เลือกตั้งและการเมือง

“อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” ขึ้นรถจิ๊บ นำขบวนผู้สมัคร ส.ส.กทม.แห่หาเสียงขอคะแนนคนกรุงวันสุดท้าย

โดย kanyapak_w

13 พ.ค. 2566

129 views

“อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” ขึ้นรถจิ๊บ นำขบวนผู้สมัคร ส.ส.กทม.แห่หาเสียงขอคะแนนคนกรุงวันสุดท้าย


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ร่วมปล่อยขบวนรถหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขตเลือกตั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแห่หาเสียงรอบกรุงเทพมหานครวันสุดท้าย


จากนั้นนางสาวแพทองธาร และนายเศรษฐา ได้ขึ้นรถจิ๊บสีแดง ติดสติ๊กเกอร์พรรคเพื่อไทยและหมายเลข29 นำหน้าขบวนรถแห่หาเสียง ซึ่งเป็นคันเดียวกันกับที่นางสาวแพทองธาร เคยขึ้นหาเสียงกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับครอบครัวในการหาเสียงการเลือกตั้ง 2554


โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยมาร่วมปล่อยขบวนด้วยอย่างพร้อมเพรียง รวมถึง นายพานทองแท้ และ นางสาวพินทองธา พี่ชายและพี่สาวนางสาวแพทองธารร่วมขึ้นรถแห่หาเสียงด้วย


โดยขบวนรถแห่ของผู้สมัครทั้ง 33 เขต จะตามขบวน จะมุ่งหน้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปที่สยามสแควร์ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร จากนั้นรถแห่ ของผู้สมัครแต่ละคันจะแยกไปตามพื้นที่ตนเอง






นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ หลังขึ้นรถแห่หาเสียงในพื้นที่กรุงเทพรอบกรุงเทพมหานคร โดยได้เชิญชวนคนรุ่นใหม่ หรือfirst voter ให้เปิดใจกับพรรคเพื่อไทยเพราะมีประวัติยาวนานกว่า 20 ปี ยิมรับว่าอาจถูกมองในหลายมิติทั้งเรื่องความเก่า หรือบางคนมองว่าสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น แต่อยากให้เห็นถึงความสำเร็จของนโยบายแล้วพิจารณาแบบไม่มีอคติ กับพรรคการเมืองใดๆ นโยบายไหนถูกใจหรือตอบโจทย์ที่จะทำให้ประเทศไปข้างหน้า เป็นกำลังใจให้คนรุ่นใหม่ใช้สิทธิ์ใช้เสียงอย่างเต็มศักยภาพให้ภาคภูมิใจที่สุด จำได้ว่าตนใช้สิทธิ์ครั้งแรก ก็รู้สึกภูมิใจ เพราะเป็นการเขียร์คุณพ่อ แต่ครั้งนี้เป็นการเบือกตั้งในขณะที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้รู้สึกอินกว่าเดิม เพราะได้มีส่วนร่วมกับส่วนต่างๆ จึงอยากให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะเยอะ



ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า วันนี้เรามายืนอยู่ใจกลางมหานครที่มีศักยภาพสูง มหานครที่ควรจะเป็นที่ที่คนรุ่นใหม่สามารถสร้างตัวสร้างอาชีพได้ เพื่อไทยมีความพร้อมในทุกมิติ ขอให้เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งสองเบอร์ เพื่อไทยพร้อมจะเริ่มงานทันที



นางสาวแพทองธารกล่าวเสริมว่าพรรคเพื่อไทยฟิตทั้งพรรค พร้อมเข้าทำเนียบ ขอแค่เลือกตั้งให้แลนด์สไลด์



ส่วนการปราศรัยเมื่อคืนนี้ที่พูดถึงพรรคเพื่อไทยถูกรัฐประหาร 2 ครั้งและพร้อมต่อสู้เคียงข้างประชาชน จะทำให้คนที่ยังไม่ตัดสินใจกลับมาเลือกเพื่อไทยได้หรือไม่นางสาวแพรทองธารกล่าวว่า ประชาชนที่ได้ฟังการปราศรัยของตน น่าจะเข้าใจความตั้งใจของตนและพรรคเพื่อไทย และหวังให้เข้าใจถึงความตั้งใจและจริงใจ และขอบคุณหากจะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศ



ส่วนกรณีที่นายทักษิณประกาศจะกลับไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ยืนยันแน่นอนแล้วใช่หรือไม่ นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่าคุณพ่อพูดไว้แบบนั้น แต่ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด แต่ยอมรับว่าเรื่องเดือนที่จะเดินทางกลับได้มีการคุยกันแต่อาจมีการบวกลบนิดหน่อย ส่วนเมื่อวานที่คุยกันก่อนขึ้นเวทีก็เป็นการให้กำลังใจกัน



ส่วนในฐานะลูกรับได้หรือไม่หากนายทักษิณ จะกลับมาติดคุก นางสาวแพทองธารระบุว่ายอมรับได้หากเป็นการตัดสินใจของพ่อ



ส่วนการปลุกพลังของคนที่ยังลังเลใจ นางสาวแพทองธารกล่าวว่าทุกพรรคการเมืองหาเสียงกันอย่างเต็มที่ ตนและพรรคเพื่ออไทยก็ยืนยันในนโยบายที่มั่นคง แม้จะมีสวิงโหวตเทไปมาแต่ก็ยังจะตอกย้ำเรื่องเดิม ว่าเลือกเพื่อไทยจะได้อะไร



ขณะที่นายเศรษฐายังมั่นใจว่าพรรคเพื่อไมยจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และชนะแบบแลนด์สไลด์เพราะมั่นใจในนโยบายของพรรค และต้นพูดชัดเจนว่าเพื่อนใครจะทำอะไรถ้าได้เป็นรัฐบาลจึงเชื่อว่าประชาชน จะเห็นความชัดเจนของเพื่อไทยเพราะตอนนี้ประเทศไทยยืนอยู่บนปากเหวตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจไม่ดีจึงไม่มีเวลาสำหรับมือใหม่ อีก 10 แต่เพื่อไทยพร้อมเพราะผ่านมาแล้วทุกวิกฤต และบุคลากรของเพื่อไทยก็พร้อมวันแรกที่เดินเข้าทำเนียบ ทำงานเต็มที่ได้เลย



นายเศรษฐายังกล่าวเพิ่มเติมถึงการเริ่มขบวนรถหาเสียงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันนี้ว่า เป็นเพราะการใช้เสียงทุกเสียงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง มาสู่ประเทศ



ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างนั้นนายเศรษฐากล่าวว่าเพื่อไทยพูดชัดเจน นโยบายต้องไปด้วยกันได้และพรรคที่จะร่วมรัฐบาลต้องไม่มีรากเหง้ามาจากการทำรัฐประหาร และแม้ว่าจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันหากนโยบายไม่ไปด้วยกันก็จะต้องมีการ คุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง และย้ำว่าต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ขาดตามยุทธศาสตร์เพราะเพื่อไทยเป็นรองเนื่องจากยังมี ส.ว. 250 เสียงอยู่ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงจำเป็นต้องชนะให้ขาดและน็อคให้ได้ ไม่มีเวลาให้รัฐบาลรักษาการทำหน้าที่ต่อไปอีก



ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงรัฐบาลเสียงข้างน้อย นายเศรษฐากล่าวว่าเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ทราบดีว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ในระบอบประชาธิปไตยไม่ได้รับการยอมรับกัน คนพูดจะต้องมีความรับผิดชอบ



ขณะที่นางสาวแพทองธารก็คาดหวังว่าส.ว.จะยกมือให้หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถ้าตนเป็นส.ว.ก็เคารพเสียงประชาชนจึงหวังว่าส.ว.จะทำเช่นนั้น



ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร และนายเศรษฐา ได้ขึ้นรถจี๊บ สีแดง ทะเบียน ถศ-111 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคันเดียวกันกับที่นางสาวแพทองธาร เคยขึ้นหาเสียงกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับครอบครัวในการหาเสียงการเลือกตั้ง 2554 ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า คนที่ขึ้นรถคันนี้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ยิ้มเขินก่อนจะบอกว่าแน่นอน ก่อนจะชี้ไปที่นายเศรษฐาแล้วบอกว่าเรามี2 คน



คุณอาจสนใจ

Related News