เลือกตั้งและการเมือง

“ณัฐชา” เชื่อ “ก้าวไกล” ไม่ได้โง่ ตามเกม บีบไปเป็นฝ่ายค้าน แต่โหวตนายกฯ “เพื่อไทย”

31 ก.ค. 2566

1.7K views

วันนี้ (31 ก.ค.2566) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กระแสข่าวการผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน โดยให้โหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ว่า จากกระแสข่าวที่มีความพยายามให้พรรคก้าวไกล 151 เสียง โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนเลยว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล หารือกันว่าอย่างไร หลังจากที่พรรคก้าวไกลมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการเดินหน้าหาเสียง หลังจากวันนั้นก็ยังไม่มีการประชุมอย่างเป็นทางการของ 8 พรรคร่วมฯเลย แต่ก่อนหน้านี้กลับมีกระแสข่าวดังกล่าวออกมาว่าพรรคก้าวไกลจะร่วมโหวตให้แล้วไปเป็นฝ่ายค้าน


“ผมคิดว่าการกระทำในการปล่อยข่าวเช่นนี้ ไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย วันนี้สถานการณ์การเมืองที่กำลังเกิดขึ้นคนที่มีปัญหาที่สุดเป็นตัวปัญหาที่สุดของการจัดตั้งรัฐบาลนั้นคือเสียงของ สว. ที่ไม่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงของประชาชน และวันนี้หาก 8 พรรคร่วมฯ จับมือกันแน่น ไม่ไปยักคิ้วหลิ่วตาให้ใคร ก็ไม่มีใครจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ หรือหากจัดตั้งได้จริงก็อยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน” นายณัฐชา กล่าว


นายณัฐชา กล่าวว่า เราจะไม่ยอมให้พี่น้องประชาชนต้องมาทนทุกข์ทรมานจากรัฐบาลที่เขาไม่ต้องการ เพราะฉะนั้น หากมีการตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ อยากให้ทุกฝ่ายมองเห็นถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนว่าการเลือกตั้งนั้นศักดิ์สิทธิ์ คือการแสดงออกถึงอำนาจของประชาชนโดยตรง และคนที่ได้รับมอบหมายให้ไปจัดตั้งรัฐบาล ก็อยากจัดตั้งรัฐบาลอย่างสง่างาม ไม่ลักไก่ ลักหลับโดยการเอาเศษเสี้ยวของเผด็จการมาร่วม ทั้งจากพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ โดยดึงเอามาบางกลุ่มบางก้อน และบอกว่าไม่มี 2 ลุง และไปหาเสียง สว.ว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลแล้ว ซึ่งหมายความว่าสุดท้ายเป็นการหลอกลวงพี่น้องประชาชนหรือไม่ ทำให้รัฐบาลที่จะเกิดขึ้นไม่ต่างอะไรจากเดิม


เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลยอมรับได้หรือไม่ หากต้องให้โหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยแล้วถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นายณัฐชา กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรคก้าวไกล เนื่องจาก 8 พรรคร่วมฯ ยังไม่มีการส่งสัญญาณชัดเจน ว่าสุดท้ายแล้วพรรคเพื่อไทยมีพรรคอะไรเพิ่มเติมบ้าง รวมถึงทิศทางของการโหวตนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น


“วันนี้ก็ 31 ก.ค.เข้าไปแล้ว ยังไม่มีความชัดเจน แต่ถ้าเกิด อยู่ดีๆ มาบอกว่าให้พรรคก้าวไกลโหวตให้ไปก่อน แล้วตอนนี้ไม่มี 2 ลุงแล้ว โหวตให้ไปก่อน ผมคิดว่าการโหวตให้ไปก่อน ไม่แตกต่างอะไรกับตอนทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่าโหวตไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปแก้ไขทีหลัง สุดท้าย สว.ก็จะสถาปนาตนเองว่ามีความชอบธรรม” นายณัฐชา กล่าว


นายณัฐชา ย้ำว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีควรเปิดให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ว่าเงื่อนไขเป็นอย่างไร มีใครร่วมรัฐบาลบ้าง และได้ลงมติอย่างสง่างาม ได้รัฐบาลของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ปล่อยอึมครึมและดึงกลุ่มนู้น ก้อนนี้มา แล้วบอกว่าคุณไม่ต้องเป็นรัฐบาล คุณโหวตให้เราแล้วปิดสวิตซ์ สว.แล้วจบ อย่างนั้นตนคิดว่าไม่ใช่ และตนเป็น 1 ใน 151 เสียงของพรรคก้าวไกลก็ยอมไม่ได้


นายณัฐชา กล่าวว่า หากเป็นตามข่าวที่ปล่อยออกมาที่บอกว่าเป็นเกมสกปรก บีบพรรคก้าวไกลให้ไปเป็นฝ่ายค้านทางอ้อม โดยใช้องคาพยพต่างๆ แต่ยังให้โหวตนายกฯ ตนคิดว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้โง่ขนาดนั้น ที่จะไปทำเรื่องราวเหล่านั้นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้มีเรื่องอะไรควรหยิบมาวางบนโต๊ะ และเปิดให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบ


“ถ้าเกิดมีการจัดตั้งรัฐบาล โดยเสียงของพี่น้องประชาชนมากขนาดนี้ แต่กลับมีการลักไก่ ลักหลับกัน โดยการประชุมกันกระชั้นชิด แล้วไปโหวตกันในวันถัดไป โดยที่ยังไม่มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเป็นวงกว้าง ผมคิดว่ามันไม่สง่างามเลยสำหรับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ทำแบบนี้ เพราะพี่น้องประชาชนให้เสียงสนับสนุนมามากถึง 312 เสียง รวมกัน 8 พรรคการเมือง คุณต้องยืนหยัดในเจตนารมณ์มาถ้าเกิดจับมือกันแบบนี้ ไม่มีใครที่ไหนสามารถตั้งรัฐบาลแข่งได้อยู่แล้ว” นายณัฐชา กล่าว


“อนาคตทิศทางของ 8 พรรคการเมือง ไม่ว่าอย่างไรเวลาอยู่ข้างเรา เพราะฉะนั้นเลือกจัดตั้งรัฐบาลอย่างสง่างามดีกว่า ดีกว่าไปจัดตั้งรัฐบาลกันลับหลัง และไปหยิบมาบางกลุ่มบางก้อน พรรคลุง ลุงไม่มา แต่เอาบางกลุ่มบางก้อนเข้ามา บางกลุ่มบางพวกเข้ามา แล้วบอกว่าไม่มีลุงแล้ว ไม่มี 2 พรรคนี้แล้ว แต่สุดท้ายก็รับมา ใส่ตะกร้าล้างน้ำกลับเข้ามา อย่างนั้นมันไม่ค่อยสง่างาม” นายณัฐชา กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ณัฐชา ,พรรคก้าวไกล

คุณอาจสนใจ

Related News