เลือกตั้งและการเมือง

'อดิศร' ลั่นเดือด 'ประธานสภาฯ' ต้องของ 'เพื่อไทย' เท่านั้น - 'วันนอร์ - หญิงหน่อย' ไม่เห็นด้วยกับฟรีโหวต

22 มิ.ย. 2566

163 views

วานนี้ (21 มิ.ย. 66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แจ้งต่อสมาชิกพรรคว่า สภาผู้แทนราษฎรแจ้งกำหนดการว่า วันที่ 3 กรกฎาคม นี้ จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร


และมีการคาดการณ์ว่า ในวันเดียวกันนั้น หรือวันที่ 4 กรกฎาคม จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร 

-------------
วานนี้ (21 มิ.ย. 66) เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค การจัดสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยการจับตาของสื่อมวลชนว่า จะมีการถกเถียงกันเรื่อง 'ประธานสภา' หรือไม่ 


เนื่องจากมีไลน์หลุด ส.ส.พรรคเพื่อไทยแสดงความไม่พอใจ เมื่อแกนนำพรรคออกมาระบุว่า จะยึดหลักการให้พรรคอันดับหนึ่งได้ตำแหน่งประธานสภา และพรรคอันดับสองได้ตำแหน่งรองประธานสภา 2 เก้าอี้


ก่อนการสัมมนา นายอดิศร เพียงเกษ ได้ทักทายกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จับมือพูดจากันด้วยดี พร้อมพูดกับสื่อที่ยืนอยู่ว่า “สนิทกันดี เคยทำงานกระทรวงเดียวกัน ตอนอยู่ป่า ก็อยู่ด้วยกัน” และกล่าวว่า “สิ่งที่แสดงความคิดเห็นไปเพื่อพรรคทั้งนั้น”


ขณะที่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “มีอะไรก็ขอให้พูดคุยกัน วันนี้ก็เบาๆ หน่อยนะ”

-------------

เวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทยเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อ 'เพื่อไทยเปิดใจ เพื่ออนาคตไทย' โดย นายภูมิธรรม กล่าวเปิดใจถึงกระบวนการทำงานในการเป็นตัวแทนพรรค ไปทำหน้าที่เป็นผู้เจรจาในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า


ที่ผ่านมา พวกตนได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย การพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ก็ได้เสนอไปว่า แต่ละพรรคได้ ส.ส.ใกล้เคียงกัน ควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรี พรรคละ 14 คน


นายภูมิธรรม ได้อีกกล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้ ส.ส.มาอันดับหนึ่ง ก็ควรได้ประมุขฝ่ายบริหาร และ พรรคเพื่อไทยควรได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เรื่องตำแหน่งประธานสภา ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ยังรอคำตอบจากทางพรรคก้าวไกล


แต่การให้ข่าวของตนและเลขาธิการพรรค อาจจะทำให้สมาชิกพรรคเกิดความไม่สบายใจ หรือความไม่พอใจ เรื่องการยึดหลักการพรรคอันดับหนึ่ง วันนี้ จึงเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นได้เต็มที่

-------------

นายอดิศร เพียงเกษ เป็นคนแรก ที่แสดงความคิดเห็นว่า


“เรื่องประธานสภาผมไม่เห็นด้วยที่เรามี 141 เสียง เขามี 151 เสียง แต่เราไปยอมเขาทุกเรื่อง พรรคก้าวไกลเขาควรได้เป็นฝ่ายบริหาร แต่จะหาวเอาเดือนเอาดาว เอาประธานสภาไปด้วย ผมว่ามันจะง่ายเกินไปหน่อย ไม่เห็นเพื่อนฝูงอยู่ในสายตา


ผมตรงไปตรงมา ผมสู้ให้พรรคเพื่อไทยยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ลูกน้องของพรรคการเมืองใด ผมเห็นใจในการเจรจา ไม่ทราบว่าเจรจาอย่างไร ถ้าเขาได้นายกรัฐมนตรี เราได้ประธานสภา มันจะสง่างาม และจะได้ถ่วงดุลการทำงานด้วยกัน ถึงอย่างไร เราก็ไม่สามารถให้ประธานสภากับพรรคก้าวไกลได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งก็โหวตกันในสภา


ผมยืนยันว่า ศักยภาพของเรา เรามีบุคลากรที่เหมาะสม ผมไม่อยากเห็นพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส เรามีบุคลากรเยอะ อย่าไปยอมให้เขาง่ายๆ เราอย่าไปห่วงความรู้สึกเขา คุณจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือ พรรคเพื่อไทย เรื่องประธานสภาถึงอย่างไร ผมคิดว่าต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้รัฐบาลผสม เดินทางไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม


ผมคนหนึ่ง ไม่รู้จะงดออกเสียงหรือไม่ เพราะไม่สามารถยกมือให้พระบวชใหม่ได้ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่สาขาของพรรคก้าวไกล เราเหนื่อยยาก เพราะต้องสู้กับพรรคก้าวไกล ฉะนั้น การทำงานในทางการเมือง อย่าอ่อน-แข็ง ต้องแข็ง พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์มา 22 ปี เราต้องสรุปบทเรียน และพรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าทุกพรรคในประเทศนี้


ภายหลัง นายอดิศรพูดจบ ได้มี ส.ส.ลุกขึ้นแสดงความเห็นกว่า 10 คน ทั้งนี้ ส.ส.ภาคอีสาน ต่างมีความเห็นว่า ตำแหน่งดังกล่าวควรอยู่ที่พรรคพเพื่อไทย เพื่อการถ่วงดุลในการทำงาน แม้จะมีการกล่าวอ้างกระแสสังคม โดยเฉพาะแฟนคลับพรรคก้าวไกล แต่ต้องไม่ลืมความรู้สึกของแฟนคลับพรรคเพื่อไทย ที่มีกว่า 10 ล้านเสียง เช่นกัน

-------------

วานนี้ (21 มิ.ย. 66) เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส.ครบทั้ง 500 คนแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสภาว่า


เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกระแสข่าวที่ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นประธานสภา

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ผมมองยังไง ผมก็มองไม่เห็น” และกล่าวต่อว่า จริงอยู่ว่าการทำหน้าที่สมาชิกสภาเป็นเอกสิทธิ์ ซึ่งเป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่เราอยู่ในฐานะที่เป็นองค์กรทางการเมือง เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นพรรคการเมือง ย่อมมีความคิดเห็น โดยมีหลักสำคัญคือหลักเสียงข้างมาก แต่เคารพเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นหลักที่เราใช้ขับเคลื่อนบริหารพรรคมาโดยตลอด


ฉะนั้น กรณีที่มีความเห็นต่างหลากหลายเช่นนี้ ก็ต้องมีความเห็นร่วมของพรรคให้ได้ก่อน ก่อนที่จะไปบอกว่าทำนั่นทำนี่ จะให้คนนั้นคนนี้ยื่น ก็ต้องเป็นความเห็นของพรรคมาก่อน


เชื่อว่า พรรคเราจะมีความเห็นร่วมตรงนี้ได้ ทั้งนี้ เราห้ามพรรคอื่นในการเสนอชื่อไม่ได้ เขาอาจเสนอได้ แต่การบริหารจัดการของพรรคเรา ต้องเป็นไปตามความเห็นของพรรค


ยกตัวอย่างง่ายๆ ผมพูดตรงนี้ไว้เลยว่า หากมีการเสนอชื่อผมโดยที่ผมไม่รู้ และมติพรรคเราชัดเจนว่า เราจะต้องสนับสนุนตามหลักการที่เราแถลงไว้ หากมีคนใดคนหนึ่งลุกขึ้นมาเสนอชื่อผมแข่งประธานสภา ผมก็จะลุกขึ้นบอกว่า ผมขอถอนตัว


ถามว่า การโหวตเรื่องนี้จะเป็นมติของพรรคชัดเจนหรือไม่

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราต้องมีเสียงข้างมากของพรรคเป็นมติไป และต้องยอมรับความเห็นต่าง หากปล่อยให้ความเห็นต่างที่ไม่มีความเห็นร่วมไปแบบนั้น มันคือความขัดแย้ง


มองการปล่อยข่าวลักษณะนี้อย่างไรบ้าง

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ไม่ได้มีประเด็นอะไร ในมิติทางการเมืองความเห็นความคิด และแนวทางที่มีความหลากหลายเป็นสีสันที่ดี แต่จะเป็นไปตามที่เขาเสนอหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ อย่างองค์กรทางการเมืองต้องยึดหลักเสียงข้างมากให้มั่น


เมื่อถามว่า มองว่าประเด็นนี้จะกระทบกับพรรค พท.เหมือนกระแสข่าวว่าพรรค พท.จะจับมือกับพรรค พปชร.หลังการเลือกตั้งหรือไม่

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นกระบวนการต่อเนื่อง เราเจ็บเพราะเรื่องนี้เยอะ ส.ส.141 ที่เราได้มา ส่วนหนึ่งเกิดจากเรื่องนี้ เขาสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว เขาทำลาย พท.ได้ แล้ว พท.ยังจะโง่ให้เขาทำลายต่อหรือ ตนเชื่อว่า พท.ไม่ทำ

-------------
หลังจากจบการสัมมนา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า 


วันนี้เป็นการประชุมสัมมนาพัฒนาศักยภาพของ ส.ส. และบุคลากรทางการเมืองของพรรคไม่ใช่ที่ประชุมพรรค ดังนั้น ข้อเสนอต่างๆ ที่ได้จากวันนี้ ก็ต้องเอามาประมวลดู ถ้ามีความจำเป็นที่ต้องขอมติ หรือขอความเห็นชอบ ก็ต้องจัดประชุมพรรคให้เป็นทางการ เพื่อมตินั้นจะได้สมบูรณ์ และต้องดูสถานการณ์ต่อไป

-------------

วานนี้ (21 มิ.ย. 66) ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) นำ 8 ส.ส.ของพรรค เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภา และให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนต่อการเจรจาแบ่งโควต้ารัฐมนตรี ว่า


ไม่ได้คุยกัน เพราะต้องรอให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หายป่วยดีจากโควิดเสียก่อน แล้วจึงหารืออีกครั้ง


พรรค ปช.ไม่มีการต่อรองเรื่องเก้าอี้ร้ฐมนตรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า จะขอเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการ เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง ส่วนจะได้ตำแหน่งใดนั้น ขอให้เป็นประโยชน์ และเหมาะสมกับพรรค เนื่องจากพรรคมาเพื่อทำงาน และทำประโยชน์ให้ประชาชน


ถามถึง การแบ่งโควต้าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลตกลงกันเอง ส่วนรองประธานสภานั้น ปกติตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่งคือ พรรคที่ได้คะแนนมากอันดับสอง และรองประธานคนที่สองเป็นของพรรคอันดับสาม


สำหรับการเลือกประธานสภาปกติ หากมีคู่แข่งต้องลงมติลับ แต่หากมีชื่อคนเดียวไม่เป็นปัญหา และเราจะปฏิบัติตามข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลว่า จะให้พรรคใดได้ตำแหน่งประธานสภา และพรรค ปช.จะลงมติ ตามมติพรรค และตามข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล


ส่วนที่มีข้อสังเกตว่า หากมีปัญหาจะปล่อยให้ ส.ส.ฟรีโหวตนั้น ผมมองว่าปกติไม่เป็นแบบนั้นเพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมา

-------------

วานนี้ (21 มิ.ย. 66) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นำ ส.ส.พรรค 6 คน เข้ารายงานตัวเป็น ส.ส. พร้อมกล่าวถึง ปัญหาโควต้าตำแหน่งประธานสภา ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ว่า


ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง สิ่งที่ตนห่วงที่สุดจากประสบการณ์การ การทำงานมา 32 ปี ไม่ต้องการให้เกิดเหตุผลออกมารัฐประหาร จึงอยากขอร้องทุกฝ่ายให้เห็นประโยชน์ของประชาชน


โดยเฉพาะ 2 พรรค ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ต้องรู้ว่าตำแหน่งประธานสภาสำคัญ ไม่ใช่แค่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยังมีความสำคัญกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้


ขอฝากความหวัง และให้กำลังใจไว้กับพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ให้พูดคุยกัน เสียสละเพื่อส่วนรวม เพราะถ้าไปโหวตแข่งกันเมื่อไหร่ ฝ่ายประชาธิปไตย จบเห่แน่นอน

-------------

วานนี้ (21 มิ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.จากพรรคอื่น จะเสนอคนของพรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า เป็นเรื่องเลอะเทอะ


เสียงของ ส.ส.ทุกคนมีความสำคัญ ซึ่งพรรคมี ส.ส. 141 คน และมีผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ ส.ส. ทุกคนจะได้พูดคุย และแสดงความคิดของตัวเอง ซึ่งตนจะขอฟังความเห็นของทุกคนก่อน จึงจะหาข้อสรุปได้


การแข่งขันเสร็จสิ้นไปแล้ว การจะยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้หรือไม่ เป็นเรื่องรอง ภารกิจสำคัญคือการตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกันให้ได้
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/kFdzTvDe0FY

แท็กที่เกี่ยวข้อง  พรรคเพื่อไทย ,อดิศร เพียงเกษ ,ภูมิธรรม เวชยชัย ,พรรคก้าวไกล ,พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ,สุชาติ ตันเจริญ ,คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ,พรรคไทยสร้างไทย ,เศรษฐา ทวีสิน ,นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ,รัฐพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ,ประธานสภาผู้แทนราษฎร ,วันมูหะมัดนอร์ มะทา ,พรรคประชาชาติ (ปช.)

คุณอาจสนใจ

Related News