เลือกตั้งและการเมือง

'เรืองไกร' ยื่นหลักฐาน กกต.ฟันผิด 'พิธา' ม.151 ลั่นทำคนเดียว ปัดสมคบคิดขบวนการปลุกผี ITV

โดย thichaphat_d

14 มิ.ย. 2566

383 views

'เรืองไกร' ยื่นหลักฐาน 'กกต.' ประกอบฟันผิด 151 'พิธา' ปัดสมคบคิดขบวนการปลุกผี ITV ย้อนถาม "ผมหน้าเหมือนพ่อมดหมอผีไหม" ลั่นทำคนเดียว ไม่มีรับไม้ต่อใคร ยันคลิปรายงานประชุม ไร้ผลข้อเท็จจริง ด้าน 'บิ๊กป้อม' ปัดเกี่ยวเรืองไกร ร้องพิธาปมหุ้น ชี้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เป็นมติ พปชร.

เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้กับ “ประธานกกต.” กรณีแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ตามมาตรา 151 ในประเด็นคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม แต่ยังฝืนลงเลือกตั้งหรือไม่ เพื่อนำไปประกอบการตรวจสอบ และให้นายพิธา ได้มาแก้ข้อกล่าวหา โดยเอกสารที่นำมายื่นมีทั้งหมด 4 ประเด็น คือ

1. กรณีที่นายพิธาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเป็นข้อมูลให้กกต.นำไปพิจารณาด้วย

2.เรื่องการโอนหุ้นของนายพิธา ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัว เคยให้สัมภาษณ์ว่าโอนหุ้นแล้ว แต่จำวันไม่ได้ ตนจึงค้นข้อมูล ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) พบว่าได้โอนหุ้น ในวันที่ 25 พ.ค. 2566

3.รายงานการประชุมวาระท้ายที่เกี่ยวกับการซักถามของการประชุมผู้ถือหุ้น itv เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ที่มี การถามคำถามเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ itv รวมถึง ไม่ตรงกันกับคลิปภาพที่ออกมา “เป็นเรื่องใหญ่โต ดีอกดีใจ ว่าประเด็นนี้รอดแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีอะไรในกอไผ่” เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับคำร้อง และไม่ทำให้ข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญเปลี่ยนไปและข้อเท็จจริงที่มาร้องเปลี่ยนไป เพราะกฎหมายบอกว่าผู้สมัครต้องไม่เป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งตนแนบข้อมูลชี้ชัดว่า ใน 16 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2566 มีชื่อนายพิธา ถือหุ้นสื่อ ระบุรายละเอียด ทั้งที่อยู่เปลี่ยน 3 รอบ จำนวน 42,000 หุ้น หุ้นละ 5 บาท ส่วนจะแก้ว่าถือในนามใคร ทายาทอะไรก็สุดแล้วแต่

และ 4.วัตถุประสงค์ของบริษัท ITV หลังจากถูกบอกเลิกสัญญาจากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) วัตถุประสงค์หลักยังอยู่ คือการดำเนินธุรกิจสื่อ งบการเงินในไตรมาสที่ 1 ปี2566 มีการระบุไว้ ว่ามีการทำธุรกิจสื่อตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2566 และจะรับรู้รายได้จากการทำสื่อดังกล่าวในไตรมาสที่ 2 พร้อมแนบหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวีบางส่วน ปี 2561 และ 2562 โดยมีแผนธุรกิจอย่างละเอียด

นายเรืองไกร ยังเรียกร้องนายพิธา กรณีจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ภายหลังพ้นส.ส. ซึ่งทราบว่า มีการแจ้งขอเลื่อน ก็บอกว่า ให้ขึ้นข้อมูลบนเว็บไซต์ ตามที่ประกาศว่าสามารถตรวจสอบได้ โดยไม่ต้องรอให้ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งตนไม่เชื่อว่าทรัพย์มรดก จะมีแค่หุ้นนี้เท่านั้น “เดี๋ยวเราได้พิสูจน์กัน”

นายเรืองไกร ยืนยันด้วยว่า การยื่นตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ไม่ได้สมคบคิดใคร และไม่มีใครรู้ว่านายพิธา ถือหุ้น เพราะพรคก้าวไกลบอกเองว่าเห็นเรื่องนี้ตั้งแต่ ปี 2562 เหตุใดไม่แจ้งในบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2562 และมาบอกภายหลังว่าได้ยื่นเพิ่มเติม ก็ตั้งข้อสังเกตว่า เจตนาจะไม่ให้มีการเปิดเผยใช่หรือไม่

นอกจากนี้ยืนยันว่า ทันทีที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ตนจะมายื่นร้องเอาผิดต่อนายพิธาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 อีกครั้ง

เมื่อถามกรณีที่พรรคก้าวไกล ออกมาพูดถึง ขบวนการปลุกผีไอทีวีมาเล่นงานนายพิธา และพรรคก้าวไกล นายเรืองไกร ได้ถามย้อนผู้สื่อข่าวว่า “ผมหน้าตาเหมือนพ่อมด หมอผีไหม ไม่ใช่ ยืนยันผมทำคนเดียวครับ” และบอกว่า ไม่คิดอะไรเกินเลย มีหน้าที่ร้องก็ร้องตรงไหนที่เห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ถูกร้องก็ส่งให้ แต่ตนจะไม่ชี้นำสังคมก่อนกระบวนการและเจ้าหน้าที่พิจารณาตัดสิน เพราะทุกวันนี้กระบวนการสังคมมีการชี้นำกัน แล้วเราจะมีกระบวนการยุติธรรมไว้ทำไม

ส่วนที่มีตั้งคำถามว่ามีการรับไม้ต่อจากนักการเมือง ดำเนินการเรื่องนี้ นายเรืองไกร ระบุว่า ไปหาไม้ท่อนนั้นให้เจอก่อน แล้วค่อยมากล่าวหา “ผมรู้ว่าสังคมมองคนในแง่ร้าย มีอคติ เขาคิดอะไร” ก็พูดกรณีที่เคยโพสต์คู่รถเมอร์เซเดสเบนซ์ ว่า วันนี้ยังมีการขุดคลิปเก่ามาเล่นงานตน รวมถึงประเด็นเรื่องเงิน 25 ล้าน “นี่แค่เงินจิ๊บๆ ในบัญชีผม ย้อนไปดูบัญชีทรัพย์สินในป.ป.ช.จะรู้ว่าผมมีฐานะเท่าไหร่ ไม่ได้มีอะไรปัญหา แต่ขอให้สู้ตามระบบ ท่านมาจากการเลือกตั้งก็ควรสู้ตามระบบ มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใดที่บัญญัติว่าผู้ชนะการเลือกตั้งห้ามตรวจสอบใหม่ เราเลือกตัวแทน สสเขตและสสบัญชีรายชื่อ เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ขอให้เข้าใจข้อกฎหมายให้ชัดด้วย”

นายเรืองไกร ยังระบุ ไม่กังวล กรณีที่ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ว่าตนใช้เอกสารเท็จในการยื่นตรวจสอบ พร้อมบอกว่า “หากเป็นการแจ้งเท็จ ตัวเองเป็นทนาย ก็คงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหลักฐานของตนเป็นเท็จ ตนไม่เคยนำของเท็จมา และไม่เคยหิวแสงด้วย” ตนพร้อมสู้ตามกระบวนการ แต่เตือนว่า จะเตะสกัดตนหาวิธีที่ดีกว่านี้หน่อย จับได้ว่าออกนอกลู่นอกทางจะกลัวมากกว่า”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองไกร มาในชุดสบายๆ สีลายสีชมพู บอกว่า “ไม่ได้มีธีมอะไรพิเศษ แค่ใส่เสื้อตามวัน ผมเล่นกอล์ฟ ก็มีชุดของผม 7 วัน คือ ถ้ามาวันพรุ่งนี้ก็สีเขียว พร้อมบอกว่าก่อนมายื่นหนังสือเพิ่งไปตีกอล์ฟมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามหยอกล้อ ว่ามีไปดีลข้อมูลอะไรในสนามกอล์ฟไหม นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่มี

ด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปยื่น ตรวจสอบหุ้นไอทีวี พรรคพลังประชารัฐ เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พลเอกประวิตรระบุว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ได้เป็นเรื่องของมติพรรค ถามว่าการที่นายเรืองไกลเป็นสมาชิกพรรคนั้นจะทำให้ถูกโยงว่าอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พลเอกประวิตร ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยว เพราะพรรคไม่ได้มีการออกมาเป็นมติ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Qssy0PIsgjg

คุณอาจสนใจ

Related News