เลือกตั้งและการเมือง
'FC เพื่อไทย' ยื่นเรียกร้องถอนตัวร่วมรัฐบาล 'ณัฐวุฒิ' ขอขัดใจกองเชียร์ 2 พรรคต้องเดินไปด้วยกัน
โดย passamon_a
29 พ.ค. 2566
262 views
'FC เพื่อไทย' รวมตัวยื่น 5 ข้อเสนอ เรียกร้องพรรคเพื่อไทยถอนตัวร่วมรัฐบาลก้าวไกล หลังพรรคถูกกดดัน แนะควรใช้เวที 8 พรรคเจรจา 'อนุสรณ์' เปรียบคนซื้อเลข 29 เขามีสิทธิ์ มาตามรางวัล ยืนยันการยื่นข้อเรียกร้องเป็นคนละประเด็นกับการจัดตั้งรัฐบาล
ด้าน 'ณัฐวุฒิ' ขอขัดใจกองเชียร์ ไม่เห็นด้วย เพื่อไทยถอนตัวร่วมรัฐบาลก้าวไกล ยันหนุน 'พิธา' เป็นนายกฯ ไม่มีทางเดินอื่น 2 พรรคต้องเดินไปด้วยกัน ชี้เพื่อไทยแพ้ครั้งนี้ เป็นด่านทดสอบสำคัญ จะผ่าตัดใหญ่ตัวเอง หรือจะเป็นเพียงเรือร้างอับปางลง
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.66 เวลา 14.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดง แฟนคลับพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้นัดหมายผ่านโซเชียลรวมตัวกันที่ทำการพรรคเพื่อไทย นำโดย นายนิยม นพรัตน์ หรือ เค เสื้อแดง พร้อมมวลชน นัดทำกิจกรรม ชื่อ รวมพลคนเสื้อแดง กินมิ้นท์ช็อค เพื่อให้กำลังใจ เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล หลังเกิดความไม่สบายใจต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงและแฟนคลับ ได้นัดกันใส่เสื้อสีแดง พร้อมมีป้ายข้อความต่าง ๆ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทย อาทิ ยืนให้ถูกที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรี, สนับสนุนนายกฯ ก้าวไกลโดยไม่ร่วมรัฐบาล, เรามีศักดิ์ศรีและสัจจะพอเราจะไม่ทนการบิดเบือน, เพื่อนกันเขาไม่เอามีดจ่อหลังเพื่อน, เราไม่ชอบพวกหน้าไหว้หลังหลอก, เหลี่ยมทุกดอกบอกเพื่อนกัน, พรรคเพื่อไทยสู้ ๆ
ขณะที่ แกนนำของกลุ่มฯ อ่านแถลงการณ์ว่า เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดง FC พรรคเพื่อไทย มีความเห็นว่าก่อนการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ถูกการโจมตีด้วยข้อมูลเท็จ จากกลุ่มพรรคการเมืองบางกลุ่ม และ FC บางพรรค ต่อเนื่องมาถึงหลังการเลือกตั้ง ทางกลุ่มเห็นว่าพวกเราควรมาให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคได้รับทราบว่าจะมีผู้สนับสนุน 10 ล้านกว่าเสียง และการเลือกตั้งครั้งนี้ยังสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย ขับเคลื่อนงานทางการเมืองเพื่อประชาชน
ขณะเดียวกันทางกลุ่มเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีกลุ่มคนบาง บางฝ่ายพยายามบิดเบือนข้อมูลโจมตีพรรคเพื่อไทย จนเกิดความขัดแย้งกันขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล ทางกลุ่มฯ มีความไม่สบายใจว่าการร่วมรัฐบาลคำนี้จะเดินหน้าต่อไป ด้วยบรรยากาศและความระแวงแคลงใจไร้ซึ่งความไร้เกียรติกัน ในพรรคร่วม แบบนี้คงจะไม่มีผลดีต่อทุกฝ่าย
เมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมองว่าพรรคเพื่อไทย เป็นอุปสรรคและปัญหาต่อการจัดตั้งรัฐบาลอ้างอิงธรรมเนียมปฏิบัติ ทางกลุ่มจึงต้องการให้พรรคเพื่อไทยตระหนักว่าพรรคที่ได้อันดับสองที่ผ่านมาไม่เคยมีธรรมเนียมจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง
โดยมีข้อเสนอทั้งหมด 5 ข้อ ถึงพรรคเพื่อไทยเพื่อพิจารณา ดังนี้
1. ให้ทบทวนถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้
2. ให้เกียรติพรรคอันดับ 1 ได้รวบรวมเสียงข้างมาก จัดตั้งรัฐบาลตามมารยาททางการเมือง
3. ให้โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีมที่มาจากพรรคที่ได้อันดับ 1
4. ให้โหวตสนับสนุนกระบวนการ จัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ของประชาชน
5. ถ้าพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ให้พรรคเพื่อไทยได้ใช้สิทธิ์ในการเป็นพรรคอันดับสองรวบรวมเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล และนำนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนมาผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป หรือแล้วแต่พรรคจะใช้ดุลยพินิจเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ขอให้พรรคโปรดรับฟังข้อเสนอ แต่หากพรรคตัดสินใจอย่างไร ทางกลุ่มก็พร้อมรับฟังและเคียงข้างสนับสนุนต่อไป
ขณะที่ นายนิยม นพรัตน์ หรือ เค เสื้อแดง แกนนำกลุ่มแฟนคลับพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ถ้าพรรคกลัวทัวร์มาลง พวกตนจะเตรียมรถแม็คโครขุดดินไว้เตรียมช่วยเหลือพรรคแน่นอน เราจะเดินไปด้วยกัน
นายนิยม ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนถึงการมายื่นหนังสือในวันนี้ ห่วงจะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคหรือไม่ ว่า วันนี้ตนมาเพื่อมาให้กำลังใจพรรคการเมืองที่พวกตนให้การสนับสนุน แต่ตนถูกนำไปตีข่าวบิดเบือนว่ากดดันพรรค วันนี้ทุกอย่างฝ่ายตนจะขับเคลื่อนอะไรไม่ได้เลย พอจะขับเคลื่อนก็กลายเป็นคนร้ายในสังคม ตนก็จะไม่ยอมอีกต่อไปเหมือนกัน
"หลัก ๆ พวกตนมาให้กำลังใจพรรค แต่สิ่งที่รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวแต่พรรคร่วมฯ ต้องมีมติร่วมกันและทุกคนต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่มาขี่คอพรรคเพื่อไทยอย่างเดียวเราก็จะไม่ยอม"
ส่วนจะมองว่าตนทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมหรือไม่นั้น มองว่า หากมองเป็นเรื่องความขัดแย้งควรเอาไปคุยกันในโต๊ะเจรจา ไม่ใช่พูดคุยแล้วเอาเพื่อนออกมาให้คนอื่นโจมตีข้างนอก แบบนี้ไม่เป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเกมที่จะรับลูกกันหรือไม่ นายนิยม ตอบว่า ไม่มีเกม และตนเองเป็นประชาชนที่สามารถทำได้แล้วทำไมสื่อมวลชนไม่ตั้งคำถามกรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ออกมาแสดงความเห็นทางเมืองแล้วบังคับพรรคโน้นพรรคนี้ ถามกลับหน่อยว่าเขาเป็นใคร
"ทำไมไม่ไปถามพี่ชูวิทย์บ้าง พี่ชูวิทย์ออกมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่ควรได้เก้าอี้ประธาน แต่ทำไมนักข่าวไม่ไปถามชูวิทย์แต่กลับมาตั้งคำถามกับผมที่เป็นประชาชน"
เมื่อถามย้ำว่า เหตุผลที่จะให้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลคืออะไรนั้น นายนิยม ตอบว่า "เราอยากให้ทุกพรรคทบทวน ว่าหากขาดพรรคใดพรรคหนึ่งไปแล้วจะเดินไปอย่างไร อันนี้คือเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของกลุ่ม ไม่ใช่โยนความผิด โยนบาปให้พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว แล้วจะเดินหน้าต่อกันได้อย่างไร และตนยินดีที่จะให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้าทำเพื่อประชาชย แต่ต้องเดินไปด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรี หากวันใดที่เขาลดเกียรติของพรรคเพื่อไทย เราก็ควรจะถอนตัวออกมา"
โดยพรรคเพื่อไทยมอบหมายให้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง และ นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับหนังสือ
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนมารับหนังสือซึ่งเป็นข้อห่วงใยข้อเสนอแนะ ทางนี้พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองเป็นเสาหลักของประเทศ มีปรัชญาที่ยึดมั่นมาโดยตลอดว่า พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน จากนี้ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของพรรคฯ ที่เหมาะสมถูกต้องต่อไป
"พรรคเพื่อไทยเราไม่กังวลทัวร์ลง แต่กลัวทัวร์ที่มาลงไม่มีคุณภาพ บนโลกเสรีประชาธิปไตยเราเห็นต่างกันได้ การแสดงข้อคิดความเห็นนั้น ควรเป็นข้อคิดความเห็นแบ[สร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ไม่มีการตัดตอนบิดเบือนด้อยค่ากล่าวหาใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย"
นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำจากแฟนคลับว่าหลังจากนี้หากมีกระบวนการบิดเบือนใส่ร้ายพรรค ด้อยค่าพรรคเพื่อไทยควรใช้กระบวนการฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ "ผมเป็นคนเสื้อแดง และคงไม่ต้องบอกว่าคนเสื้อแดงสู้มากกว่าใคร สู้จริงกว่าใคร ขอใช้สิทธิคนเสื้อแดงคาราวะและขอบคุณประชาชนที่มาวันนี้"
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังบอกอีกว่า การยื่นข้อเสนอถือเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะยื่นได้ และผู้ที่มายื่นหนังสือวันนี้ได้เปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยใช้ดุลยพินิจว่าจะหน้าต่อไปอย่างไร
"วันนี้ขอเปรียบคนที่มายื่นหนังสือว่าเป็นคนที่ซื้อลอตเตอรี่เลขท้าย 29 เมื่อเขาซื้อ 29 เขาก็มาตามดูว่านโยบาย สิทธิที่เขาพึงได้จากการซื้อ 29 จะดำเนินการต่ออย่างไร และเขายังตั้งข้อสังเกตุว่า มีคนที่ซื้อลอตเตอรี่เลขอื่นที่ไม่ใช่ 29 ทำไมกลับมากดดัน ทั้งที่คุณไม่ได้ซื้อ 29 มาตั้งแต่ต้น คุณซื้อเลขท้ายอะไรคุณต้องไปตามสิครับว่านโยบายทำได้หรือไม่ ตอนนี้ก็ไม่ได้ซื้อ 29 แต่คุณกลับมากดดัน กดขี่ว่า 29 ต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ทั้งที่ไม่ได้ซื้อตั้งแต่ต้น"
จากนั้น นายนิยม กล่าวเสริมนายอนุสรณ์ว่า ตอนนี้คนที่ซื้อเลข 31 มาเอารางวัลของคนที่ซื้อลอตเตอรี่ 29 แล้วไปแปะไว้ในเลข 31 ว่าถ้าซื้อแล้วจะได้แบบนี้ด้วย ทั้งมี่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ เพราะรางวัลนั้นเป็นของคนที่ซื้อ29 ไม่ใช่ 31 อันนี้หลอกประชาชน
เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์บานปลายพรรคเพื่อไทยจะมีการพิจารณาถอนตัวหรือไม่ นายนายอนุสรณ์ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือ กับการจัดตั้งรัฐบาลเป็นคนละประเด็นกัน และยืนยันว่า การแสดงความเห็นต่าง เป็นสิทธิที่ทำได้ พร้อมย้ำว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทยยังเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายนิยม นพรัตน์ หรือ เค เสื้อแดง ตอบข้อซักถามนักข่าว ปรากฏว่าระหว่างนั้น นายนิยม ได้พูดพาดพิง น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีไชย หรือแยม สื่อมวลชนที่ไปทำข่าว ว่า "พี่แยมเมื่อก่อนแกเป็นแยมสตรอเบอรี่ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแยมส้มเรียบร้อยแล้ว" ทำให้กองเชียร์ส่งเสียงเฮกันสนั่น ส่วนนายอนุสรณ์ ยืนหัวเราะอยู่ข้าง ๆ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากถึงความเหมาะสมของนายอนุสรณ์
ขณะที่ น.ส.ฐปนีย์ กล่าวว่า "พูดแบบนี้ไม่ถูกต้อง ต้องขอโทษนะคะ จะพูดแบบนี้ไม่ได้" จากนั้น นายนิยม กล่าวต่อหน้าสื่อ "ผมขอโทษพี่แยมแล้วกันครับ"
ต่อมา เวลา 21.35 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีกลุ่มสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือให้พิจารณาถอนตัวการร่วมจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ระบุว่า การเลือกตั้งจบลงแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่จบ ปรากฏความเคลื่อนไหวทั้งในทางที่เป็นจริง และข่าวลับ ลือ ลวง มากมายในสถานการณ์
หนึ่งในนั้นคือการยื่นข้อเรียกร้องของกองเชียร์พรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่ง ขอให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ประกาศชัดว่านี่เป็นความเห็น ความต้องการในกลุ่มของพวกเขา และพร้อมเคารพต่อการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะตรงกับข้อเรียกร้องหรือไม่
แน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ แต่ผมก็เห็นความจริงด้วยว่า กลุ่มที่มายื่นหนังสือเป็นพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กันมา และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยตัวจริง การไม่เห็นด้วยนี้ จึงยืนอยู่บนความเข้าใจ และเคารพในความคิด ความรู้สึกของพวกเขา
การไม่เป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งเป็นความสูญเสีย ผิดหวัง และบาดเจ็บครั้งใหญ่ ที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเจอ แต่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ ด้วยสติ ปัญญา ความตระหนักรู้ในสถานการณ์ และความศรัทธาเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เพื่อจะกลับมายืนในที่เดิมที่เคยยืนมาตลอดอีกครั้ง
พรรคเพื่อไทยเผชิญผ่านหลากหลายวิกฤตการณ์ ทุกครั้งเราเอาชนะทุกอุปสรรค ทุกคู่ต่อสู้ ด้วยแนวทางประชาธิปไตย เราเคยสูญเสียอำนาจรัฐเพราะถูกรัฐประหาร สูญเสียกระทั่งพรรคที่เรารักเพราะถูกยุบทำลาย และทุกครั้งเราก็กลับมา
เราเคยสูญเสียอะไรไปมากมาย แต่เราไม่เคยสูญเสียจุดยืนประชาธิปไตย การพลัดหลงจากชัยชนะในครั้งนี้ เป็นด่านทดสอบสำคัญ ว่าพรรคเพื่อไทยจะผ่าตัดใหญ่ตัวเอง เดินหน้าสู่ความเป็นสถาบันทางการเมือง หรือจะเป็นเพียงเรือร้างอัปปางลง กลางคลื่นลมความเปลี่ยนแปลง
หากหัวใจยังไม่หมดแรงฝัน ก็ขอให้รวมพลังกันลุกขึ้นยืน และทำหน้าที่สำคัญที่สุดของเราวันนี้ คือปกป้องชัยชนะของประชาชน ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล สนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน แข่งกันทำงานอย่างสร้างสรรค์ รอวันให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้งในสนามเลือกตั้ง
ไม่มีเกมอื่น ไม่มีทางเดินอื่น สองพรรคต้องเดินไปด้วยกัน สิ่งที่ยังเห็นต่าง ให้ไปจบในวงเจรจา ถ้าปล่อยมือกัน เท่ากับปล่อยมือจากประชาชน ผมไม่ได้มองโลกสวย เพราะโลกที่ผมสู้มามันเจ็บปวด แต่ผมเชื่อว่าโลกแห่งความเป็นจริง ที่คนส่วนใหญ่ต้องการคือแบบนี้
หากจะขัดใจกองเชียร์ไปบ้าง ก็ขอให้เชื่อว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ทุ่มเททำทุกอย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดก็ต้องยืดอกรับ ทั้งที่ในใจก็บอบช้ำไม่น้อยไปกว่าทุกท่าน
สำหรับผู้สนับสนุนของ 2 พรรคหลัก ที่ผลักอกกันอยู่ในโลกออนไลน์ จริงอยู่ว่าหลายคนยืนตรงข้ามกันมาแต่ต้น แต่ก็จริงเช่นกันว่าอีกหลายคน เคยกิน นอน ถูกเขาไล่ฆ่ากลางถนน แม้วันนี้จะไม่ใช่คนพรรคเดียวกันแล้ว ก็ขอให้นึกถึงวัน เวลา ที่เรากอดคอต่อสู้มาด้วยกัน
สิ่งใดที่เคยเจ็บ คำใดที่เคยช้ำร่วมกัน จากการถูกเหยียบย่ำโดยฝ่ายตรงข้าม ละวางไว้บ้างเถิด อย่าได้นำมาใช้ต่อกัน พลังฝ่ายเผด็จการที่เงียบอยู่ เขาไม่ได้ยอมแพ้ แต่รอวัน เวลา จังหวะจะไล่ขย้ำ แล้วจะใครเสียอีกที่เป็นเป้าหมายถูกกระทำ นอกจากเราผู้เป็นเพื่อนร่วมตายที่เคยต่อสู้เคียงข้างกัน
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZKgNfstWZws