เลือกตั้งและการเมือง

'เรืองไกร' ยื่น กกต.สอบ 'พิธา' ปมหุ้นไอทีวี เจ้าตัวเชื่อเกมเตะตัดขา ช่วงโค้งสุดท้าย แต่มั่นใจทำอะไรไม่ได้

โดย nattachat_c

11 พ.ค. 2566

566 views

วานนี้ (10 พ.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด ซึ่งจากการตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่า

  • เป็นนิติบุคคลที่ยังดำเนินกิจการอยู่
  • เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสื่อสารมวลชนชัดเจน
  • เป็นบริษัทลูกของอินทัช
  • ยังคงมีการนำส่งรายได้ในแต่ละปี


ทั้งนี้ จะเป็นการร้องเรื่องคุณสมบัติและข้อห้าม ถือเป็นความผิดเฉพาะบุคคล ไม่ถึงขั้นยุบพรรคเหมือนกรณีอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ในตอนนั้นถูกยุบจากกรณีหุ้นกู้


ส่วนกรณีที่นายพิธา ระบุว่าเป็นผู้จัดการมรดก และได้ชี้แจงกับ ป.ป.ช.ไปแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณ เพราะเหมือนเป็นการยอมรับกลายๆ และให้การภาคเสธ (รับครึ่ง ไม่รับครึ่ง) แต่รายชื่อผู้ถือหุ้น บมจ.6 ระบุชื่อตรงๆ และชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้น การยื่นร้องจึงมุ่งประเด็นตรวจสอบเรื่องการขาดคุณสมบัติเฉพาะตัวของนายพิธา ผ่าน กกต. เพื่อส่งให้ศาลธรรมนูญวินิจฉัย


หากศาลฯรับ ถือเป็นเรื่องใหญ่ และโดยส่วนตัวได้เตรียมข้อมูลทางกฎหมายไว้พร้อมแล้ว โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปยื่นเรื่องต่อ ปปช. กรณีนายพิธาไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินหุ้นสื่อด้วย ทั้งนี้ นายเรืองไกรไม่เปิดเผยรายละเอียดผู้ที่ส่งข้อมูลมาให้ แต่เชื่อว่ามาจากคนที่ประชุมหุ้นไอทีวี ซึ่งมีจำนวนมาก

-------------

นาย ภาณวัฒน์ ขวัญยืน หนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ได้เข้าประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 (เข้าประชุมด้วยตัวเอง) แล้วได้ถามคำถามว่า บริษัทไอทีวี มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อ หรือไม่ 


โดยประธานที่ประชุมตอบว่า ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ

-------------

วานนี้ (10 พ.ค. 66) นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผอ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(ส.ส.ท.) โพสต์ข้อความเกี่ยวกับไอทีวี ว่า สรุปสาระสำคัญของบริษัท ไอทีวี จากรายงานประจำปี 2565


1. หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ตั้งแต่ 24.00 น.วันที่ 7 มีนาคม 2550 สืบเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาร่วมงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี


2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย delist ถอดหุ้นไอทีวีจากการซื้อขาย ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2557


3. ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการฟ้องร้องพิพาททางกฏหมายกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า

- การบอกเลิกสัญญาของ สปน. ไม่ชอบด้วยกฏหมาย

- ให้ สปน.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,890 ล้านบาท


3.1 ต่อมา สปน.ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของอาุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ สปน.

3.2 มกราคม 2564 สปน.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา


4. ปีบัญชี 2565 ไอทีวี มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ 20.5 ล้านบาท (ผลตอบแทนจากตราสารหนี้และตราสารทุน) กำไรสุทธิ 8.5 ล้านบาท


5. ไอทีวี มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือ บ.อาร์ตแวร์มีเดีย ให้เช่าอุปกรณ์ผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ สถานะปัจจุบันของบริษัท คือ หยุดประกอบกิจการ


6. กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพบต่อการกำหนดนโยบายและการดำเนินงาน บ.ไอทีวีในปัจจุบัน คือ บ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)


7. การรักษาสถานะความเป็นนิติบุคคลของ บ.ไอทีวี เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับสปน. (ความเห็นผู้เขียน)

-------------

วานนี้ (10 พ.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง หลายสมัย ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบว่าการที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น ว่า


“นี่อ่านข่าว คุณพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรื่องถือหุ้นสื่อ ผมไม่ได้ตามละเอียด เพียงจับประเด็นได้ แต่คิดว่า คุณพิธา น่าจะรอดเรื่องนี้ ใครอยากรู้รายละเอียด ไปอ่านคำสั่งศาลฎีกา คดีแดงที่ ลต สสข.ที่ 24/2566 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ระหว่าง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ร้อง/ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดนครนายก ผู้คัดค้าน ก็พอจะมีประเด็นให้คิดต่อได้


ผมไม่ค่อยชอบคุณพิธา เท่าไหร่หรอก ถ้าจะว่า ไปก็แค่พูดเก่ง หน้าตาหล่อ ส่วนการทำงานการเมืองผมว่า เกินครึ่งที่พูดทำไม่ได้หรอก แต่เรื่องกฎหมาย นี่ มันไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มันมีเพียงการอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอภาคกันเท่านั้นเอง ผมตรงไป-ตรงมา อย่างนี้แหละ”

-------------

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562


เพื่อตรวจสอบข้อมูลการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV จำนวน 42,000 หุ้น ที่ถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นร้องเรียนแก่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบว่า เข้าข่ายถือครองหุ้นสื่อ และไม่มีคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่


โดย นายบุญยอด ถ่ายภาพเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของนายพิธาทุกแผ่น โดยเฉพาะการแจ้งเงินลงทุน พบว่า มีการแจ้งจำนวน 40 รายการ มูลค่ารวม 2,029,555 บาท ไม่พบว่า มีการแจ้งถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น แต่อย่างใด


โพสต์ดังกล่าวมีข้อความ ระบุ “จากการค้นหาบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คู่สมรส และ บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งยื่นไว้เมื่อเข้ารับตำแหน่ง 25 พฤษภาคม 2562 มีทรัพย์สิน 137,785,190.85 บาท มีหนี้สิน 22,954,064 บาท


รายละเอียดแจ้งด้วยว่ามีเงินฝาก 32 บัญชี เงินลงทุน รวม 45 รายการ ทั้งกองทุนเปิด กองทุนปิด และหุ้นกู้ แต่ไม่ปรากฏ การแสดงรายการหุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด


ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องไม่เป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในสื่อทุกประเภท ซึ่งอาจเข้าข่ายการซุกหุ้น ไม่แสดงบัญชีการถือครองต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ”
-------------

วานนี้ (10 พ.ค. 66) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า ได้มีการปรึกษา ต่อ ป.ป.ช. และแจ้งให้ ป.ป.ช. ทราบแล้วเรื่องของการถือหุ้น บ.ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้นว่า


ส่วนตัวไม่แน่ใจว่า นายพิธา ได้พูดคุยกับฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือไม่ เพราะไม่ได้มีข้อมูลว่านายพิธาปรึกษาหารือกับใคร


แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องตน ทราบว่า นายพิธายื่นแจ้งรายการทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช.แล้ว จำนวน 4 หมื่นกว่าหุ้น แต่ไม่แน่ใจว่ายื่นมาในช่วงใด ยังต้องตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งถ้าไม่ได้ยื่นมาในการเปิดบัญชีทรัพย์สินครั้งแรก ตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ปี 2562 ก็เป็นการยื่นเข้ามาในภายหลัง  เพราะสามารถยื่นเพิ่มเติมได้


“เขาคงเข้าใจว่าไม่ใช่หุ้นของเขา เพราะเขาเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้อาจจะมายื่นเพิ่มเติมตามคำแนะนำ ซึ่งปกติ ป.ป.ช.ตรวจสอบอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องหุ้น ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ส่วนกรณีเขาถือครองหุ้นแล้ว จะไปทำให้ขาดคุณสมบัติหรือไม่นั้น จะเป็นหน้าที่ของ กกต.วินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ”

-------------

วานนี้ (10 พ.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้แจงถึงปมข้อกล่าวหา ถือหุ้นสื่อไอทีวี พร้อมชี้แจง กกต.หรือไม่ ว่า


รอให้คำร้องมา เดี๋ยวชี้แจงได้ มีทั้งหลักฐาน และหลักการทางกฎหมาย และทีมกฎหมาย เตรียมพร้อม เพราะฉะนั้นไม่กังวลในเรื่องนี้ ขอให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้งด้วยความหวัง


ส่วนมองว่าช่วงโค้งสุดท้ายนี้เป็นเกมเตะตัดขาหรือไม่ว่า มันก็เกิดขึ้นช่วงโค้งสุดท้าย 3-4 วันก่อนเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าทำอะไรเราไม่ได้ ประชาชนยังมีความหวัง เพื่อเข้าสู่คูหากันอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรต้องกังวลใจ


ส่วนเรื่องไปถึงขั้นที่มีการร้องป.ป.ช. เรื่องการซุกหุ้น ปกปิดบัญชีทรัพย์สินนั้น นายพิธา ระบุก็ต้องดูคำร้องก่อน

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/AwpIkoVjICw



แท็กที่เกี่ยวข้อง  เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ,พรรคพลังประชารัฐ ,คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ,พรรคก้าวไกล ,นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ,นิวัติไชย เกษมมงคล ,ป.ป.ช. ,พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ,หุ้นไอทีวี ,พิธาซุกหุ้นไอทีวี ,ภาณวัฒน์ ขวัญยืน ,อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ ,องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(ส.ส.ท.) ,พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ,บุญยอด สุขถิ่นไทย

คุณอาจสนใจ

Related News