เลือกตั้งและการเมือง

ปชป.เดือดเป็นไฟ! ประชุมใหญ่ล่ม 2 ครั้งติด 'เฉลิมชัย' โพสต์ซัดสันดาน ไม่เคารพกติกาพรรค

โดย nattachat_c

7 ส.ค. 2566

277 views

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ โดยมีการนัดหมายสมาชิกให้มาร่วมประชุมตั้งแต่เวลา 08.30 น. แต่ปรากฏว่าสมาชิกเดินทางมาร่วมประชุมอย่างบางตา และเริ่มคึกคักเมื่อใกล้เวลาเปิดประชุมเวลา 09.30 น.ซึ่งมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม


นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การประชุม ใหญ่วิสามัญวันนี้ สมาชิกหลายคน เบื่อๆ และมีภารกิจ แต่เชื่อว่าองค์ประชุมครบ


เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายบัญญัติกล่าวว่า ตนเข้าใจว่าคงเกี่ยวกับแถลงการณ์ของสาขาพรรคภาคอีสานที่ออกมา ซึ่งความคิดนี้เคยได้ยินหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว และพรรคได้รับการเลือกตั้งมาน้อย เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อน ซึ่งสมาชิกเข้าใจว่าไม่มีเฉพาะภาคอีสานเท่านั้น ซึ่งมีหลายภาคที่พูดว่า เที่ยวหน้าเราไม่น่าจะไปร่วมรัฐบาลกับเขาแล้ว


“การร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานที่โดดเด่นในหลายเรื่อง ซึ่งผมได้ฟังความคิดจากสมาชิกแล้วนำมาวิเคราะห์กัน ซึ่งไม่ใช่ความคิดของ 4 อดีตหัวหน้าพรรค แต่เป็นความคิดของสมาชิกพรรคเท่านั้นว่าไม่ควรไปร่วมรัฐบาลแต่ควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการฟื้นฟู และกอบกู้พรรคอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าพิจารณา ดังนั้นผมคิดว่าเมื่อได้หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็คงจะนำความคิดนี้ไปเสนอให้พิจารณา” นายบัญญัติกล่าว


เมื่อถามว่า หากได้หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว และนำความเห็นนี้ไปบอกกรรมการบริหารพรรค แต่มติพรรคให้ร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร นายบัญญัติกล่าวว่า คงเป็นเรื่องของมติพรรค ในอดีตที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับความจริงว่า กรรมการบริหารพรรครับฟังเสียงจากสมาชิกเป็นสำคัญ


เมื่อถามว่ามีคนถามเรื่องอุดมการณ์พรรคที่ต่อต้านระบอบทักษิณ หากไปร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย จะทำอย่างไร นายบัญญัติกล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญ หากมีการพูดถึง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ก็มีการพูดคุยกันว่าแนวคิดนี้ยังคงมีอยู่ในตอนนี้หรือไม่

-----------

วานนี้ (วันที่ 6 ส.ค.) ภายหลังการประชุม ใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ดำเนินการประชุมได้เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ สั่งยกเลิกประชุม ในเวลา 10.38 น.


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อม 21 สส. ออกมาประกาศ ประนามพฤติกรรมของสมาชิกพรรค บางกลุ่มที่ทำให้การประชุมไม่สามารถเริ่มได้ ซึ่งอุดมการณ์ของพรรคชัดเจนว่า พรรคจะดำเนินการตามวิถีทางประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ แต่วิธีการดังกล่าว ไม่เป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรค เหตุการณ์การประชุมร่วมเป็นครั้งที่ 2 ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เกิดโดยพฤติกรรมของคนบางกลุ่มในพรรค มีความพยายามทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมีการให้


ตนในฐานะรักษาการ เลขาธิการพรรค ต้องขอโทษสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งความพยายาม ขององค์ประชุม ที่ออกจากห้อง / ไม่ลงชื่อเข้าประชุม / และไปเที่ยวที่ลาว กลับมาประชุมไม่ได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวทรามอย่างมาก ซึ่งรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ


นายเฉลิมชัย ย้ำด้วยว่า ไม่ว่าคนกลุ่มนั้นจะเป็นใครก็แล้วแต่ ขอให้มีจิตสำนึกรักพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าหาก อุดมการณ์กลับมาพรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลับมาได้ หากยังเป็นอย่างนี้จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมถอย พร้อมเรียกร้องสมาชิกทุกกลุ่ม ต้องช่วยกันทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเดินหน้าต่อไปได้ อย่าเล่นเกมทางการเมือง ย้ำว่า หากตนเองเป็นอุปสรรคกับพรรค ตนเองพร้อมจะลาออกจากพรรคทันที ส่วนใครที่ไม่มีหน้าที่ในพรรคขอความร่วมมืออย่าออกมาแสดงความคิดเห็น


สำหรับการประชุมในแต่ละครั้ง ใช้งบประมาณ กว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน จึงขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และกลับไปคิดไตร่ตรองให้ดี อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก


หลังจากนี้ก็จะมีการนัดประชุมใหม่ตามข้อบังคับพรรค นายเฉลิมชัย ย้ำด้วยว่า รักษาการกรรมการบริหารพรรค ยังมีอำนาจเต็มทุกประการ ตามระเบียบและข้อบังคับพรรค ให้การประชุมเกิดขึ้น เพราะว่าจะต้องเดินไปข้างหน้า จะลากไปแบบนี้ไม่ได้ ย้ำว่าเป็นการล่มเกิดขึ้นโดยเจตนา และทราบว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวาน


หากวันนี้ สมาชิกบางกลุ่มมีจิตสำนึกวันนี้ก็จะได้หัวหน้าพรรคไปแล้ว นายเฉลิมชัยพูดหยอก ว่าการประชุมครั้งหน้าอาจจะต้องเช่าเต็นท์ กินข้าวกล่อง จัดประชุม ที่สนามหญ้า แทนเพราะงบประมาณหมดแล้ว


นายเฉลิมชัยเปิดเผยด้วยว่า มี สส. ไม่ต่ำกว่า 21 คน เห็นด้วย กับแนวทางของการออกมาประณามการกระทำของสมาชิกพรรคบางกลุ่มที่ทำให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำ 2

-----------
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เขตหลักสี่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2/2566 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่าส่วนตัวมองว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. มีความเหมาะสมในสถานการณ์นี้ และตนจะเป็นผู้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง


ส่วนเรื่ององค์ประชุมจะมีปัญหาหรือไม่นั้น นายสาธิตกล่าวว่า ยังมีปัญหา เพราะเกิดข้อถกเถียงเรื่องสัดส่วนเสียงโหวต 70 ต่อ 30 ที่ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งตนมองว่าข้อบังคับพรรคที่ให้น้ำหนักการโหวตของ ส.ส.ร้อยละ 70 และสมาชิกพรรค ร้อยละ 30 กรณีที่ยังไม่มีการแก้ไขข้อบังคับพรรค เนื่องจากที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส. 50-100 ที่นั่งขึ้นไป แต่ครั้งนี้พรรคได้ ส.ส.มาเพียง 25 ที่นั่ง จึงต้องมาหารือกันในชั้นต่อไป ซึ่งในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้หากตนมีโอกาสจะเสนอญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งให้ ส.ส.และสมาชิกพรรค มีน้ำหนักในการโหวตเท่ากันคือ 1 ต่อ 1

----------------

วานนี้ (วันที่ 6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พี่ต่อ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน”คำไหน-คำนั้น”  ระบุข้อความว่า


สันดาน… “สามัญสำนึก” ล้มประชุม ไม่เคารพ กติกาของพรรค ปากบอกพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ แต่คนรุ่นใหญ่ จะขวางทุกเรื่อง ไม่ได้ เราต้องให้ “คนรุ่นใหม่” มีพื้นที่คิด มีพื้นที่ทำงาน มีความสุข สนุกกับการทำงาน และทำงานเป็นทีมได้ ไม่ใช่ “ห้ามไปทุกเรื่อง” ห้าม ๆ ๆ ๆ ๆ จนทีมแตก


“คนรุ่นใหญ่” ทั้งหมดควรเป็นที่ปรึกษา และเป็นอาจารย์ทางการเมืองของ น้องๆ สส.รุ่นใหม่ ไม่ใช่ ครอบตลอดเวลาพรรคประชาธิปัตย์  ควรเป็น #แสงแห่งความหวัง #แสงแห่งโอกาส  ประชุมครั้งต่อไป “กางเต็นท์” เลือก “หัวหน้าพรรค” จะได้เอาเงินที่ประชาชนสนับสนุนพรรคไปใช้ประโยชน์ ไม่ใช่“ผลาญเล่น” เพื่อ “ล้มองค์ประชุม”


#เคารพกติกาพรรค ทุกอย่างจบ #ไม่มีใครสามารถต้านทานกระแสของ  “การเปลี่ยนแปลงได้” #โลกเปลี่ยน  #พรรคก็ต้องเปลี่ยน


นอกจากนี้ ยังเขียนข้อความใต้คอมเม้นเชิญชวนระบุว่า “ ฝากท่านแชร์และส่งต่อเพื่อ “ปลูกจิตสำนึก” ของคนในพรรคไปด้วยกัน แชร์ แชร์ แชร์กัน”

-----------

วานนี้ (วันที่ 6 ส.ค.) นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหลัง การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่ 2 ล่ม เนื่องจากนับองค์ประชุมแล้ว มีเพียง 223 คนจากจำนวนที่ตามระเบียบข้อบังคับของพรรค จะสามารถเปิดวาระการประชุมดังกล่าวได้ต้องมีองค์ประชุมครบ เกินกึ่งหนึ่งคือ 250 คนขึ้นไป


ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และหลังจากนี้ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร จะต้องนัดประชุมใหม่ ซึ่งแม้จะยังไม่มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเก่า ที่รักษาการอยู่ ยังทำหน้าที่ได้ สามารถตัดสินใจได้ทุกอย่าง เช่นการตัดสินใจ ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค เลขาธิการพรรคก็ยังอยู่ แต่ต้องอาศัยการพูดคุยกันของทุกฝ่ายภายในพรรค ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ หรือเลื่อนลอย มันเสียหายต่อภาพพจน์ ภาพลักษณ์ของประชาธิปัตย์


นายชวน บอกด้วยว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถเป็นสถาบันการเมืองได้ ไม่ใช่เพราะอยู่นาน มีอายุเก่าแก่หรืออยู่นานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรักษาหลักการด้วย การที่จะตัดสินใจทำอะไร ต้องเป็นมติพรรค ดังนั้น แม้ว่าการประชุมในวันนี้จะล่มหรือถูกเลื่อนไปก็ตามแต่คณะกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องทำงาน


พร้อมย้ำ หากตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งได้ก็ต้องอาศัยมติของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการปัจจุบัน เพราะมีทั้งหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค แต่เขาก็ต้องหารือกันไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่แบบนี้ จากนั้นก็ต้องลงมติ


ย้ำเตือนว่าอะไรที่สมาชิกไปทำส่วนตัวต้องไม่กระทบต่อพรรค อะไรที่เป็นนโยบายที่ต้องทำเพื่อมติพรรค ต้องให้พรรคให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่ไปหาส่วนตัว แบบนั้นทำไม่ได้


เมื่อถามว่าสภาพของพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกพรรคขณะนี้จะเห็นว่า สมาชิกพรรคก็อยากได้แบบหนึ่ง แต่ สส.ก็อยากได้แบบหนึ่ง คณะกรรมการบริหารพรรคก็อยากได้อีกแบบหนึ่ง นายชวนบอกว่า ไม่เป็นไร ต้องดูที่มติว่าออกมาอย่างไรก็ต้องจบ ซึ่งมติออกมาเป็นอย่างไรคณะกรรมการบริหารพรรคก็จะเป็นคนรับผิดชอบ


ส่วนปัญหาขัดแย้งในพรรค เหมือนเป็นการแบ่งขั้ว 2 ขั้ว ควรจะมีการพูดคุยโดยมีผู้ใหญ่เป็นคนกลางหรือไม่ และใครจะเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นคนกลางเข้าไปพูดคุย เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้ง ให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้ นายชวน ย้ำว่าผู้ใหญ่ก็คือคณะกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องคุยกัน ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยว่าจะต้องคุยกัน


นอกจากนี้นายชวน ยังได้ตอบคำถามสื่อในประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงจุดยืน ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล หรือไม่ ว่า เรื่องดังกล่าวยังมาไม่ถึง รัฐบาลก็ยังไม่มี นายก ก็ยังไม่มี ที่พูดกันไปเพราะมีข่าว ว่ามีคนไปพบคนนั้นคนนี้ มีการแบ่งเอากระทรวงนั้นกระทรวงนี้


ส่วนตัวได้ถามในที่ประชุมสส. เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วว่า "จริงไหมและมีไหม ที่มีคนไปขอแบ่งกระทรวง ต่างๆ " ซึ่งที่ประชุม สส.ก็ได้ปฏิเสธ เพราะฉะนั้นหลักมันก็มีอยู่ หัวหน้าพรรค โฆษกพรรคมที่เขาได้ชี้แจงก็คือหลักจริงๆที่เป็นอย่างนั้น คือคนใดคนหนึ่งไปทำด้วยตัวเอง ด้วยส่วนตัว ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนนั้น แต่อะไรที่จะเกี่ยวข้องกับพรรค ผูกพันกับพรรค ก็ต้องเป็นมติพรรคและคนใดคนหนึ่งก็ไม่ควรไปทำอะไรส่วนตัวนอกเหนือจากมติพรรค

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/77DLMHst8lA

คุณอาจสนใจ

Related News