดคุยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็จะผลักดันให้

ส่วนการโหวตให้พรรคเพื่อไทยครั้งนี้ จะทำให้พปชร. ได้ร่วมรัฐบาลในภายหลังหรือไม่ นายไผ่ ลิกค์ ยืนยันว่าเรายังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย วันนี้เราเห็นแล้วว่าสภาพการเมืองจะไปลำบาก เราจึงจำเป็นต้องให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน

ส่วนพร้อมโหวตให้แม้จะต้องไปเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายไผ่ลิกค์ ระบุว่า ยังไงก็ได้ ไม่มีข้อแม้ใดใดทั้งสิ้น และไม่ทราบว่าการโหวตในครั้งนี้จะทำให้สว.ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นหรือไม่

ส่วนเรื่องสายสัมพันธ์ส่วนตัวของตนเอง และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า กับพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นได้หรือไม่ว่าจะไม่ถูกหลอก นายไผ่ ลิกค์ ยืนยันว่าไม่ได้ถูกหลอก เพราะเราไม่ได้คุยอะไร เราไม่ได้คาดหวังเราก็จะไม่ผิดหวัง ส่วนหลังจากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว หากพรรคเพื่อไทยมาชวนร่วมรัฐบาลพร้อมหรือไม่ นายไผ่ลิกค์ ระบุว่าเราพร้อมเต็มที่เพราะเราเป็นรัฐบาล 4 ปีแล้ว ถ้าเราช่วยประเทศตรงไหนได้เราก็พร้อมเต็มที่

-----------
วานนี้ (10 ส.ค.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยพาดพิงว่า พรรคก้าวไกลเองก็เคยมาขอคะแนนจากพลังประชารัฐให้โหวตให้แคนดิเดตก้าวไกลเช่นกัน

โดยนายชัยธวัชยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่เคยมีการเจรจาขอให้พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนหรือโหวตให้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เคยคิดจะร่วมสังฆกรรมกับพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นกลไกสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร จุดยืนนี้ของพรรค ชัดเจนตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ มาในยุคก้าวไกล ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ไม่เคยกลับคำหรือเปลี่ยนจุดยืน

ผมขอตั้งคำถามกลับไปยังผู้เผยแพร่ข่าวเท็จนี้ ว่าต้องการอะไร สร้างความชอบธรรมให้กับพรรคใด ในการจะนำพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ วันนี้ผมกังวลว่าการจัดตั้งรัฐบาล กำลังทำโดยไม่เห็นหัวประชาชน เกรงใจผู้มีอำนาจ เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน” นายชัยธวัชกล่าว

------------
มดดำ บอกว่า หมอวาโย ได้ต่อสายไผ่ จริง แต่เป็นการคุยกันสั้นๆ ไม่เกิน 10 นาที  

------------

เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวไปเชิญ สส.ในกลุ่มสามมิตร มาร่วมกับพรรคเพื่อไทย ว่า ไม่มี เพราะหาก สส .จะย้ายพรรคต้องมีวิธี คือถูกขับออกจากพรรค หรือไม่ก็ต้องลาออกไปเลือกตั้งใหม่ เดี๋ยวนี้ย้ายพรรคไม่ได้ แต่หากชวนไปเป็นรัฐบาลก็มีบ้าง แต่การที่จะชวนไปเป็นงูเห่าคงไม่มี

เมื่อถามว่าการชวนไปเป็นงูเห่ายังมีอยู่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการสื่อสารกันด้วยความคุ้นเคยกัน เพราะรู้ว่า สส.ส่วนใหญ่ก็อยากเป็นรัฐบาล แต่ทางพรรคยังไม่ได้ติดต่อกัน ตนจึงได้บอกว่าให้ค่อยๆ พยายามขยับตัวเข้าหากัน จะได้สมหวัง

เมื่อถามว่าเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ที่มีการไปพูดคุย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนก็รู้จักทุกพรรค ก็พูดกลางๆ กับทุกพรรค ซึ่งตนดูแล้วมีความเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะว่าเสียงของรัฐบาลก็อยากได้เสถียรภาพ

เมื่อถามว่าหากตอนนี้ไม่มีพรรคของ 2 ลุงมาร่วมรัฐบาล เสียงในสภาจะไม่มีเสถียรภาพใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ตัวเลขเราต้องดูคณิตศาสตร์เสียงกึ่งหนึ่งก็ต้อง 250 เสียง แต่หากเสียงเกินไปนิดหน่อย เสถียรภาพของรัฐบาลโดยทั่วไปที่เคยมีมามันจะยุ่งยากมาก เวลามีญัตติสำคัญ เวลาที่มีโหวตจะมีความพอใจและไม่พอใจของ สส. ที่เป็นรัฐบาลอยู่ในเรื่องเดียวกัน มันอาจจะไม่พอใจทั้งหมดทั้ง 250-270 คน หรืออาจจะมีคนไม่พอใจ 20-30 คน ก็จะยุ่งเวลาโหวต ดังนั้นรัฐบาลต้องมีเสถียรภาพ มีเสียง 300 ขึ้นไป คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะได้ไม่ต้องพะวงเรื่ององค์ประชุมมากนัก

ส่วนการไปเจอกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้พูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็คุยกันบ่อย เวลาว่างก็เล่นฟุตบอลด้วยกัน ทั้งกับ นายธนกร และนายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาทพรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยเรื่องทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่แนะนำให้เขาเป็นงูเห่า แต่แนะนำหากมาร่วมรัฐบาล ให้มาเป็นพรรคหรือมาทั้งหมด มันถึงจะสมศักดิ์ศรีการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพรรคการเมือง

    เมื่อถามว่า มีความจำเป็นต้องมีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และไปกำหนดกฏเกณฑ์ไม่ได้ แต่คิดว่าไม่มีเรื่องของงูเห่า เป็นเรื่องของนิยายที่พูดกันไปแล้ว ทำให้มีสีสันของการเมืองในแต่ละครั้ง

เมื่อถามย้ำว่า การมาร่วมรัฐบาล จะมาร่วมแบบทั้งพรรคใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีสิทธิ์ไปชวน แต่เป็นการพูดคุยแบบพี่น้องที่เคยรักใคร่ ชอบพอ อยู่ด้วยกันมา เพื่อจะได้สมหวัง

    ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่มีการยกมือโหวตให้ แล้วมาร่วมรัฐบาล เพราะตอนนี้ไม่มีเงื่อนไขมาตรา 112 นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันโหวตยังไม่แน่นอน ต้องรอดูวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา แล้วค่อยดูว่าวันโหวตเป็นวันไหน ซึ่งในช่วงนี้จะมีวาระสำคัญเรื่องคาบลูกคาบดอก การแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในวันที่ 30 กันยายน ของปีงบประมาณ ซึ่งทุกฝ่ายก็อยากให้สมประสงค์ในส่วนงานของฝ่ายที่ตัวเองทำอยู่

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/c2sa5vGceuU