โซเชียลเดือด หลัง 'ส.ว.วันชัย' ลั่นอยากให้ 'ก้าวไกล' สั่งสมประสบการณ์ เป็นฝ่ายค้านไปก่อน

วานนี้ (15 พ.ค.) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะว่า เป็นผลมาจากกระแสของคนจำนวนมากที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่สะท้อนผ่านพรรคก้าวไกล สะท้อนถึงการตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ และต้องการอยากให้เกิดอะไรใหม่ๆ ไม่เช่นนั้น กระแสในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ จะไม่เป็นเช่นนี้ แต่ที่เป็นอย่างนี้ ไม่ใช่เฉพาะคนหนุ่มคนสาวเท่านั้น แต่มันเกิดจากคนทุกระดับ ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง

แต่อย่างไรก็ตาม เสียงของพรรคที่ได้มาอันดับหนึ่ง ยังไม่ได้มีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ต่างจากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ที่พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ทำให้ไม่ได้หมายความว่าอันดับหนึ่งจะต้องเป็นรัฐบาลเสมอไป

แม้ตามมารยาททางการเมือง จะเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งฟอร์มรัฐบาลก่อน ดังนั้น ถ้าพรรคก้าวไกลสามารถรวมเสียงได้เกิน 251 ก็ถือว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลในเบื้องต้น แต่ถ้ารวบรวมได้เกินกว่า 376 เสียง ก็สามารถเป็นแกนนำรัฐบาลได้ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้คือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะตกลงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และตกลงเรื่องนโยบายต่างๆ ได้หรือไม่ รวมถึงต้องดูด้วยว่า พรรคภูมิใจไทยจะร่วมจับมือกันเป็นรัฐบาลด้วยหรือไม่ เพราะถ้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยก็ได้เสียงเกือบ 376 แล้ว ไม่จำเป็นต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. มาช่วย ซึ่งก็ต้องคอยดูกันต่อ

ขั้นตอนของ ส.ว. นั้น มาอันดับหลัง และไม่ได้เป็นคนกลุ่มแรกในการพิจารณา ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองว่า จะเอาพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลหรือไม่ ดังนั้น พรรคการเมืองต้องคุยกัน เพราะมาจากการเลือกตั้งด้วยกัน ตอนนี้รวมกันได้ 309 เสียง ทำไมไม่คุยกับพรรคภูมิใจไทยต่อ เพื่อให้ได้ ถึง 376 ไปเลย แต่ถ้าไม่ได้ ส.ว.ก็จะพิจารณาในลำดับต่อไป แต่ ส.ว.โดยหลักการ คงไม่ปฏิเสธเสียงส่วนใหญ่

ส่วนความชัดเจน ของ ส.ว.นั้น นายวันชัยยอมรับว่า ขณะนี้มีการนัดหมายกันแล้วว่า จะพูดคุย ในเร็วๆ นี้ แต่จะรอฟังจากพรรคการเมืองก่อน ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ของ ส.ว.นั้น เชื่อว่าจะเป็นอิสระ เพียงแต่มีการแลกเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย ซึ่งเงื่อนไขการตัดสินใจ อยู่ที่ใครรวมเสียงได้ข้างมาก ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี และนโยบายของพรรคการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความแตกต่างระหว่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตรแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจของ ส.ว.หรือไม่

นายวันชัยกล่าวว่า ทั้งหมดมันอยู่ที่ว่า พรรคการเมืองเอานายพิธาหรือเปล่า หรือเอานางสาวแพทองธารหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่า คนสองคนจะต่างกันอย่างไร ถ้าเอาก็ต้องพิจารณาที่นโยบายต่อไป ว่าเป็นอย่างไร เพราะต้องเสนอต่อรัฐสภาอยู่แล้ว

-------------
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ ในกรรมกรข่าวคุยนอกจอ (ยามเย็น) โดยมี สรยุทธ สุทัศนะจินดา / ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท / ตูน-ปรินดา คุ้มธรรมพินิจ  ร่วมเป็นพิธีกร ในประเด็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล  

โดย ส.ว.วันชัย ออกมาระบุว่า อยากให้พรรคก้าวไกล รอจังหวะเหมาะดีๆ เป็นฝ่ายค้านไปก่อน เพราะเห็นว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ดี และอยากให้สะสมประสบการณ์ อาจะให้เกิดความผิดพลาด เกิดความสะดุด รัฐบาลอาจจะมีอายุไม่ยืนยาว อยากให้อีกฝ่ายเป็นรัฐบาล

และยังเสนอแนะว่าทำไมกองเชียร์ ของพรรคก้าวไกล ไม่คิดจะผลักดันให้ไม่เป็นรัฐบาลก็เป็นฝ่ายค้านก็ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ทันที ติดเทรนทวิตเตอร์ #สวมีไว้ทําไม มีการวิพากษ์วิจารณ์มุมมองของของ ส.ว.วันชัย ที่เป็นการเสนอความคิดเห็น ไม่เคารพเสียงประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนกว่า 10 ล้านเสียง

นอกจากนี้ การแชร์คลิปของ ไก่ ภาษิต พิธีกรร่วม ในรายการ ถึงกับหัวร้อน เบ้ปาก เมื่อ ส.ว.ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว

อีกทั้งยังมีอีกหลายหลายความคิดเห็น เรียกได้ว่า 'ดุเดือดสับเละ'

-------------
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กล่าวว่า งดออกเสียง โดยหลักการของการเมืองทั่วไป ไม่ควรให้ ส.ว.โหวตอยู่แล้ว เนื่องจาก ส.ว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HebPGggc_vM