เลือกตั้งและการเมือง

แหล่งข่าว พปชร.มั่นใจ 'บิ๊กป้อม' ได้เป็นนายกคนที่ 30 พร้อมเปิดสูตรรัฐบาล 6 พรรค รวม 289 เสียง

โดย nattachat_c

30 มิ.ย. 2566

18.2K views

วานนี้ (29 มิ.ย. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า 


เมื่อถามว่า หลังวันที่ 3 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรี จะไม่เข้ามาปฏิบัติงานอย่างทำเนียบรัฐบาล ใช่หรือไม่

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดไปหลายครั้งแล้ว ผมรักษาการ ต้องทำงานถึงเมื่อใด ถึงวันที่ครม. ใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณโน้น เดือนอะไรไม่รู้ เดือนหน้านั่นแหละ มีกำหนดอยู่แล้ว แต่ถ้ามันเลื่อนไปเรื่อยๆ ตนก็ยังเป็นรักษาการอยู่เข้าใจไหม ในระหว่างนี้ มันเรียบร้อย ถ้ามันเรียบร้อย ผมก็ไปตามนู้น มันมีกำหนดอยู่แล้ว จะอยู่จะไปเมื่อไหร่ จะคิดเอาเองได้ไงเล่า แล้วใครจะรักษาการ แล้วใครจะรับผิดชอบ


นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ผมยินดีกับทุกคน และทุกพรรค ขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ เรียบร้อยและปลอดภัย ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเราคือประเทศไทย เพราะมีหลายอย่างที่แตกต่างจากต่างประเทศ ต้องทบทวนเอาเอง ผมไม่อยากให้เกิดปัญหา ไม่อยากให้ล่าช้าจนนานเกินไป แล้วมีผลเสีย เรากำลังมีโอกาส ก็อย่าไปทำให้เกิดวิกฤต เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ขอให้ปรึกษาหารือกันให้ดี ให้ได้รัฐบาลที่ดี


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไร หากพรรคซีกรัฐบาลเดิมรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอชื่อชิงประธานสภาผู้แทนราษฎรแข่งหรือไม่

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่มอง ก็แล้วแต่พรรค ซึ่งขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังไม่ได้มีการคุยกันแต่อย่างใด พร้อมกับยังกล่าวอีกว่า ไม่รู้ เพราะยังไม่ได้รับ ผมบอกแล้ว ให้เป็นเรื่องของการเมืองก็ว่ากันไปนะจ๊ะ ก่อนที่จะเดินออกจากโพเดียม

-------------
วานนี้ (29 มิ.ย. 66) แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคนำโดยพรรคก้าวไกล ซึ่งนอกจากจะมีอุปสรรคเรื่องเสียง ส.ว.ที่จะโหวตสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกฯแล้ว ล่าสุดยังมีปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานสภาด้วย ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจสุดท้ายตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ


แหล่งข่าว ไม่บอกชัด ๆ ว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร ให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตในรอบแรกเลยหรือไม่ แต่บอกว่า การจะเป็นนายกฯได้จะต้องมีเสียงสมาชิกรัฐสภาสนับสนุน 376 เสียงขึ้นไป ส่วนการจะเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ จะต้องมีเสียง ส.ส.เกินครึ่ง คือ 251 เสียง


ทั้งนี้ ถ้าเราดูจากเสียงที่มีการแบ่งขั้วปัจจุบัน ฝั่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรับบาลขณะนี้มี 312 เสียง ถ้าฝั่งนี้จะเป็นนายกฯได้ ก็ต้องมีเสียงเพิ่มอีก 64 เสียง / ขณะที่อีกฝั่งมี 188 เสียง หากได้เสียงมาเติมอีก 188 เสียง ก็สามารถเป็นนายกฯ ได้เช่นกัน


ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า หากมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เข้ามาชิงตำแหน่งนายกฯ ก็จะมีเสียงจาก ส.ว.มาสนับสนุนได้เกิน 376 เสียงแน่นอน


ส่วนจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาล พล.อ.ประวิตร จะไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่สามารถบริหารราชการได้ แต่มั่นใจว่า หลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตให้เป็นนายกฯ แล้ว พล.อ.ประวิตร จะสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.มาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้


ซึ่งสูตรรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ที่มีความเป็นไปได้ก็คือ ดึงพรรคเพื่อไทยมาร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งเชื่อว่าถึงที่สุดพรรคเพื่อไทยจะยอมมาร่วมด้วย โดยแหล่งข่าวบอกว่า "มันมีเหตุผลหลายอย่าง" ที่ทำให้มั่นใจ


และน่าจะเป็นสูตรรัฐบาล 6 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย/ภูมิใจไทย/พลังประชารัฐ/ประชาธิปัตย์/ชาติไทยพัฒนา และ ชาติพัฒนากล้า รวม 289 เสียง


ส่วนฝ่ายค้าน พรรคหลัก ก็จะเป็นพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ (เนื่องจากพรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ทำรัฐประหาร ส่วน พล.อ.ประวิตร ถือว่าไม่ได้เป็นคนทำรัฐประหารโดยตรง)


แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า สถานการณ์ภายหลังการเลือกนายกฯจะไม่มีเหตุการณ์บานปลาย แม้ว่าอาจจะมีการชุมนุมแสดงความไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเกิดความรุนแรง และเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร "เอาอยู่"

-------------


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CnG_DHA0CyU

คุณอาจสนใจ

Related News