'ชูวิทย์' แฉยับ เพื่อไทย-ก้าวไกลแตก เบื้องหน้าพูดดี หลังม่านด่ากันยับ เตรียมแฉต่อ 'ยุทธการงูเห่าสอนงูเห่า'

ชูวิทย์ แฉยับ เพื่อไทย ก้าวไกลแตก เหมือนผัวเมียเลิกกัน โยนเสื้อผ้าไล่ออกจากบ้านพร้อมเงิน 151บาท รอโหวตนายกใหม่ ทำตามเกมส์นาย ประชาชนเสียใจ ทำได้แค่โหวตเพื่อได้ประชาธิปไตย แต่ได้แค่นี้ เตรียมแฉ งูเห่าล้วงงูเห่า หลังพรรคเพื่อไทยแถลง

ยังคงเป็นประเด็นเมื่อพรรคเพื่อไทย แถลงแยกเดินคนละทางกับพรรคก้าวไกล โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ประเทศไปต่อ

วานนี้ (2 ส.ค.) ชูวิทย์ กมลวิศิษย์ หนึ่งในผู้ออกมาแสดงความเห็นวิพากวิจารณ์เรื่องนี้ก่อนเริ่มแถลงข่าว คุณ ชูวิทย์ก็ร้องเพลงของ ไมโคร ช่วงท่อนฮุก


“เพราะรักจึงยอมทุกอย่าง ก็คิดว่ายังเข้าใจ ทุกครั้งที่เธอห่างหาย ยังไว้ใจยังยอมปล่อยเธอลำพัง ไม่คิดว่าความไว้ใจ จะกลายเป็นความเหินห่าง  ผลลัพธ์คือความจืดจางหมดหนทาง จะทำให้เป็นเหมือนเดิม สุดท้ายคือเจ็บเจ็บเจ็บบาดเจ็บเจียนตาย  โดนเธอทำเจ็บช้ำเจียนตายจุดอ่อนจากการที่ไว้ใจ ต้องโดนทำลายแทบเสียคน


“จุดอ่อนคือการเชื่อถือคน มีผลก็ต้องกายเป็นฝ่ายค้าน”


กรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลแยกทางกันนั้นคุณชูวิทย์บอกว่า เปรียบเป็นเหมือนหนังซึ่งไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่เป็นการแยกทางด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะเพื่อไทยโบ้ยความผิดให้พรรคก้าวไกล จากเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ม. 112 ทำให้ไม่มีใครเอาพรรคก้าวไกล

ทุกอย่างเป็นเพราะพรรคก้าวไกลทั้งนั้น แล้วพรรคเพื่อไทยก็บอกแล้วในอดีต เคยโหวตให้นายพิธาแล้ว ทำให้ทุกทางแล้ว ตอนนี้ไม่สนใจเรื่อง 151 เสียงแล้ว

ที่เคยบอกว่า บอกว่านโยบายที่ดีๆ ของพรรคก้าวไกลก็จะนำไปใช้ แล้วพรรคไหนที่อยากร่วมกับเพื่อไทยก็เป็นดุลย์พินิจก็มาได้

พูดจบประโยคนี้ คุณชูวิทย์พูดว่าแหม “ผมนี่มันเหมือนดูหนังนะ ทายอะไรไว้ เหมือนที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว”

จากนั้นคุณชูวิทย์ ก็พูดเรื่องดีลลับ ดีลเลิฟว่า คุณทักษิณไปคุยกับอำนาจเก่าแล้วบอกว่าระวังชูวิทย์ให้ ระวังชูวิทย์ไว้แล้ว “พรรคก้าวไกลตอนนี้เปรียบเหมือนการ เด็กโดนคนแก่หรอก”

 ต่อหน้าสื่อมวลชนประชาชนพรรคเพื่อไทย ก็แถลงข่าวออกแนวเท่ห์ๆ แต่ลับหลังด่ากันยับและถามผู้สื่อข่าวว่าเคยรู้เรื่องหรือเปล่าว่าเค้าด่ากัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอกันแต่เป็นช่วงสุดท้ายที่เจอกันคือวันที่ด่ากันมากที่สุด

“การเจรจาลับหลังนายภูมิธรรมฟาดงวงฟาดงา และบอกว่าเพราะพรรคก้าวไกลเองที่ทำให้เป็นแบบนี้ เพราะประเด็นเรื่อง 112 บอกให้ถอยก็ไม่ถอย”

ท้ายสุดเมื่อไม่ยอมถอยก็แล้วแต่คุณ ส่วนคะแนน 151 เสียงจะไม่โหวตให้ก็ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวโหวตมา สว.ก็จะคลางแคลงใจอีก เรียกภาษาชาวบ้านก็ “เหมือนการเป็นชู้ซ้อนชู้” พรรครวมพรรคไหน อยากมา ก็มาอย่างแน่นอน

 ส่วนพรรค สองลุงไม่มาตอนนี้ แต่การที่ไม่มามีนัยยะสำคัญบางอย่าง โดยคุณชูวิทย์เปรียบเทียบเหมือนในอดีตมีการส่งโทรเลขจะส่งข้อความสั้นๆ หากัน เช่น มา ไม่มา = มา แต่รอเวลาก่อน เพราะถ้ามาตอนนี้จะไม่ดี

ซึ่งคุณชูวิทย์ระบุว่าการกระทำแบบนี้ทางพรรคเพื่อไทยเป็นการส่งสัญญาณให้กับพรรคสองหนุ่มในลักษณะมา ไม่มา = มา ตอนแถลงข่าว ทำเป็นโกรธ แต่พอ ทุกอย่างเสร็จสิ้นกระบวนการก่อนค่อยมาเพราะมิเช่นนั้นจะวุ่นวาย

“เปรียบเทียบแบบชาวบ้านว่าผัวกำลังบอกเมีย ถ้าประจำเดือนมาไม่ก็ไม่ต้องมา แต่ถ้าประจำเดือนไม่มาให้มา

แต่ตอนนี้เปรียบเหมือนพรรคเพื่อไทยคบชู้ ซูสาวและเป็นชู้ที่เป็นสาวแก่ด้วยนะ”

คุณชูวิทย์บอกว่า ผมเป็นคนพูดตรงๆ พรรคเพื่อไทยนะต่อหน้า สวดมนต์ พุธโท ธรรมโมสังโฆ แต่ลับหลัง คือคบชู้สู่สาว

การที่แยกทางกัน เขาทำลายเสียงประชาชน จะหมดศรัธาหรือไม่ คุณชูวิทย์บอกว่า ประชาชนที่โหวตให้เขาเสียใจ ในเรื่องประชาธิปไตยแพคกันเป็นข้าวต้มมัด

 แต่วันนี้ เขาแกะกันแล้วโดยที่เขาอ้างว่า อีกฝ่ายทำตัวไม่ดี ไร้ค่าออกจากบ้านไปเลย แล้วส่งสัญญาณไปถึงดูไบ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ใช้ ว.5 เวลา 10.30 ซึ่งข้อมูลทุกอย่างที่ทำนั้น ประชาชนรับทราบคนสุดท้าย  ประชาชนมาทีหลังสุด เพราะประชาชนโหวตแล้วกลับบ้าน แต่พวกคนเหล่านี้ สะท้อนถึง พฤติกรรม โบ้ยกันไปมา “นี่คือเกมส์แห่งอำนาจ” เมื่อถามว่าทำไมไม่รวมกันไว้ก้าวไกล เพื่อไทย

คุณชูวิทย์บอกว่า ก็ “กูอยากเสวยอำนาจ” ลูกพี่กูก็ได้ทางปลอดโปร่ง ซึ่งตนเชื่อว่า เขากล้ากลับหรือไม่ หากไม่มี 2 ลุง เขาไม่กล้ามา แต่ถ้ามี 2 ลุง เขากลับได้  

“จึงต้องมีการทำทุกทางเพื่อลูกพี่ เปรียบเทียบก็เหมือนผัวเมียแยกทางกัน ไปเลย ไม่ต้องมามองหน้ากันอีก และเอาไปเลย 151 บาท เอาไปเลยอย่าเอาไว้เป็นเสนียด โยนออกจากบ้าน แต่เบื้องหน้าทำเป็นพูดดี”

การที่พรรคก้าวไกลโดน มันคือจุดอ่อนจาการไว้ใจ ซึ่งก็จะได้คะแนนความสงสารจากประชาชนแล้วหวังแลนสไลด์ไว้ ก่อนหน้านี้บอกว่า 5 ชั้น ซึ่งตอนนี้ถึง 5 ชั้น คือ การยุบพรรค แค่ 2-3 วันนี้ การเมืองมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก

ส่วนการที่พรรคเพื่อไทย ออกมาว่า การที่ตัด ก้าวไกล เพื่อให้ประเทศได้ไปต่อ คุณชูวิทย์ ระบุว่า “พูดดูดีนะ แต่การทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลังแบบนี้ มันก้ไม่ค่อยดีนะแต่เมื่อเพื่อไทยเลือกทางเดินนี้แล้ว”

 คุณชูวิทย์ก็จะขอเลือกพูดถึงคุณเศรษฐาว่า เตรียมแฉ ยุทธการงูเห่าสอนงูเห่าวันนี้ (3 ส.ค.) หลังพรรคเพื่อไทยแถลงจบ คุณชูวิทย์ก็จะแถลงเพราะเหตุใดนายเศรษฐาไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี  และ สว. สส.ต้องใช้ ข้อมูลนี้ในการพิจารณาข้อมูลที่จะเปิดเผยนั้นชัดเจนแบบเอ็กซเรย์ ให้ตาสว่างว่า ว่าที่นายกปัจจุบันทำอะไรมาในอดีต เช่น 12 คน 12 วัน 12 คน  1 วัน ผมพูดได้แค่นี้

สำหรับพรรคก้าวไกลที่ไปต่อไม่ได้ เพราะทำตนเองเพราะ ม.112 ที่ทำให้เป็นแบบนี้ ไม่มีใครเอา แต่พรรคเพื่อไทย ออกสื่อก็จะไปพูดว่าพรรคเพื่อไทยพยายามทำเต็มที่ เจรจาทุกอย่าง สุดความสามารถ แต่ลับหลังโทรศัพท์สอบถามกันมาไหมจะมาหรือเปล่ากระซิบกระซาบกัน เดี๋ยวเจอกันนะแล้วช่วงนี้คุณชูวิทย์ก็แสดงท่าทีคล้ายกับคุยโทรศัพท์ดีลกัน บอกฮัลโหลๆ


นอกจากนี้ คุณชูวิทย์ ยังกล่าว่า การโหวตวันที่ 4 นี้เป็นการโหวตหานายกรัฐมนตรี แต่การแต่งตั้งคณะครม.นั้นเค้าแต่งตั้งกันเรียบร้อยแล้ว แต่จะโทษพรรคเพื่อไทย 100% มันก็ไม่ใช่ เพราะเขาต้องก้าวเดิน ทำเพื่อประชาชน วันนี้ตัดสินใจแล้ว รอดูนโยบายวันนนี้ (3 ส.ค.) คือ เรียกว่า งูเห่าซ้อนงูเห่า ส่วนวันที่ 4 จะมีการโหวต คุณชูวิทย์ เชื่อว่าพรรคก้าวไกล งดออกเสียง แต่พรรคเพื่อไทย จะรวมได้หรือไม่ ก็รอดูวันนี้

คุณชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้รู้ข่าวมาว่า มีสว.บางคนได้กินกล้วยหอมแล้ว

นอกจากนี้ คุณชูวิทย์ ยังให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ เขาตั้งกันหมดแล้ว ผมรู้มาไกลแล้วไม่ใช่แค่นายก แต่รู้ถึง ครม .เช่นใคร เป็น คมนาคม ก็ นายประเสริฐ์ รมว. พลังงาน  สธ. ก็พรรคภูมิใจไทย  พรรค ปชป. ก็เอาพาณิชย์ไปเพื่อกลบเรื่องเก่าไว้

คุณชูวิทย์ระบุถึงกรณีคุณทักษิณกลับประเทศไทยหรือไม่ ว่าส่วนตัว ตนเองเชื่อว่า

1. คนใกล้ชิดบอกยังไงก็กลับ

2. ผมเคยติดคุก แม้มีสตางค์ไม่เยอะคุณทักษิณ แต่การกลับมาคุณทักษิณต้องคิดเยอะๆ ว่าจะออกจากคุก อย่างไร และยอมไปติดคุกเลยหรือไม่

3.การกลับมาของคุณทักษิณสอดคล้องกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แลล้วทำไมจงใจกลับ วันที่ 10 สค  และวันโหวตสำเร็ต คือ 4 สค

4. การที่จะกลับมาได้คุยกับฝ่ายอำนาจเก่าแล้วหรือยัง ต้องคิดว่าพร้อมกับฝ่ายความมมั่นคงอำนาจเก่า เป็นพวกกันหรือยัง

5.การจะหลุดออกจากคุก จะออกด้วยวิธีใด

ถ้าให้ผมตอบ ก็ตอบแบบชาวบ้าน คือยังไงก็มา แต่ถ้าดู 5 เหตุผลนี้จะคิดได้ว่า กลับหรือไม่

ก่อนจบการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่า แบบนี้พรรคเพื่ออไทย เท่ากับผิดคำพูดกับประชาชนหรือไม่ เรื่องนี้ คุณชูวิทย์ กล่าวเป็นถึงบทกลอน ว่า

“สันดานนักการเมือง ฉกฉวยแย่งชิง ผูกขาดตอนตอน ริดรอนสิทธิเพื่อน แทงหน้าแทงหลัง

หน้าด้านหน้าทน สาวได้สาวเอา ได้ฝากเมีย เสียฝากเพื่อน อ้างฟ้าดิน สิ้นศรัทธา” ตอนนี้ประชาชนก็รู้แล้วว่า ตืออะไรกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OHk9T3-duFI