'ชลน่าน' ยืนยัน 'เพื่อไทย' ไม่คิดแทงข้างหลัง 'ก้าวไกล'

'ชลน่าน' ยืนยัน เพื่อไทยไม่คิดแทงข้างหลังก้าวไกล หากโหวต 'พิธา' เป็นนายกฯ ไม่สำเร็จ ยังจับมือร่วมรัฐบาลต่อตามฉันทามติประชาชน ขอ ส.ว.ยึดหลักเสียงข้างมาก


เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของ ส.ว. ที่จะไม่โหวตสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ขออย่าด่วนสรุป เพราะอาจเป็นความเห็นของ ส.ว.บางคน ซึ่งมีความเห็นหลากหลาย ทั้งนี้ตนยังเห็นด้วยกับหลักการของพรรคก้าวไกล ที่อำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย เมื่อได้เสียงข้างมากทุกฝ่ายต้องยอมรับ เพราะมองว่า 310 เสียง เป็นเสียงที่เข้มแข็ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หากมากกว่านี้ อาจถูกมองว่า เป็นเผด็จการรัฐสภา


และข้อหานี้ถึงขั้นหมิ่นเหม่ต่อเสถียรภาพรัฐบาล แม้เสียงจะเยอะ แต่เสถียรภาพไม่มั่นคง ปิดกั้นการตรวจสอบ ที่จะมาเป็นเงื่อนไขอีก ดังนั้นเมื่อมีฉันทามติจากประชาชนแล้ว ขอให้ ส.ว.ยึดหลักการนี้ด้วย และเชื่อว่า ส.ว.หลายคน ก็จะยึดตามหลักการ


ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้พรรคการเมืองยกมือโหวตนายพิธา แม้ไม่ได้ร่วมรัฐบาลนั้น นายแพทย์ชลน่าน มองว่า พรรคการเมืองในซีกของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม ถ้าคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ระบบเดินหน้าได้ ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก โดยที่ไม่มีข้อต่อรองที่จะมาร่วมรัฐบาล ซึ่งอยากเห็นมุมมองนี้เช่นกัน


ทั้งนี้ การที่พรรคก้าวไกลรวบรวมเสียงได้ 310 เสียง ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้มีการวิเคราะห์ว่า พรรคเพื่อไทยยังมีโอกาสเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายแพทย์ชลน่าน ยืนยันต้องช่วยให้พรรคแกนนำอันดับหนึ่งได้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จก่อน แต่หากตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ก็จะต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร ใครที่สมควรจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามหลักแล้ว ต้องเสนอบุคคลที่อยู่ในบัญชี ซึ่งขณะนี้มีเพียงแค่ 2 พรรคคือ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย หากในบัญชีไม่ผ่าน ก็จะไปสู่ขั้นตอนการเสนอชื่อนอกบัญชี


สำหรับกรณีที่มีการวิเคราะห์จัดสูตรตั้งรัฐบาล หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทยอาจขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน และพรรคก้าวไกลอาจจะต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้าน นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า คนที่คิดก็คิดได้ แต่ในมุมของเพื่อไทย ไม่อยากเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้น แม้ว่าพรรคก้าวไกลไม่สามารถเลือกนายกฯได้ พรรคก้าวไกลก็ควรเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคไหน เพราะฉันทามติของประชาชนมาแบบนั้น ยกเว้นพรรคก้าวไกลจะประกาศไม่ขอร่วมรัฐบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับมติของพรรคก้าวไกลเอง ทั้งนี้ หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ พรรคก้าวไกลก็ยังต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป


เมื่อถามย้ำว่า จะช่วยพรรคก้าวไกล ทำภารกิจให้สำเร็จ จะช่วยอย่างไร หรือจะช่วยในลักษณะประสานขอเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมือง ช่วยยกมือโหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า "ต้องพยายามช่วยโหวตนายกรัฐมนตรีให้ได้ไงครับ เมื่อเราจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน แล้วเงื่อนไขสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรที่จะให้มีเสียง 376 เสียงสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ เป้าหมายอยู่ตรงนั้น"


เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะออกแรงประสานขอเสียงจากพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องคุยกันว่ากิจกรรมหรือภารกิจที่จะทำต้องทำอะไรกันบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน


แล้วในมุมของเพื่อไทยต้องช่วยเรื่องนี้หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า "เราเข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศชัดว่าจะต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้ภารกิจที่ทำร่วมกันบรรลุเป้าหมาย เราไม่ใช่มาร่วมแล้วถือมีดอยู่ข้างหลัง เราไม่ทำแบบนั้นแน่นอน"

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mPTbj-nN7A8