เลือกตั้งและการเมือง
“อานนท์” ปราศรัย ลั่น กกต.ต้องติดคุกสถานเดียว ปมส่งศาลฯวินิจฉัย “พิธา” ชี้ฝากความหวังกับ 8 พรรค ให้เราต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย
12 ก.ค. 2566
175 views
วันนี้ (12 ก.ค.66) เวลา 18.00 น. ที่สกายวอร์กปทุมวัน กทม. หลังจากที่นายอานนท์ นำภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นัดชุมนุม ภายหลัง กกต.มีมติ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีหุ้นสื่อ ITV ซึ่งทีมงานที่จัดกิจกรรมครั้งนี้แจ้งว่าทำเรื่องขอใช้พื้นที่ถูกต้องตามระเบียบ
โดยนายอานนท์ เริ่มปราศรัยว่า พรุ่งนี้ตัวแทนของเราได้ไปอภิปรายเรื่อง ม.112 ในสภาฯ แน่นอน เพราะสภาฯ ให้อภิปราย 6 ชั่วโมงก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเข้าทางพวกเราที่จะฝาก ส.ส. อภิปรายเหตุผลว่าทำไมต้องแก้ไขมาตรานี้ รวมถึงเพื่อจูงใจ ส.ว. ร่วมเปลี่ยนแปลง รวมโหวตให้กับนายพิธา
อย่างไรก็ตามวันนี้ เราไม่จำเป็นต้องมาแบบนี้ เพราะในปี 2563 หรือการต่อสู้คนเสื้อแดงที่ผ่านมา การออกมาทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของคนเสื้อแดง ซึ่งการต่อสู้บนท้องถนนมันเจ็บปวดและสูญเสีย เราจึงเรียกที่จะใช้ช่องทางของระบอบรัฐสภา เพื่อให้เข้าไปเป็นปากเสียงแทน ทั้งนี้เราอดกลั้นมา 4 ปี เพื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 จะไปลงคะแนนเสียงผ่านทางส.ส. ให้เขาเป็นตัวแทนเราเข้าไปพูดในพื้นที่ปลอดภัย
นายอานนท์ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อพรรคก้าวไกลทำงานได้ดีในสภาก็หาทางกำจัด เปลี่ยนเป็น 2 ใบ ดักไปดักมา กลับกลายเป็นว่าชนะเป็นอันดับหนึ่ง เพราะวันนี้คนตื่นจากหลับแล้ว ไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่คนต่างจังหวัดและจากทุกสาขาอาชีพ ที่ไว้ใจให้พรรคการเมืองมาจับมือกันกับพรรคก้าวไกล
นายอานนท์ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ พลังของประชาชนจะมีพลังอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เหมือนเลือกตั้งแล้วเลือกตั้งเลย ก่อนถึงวันพรุ่งนี้สมุนเผด็จการได้สำแดงเดช โดย กกต. ได้ส่งเรื่องให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของนายพิธา จึงทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ ก่อนจะย้ำชัดว่า กกต. จะต้องติดคุกสถานเดียวเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เพราะต้องการหยุดพิธา และหาข้ออ้างให้ ส.ว. แต่เขาไม่รู้ว่าประชาชนจะไม่ยอม และด่านสอง คือศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 อาจจะขัดรัฐธรรมนูญ ล้มล้างการปกครอง
วันนี้เผด็จการ อำนาจนิยม ชนชั้นนำในบ้านเมือง กำลังปิดตายประตูนั้นจะไม่โหวตให้คนจาก พรรคร่วมเป็นรัฐบาล ไม่ให้มีการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองโดยสันติ ตนอยากท้ามีหนึ่งเสียงที่จะไปตะโกนที่รัฐสภา คือเสียงของประชาชน ในวันเลือกตั้งเสียงของเรา เขาอาจจะทำเป็นไม่ได้ยิน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะไปส่งเสียงสุดท้ายให้เขาได้ยินอีกครั้ง
ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งลางาน เพราะอาจจะต้องลายาว ใครที่ไม่ได้ทำงานประจำไปรวมกันได้ในช่วงบ่าย แต่ถ้าพนักงานประจำ พนักงานบริษัท ข้าราชการ เลิกงานแล้วเจอกันที่สภา เราไม่ได้ไปไล่ ไปกดดันหรือไปขอร้อง เราเพียงจะไปตบมือไปยก 3 นิ้วแต่ถ้าพรุ่งนี้ถูกหักหลังถูกปิดประตู การต่อสู้ของเราในสัปดาห์หน้าเกิดขึ้นแน่นอน
ช่วงหนึ่ง นายอานนท์ กล่าวว่า พรุ่งนี้เราอาจจะได้เห็นอะไรแปลก ๆ กับการหาข้ออ้างไม่เข้าร่วม ของ ส.ว. และกรณี ส.ว.ที่เป็น ผบ.เหล่าทัพ คนหนึ่ง ที่บอกว่าจะไม่เข้าร่วมเนื่องจากติดภารกิจสำคัญ จึงอยากตั้งคำถามว่า “มีอะไรสำคัญมากกว่าการเลือกนายกฯของประชาชน” และขอฝากว่าถ้าไม่เห็นหน้า ผบ.เหล่าทัพ ในสภาฯ นายอานนท์บอกว่า “แล้วเจอกัน”
จากนั้น นายอานนท์ ได้กล่าวกำลังใจให้ 8 พรรคร่วม และช่วงนั้น มีตัวแทนจากพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยมาสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยคือ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ส.ส.เพื่อไทย ซึ่งเจ้าตัวหันมาหานายอานนท์ ยืนยันว่า “เพื่อไทยทุกคนโหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกฯ แน่นอน
จากนั้น นายอานนท์ กล่าวต่อว่า ขอฝากความหวังกับทุกคนเอาไว้กับพรรคร่วม เกาะกันให้เหนียวแน่นแล้วและประชาชนจะเป็นกำแพงเป็นผนังทองแดงให้กับทุกคน และพรุ่งนี้เลิกงานถนนทุกสายจะมุ่งสู่รัฐสภา ถ้าโหวตแล้วปรากฏว่าหักหลังประชาชน สัปดาห์หน้าเจอกันทั้งแผ่นดิน ให้การต่อสู้ของเราเป็นครั้งสุดท้าย เปลี่ยนประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายอานนท์ ,โหวตนายกฯ ,ม็อบ12กรกฎาคม66