เลือกตั้งและการเมือง

โพลศรีปทุม-ดีโหวต โค้งสุดท้าย “เลือกตั้ง 66” พบ “พิธา” นำโด่ง อันดับ 1 นั่งนายกฯ

โดย paranee_s

6 พ.ค. 2566

473 views

วันนี้ (6 พ.ค. 2566) มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ร่วมกับดีโหวต (D-vote) เปิดเผยผลสำรวจ “คะแนนความนิยมทางการเมือง 2566” ประจำสัปดาห์ โดยสำรวจระหว่างวันที่ 29 เม.ย. - 5 พ.ค. 2566 จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกช่วงอายุ จังหวัด ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 2,526 ตัวอย่าง ค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0 ผ่านเทคโนโลยีสำรวจความเห็นสาธารณะบนบล็อกเชน


โดยพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ อันดับ 1 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 44.20, อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 35.60, อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 8.97, อันดับ 4 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 3.47, อันดับ 5 พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 2.91} อันดับ 6 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.40, อันดับ 7 พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 1.26} อันดับ 8 พรรคชาติพัฒนากล้า ร้อยละ 0.84, อันดับ 9 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 0.72, อันดับ 10 พรรคอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ร้อยละ 0.44 และผู้ยังไม่ตัดสินใจร้อยละ 0.17


โดยเมื่อเทียบกับผลสำรวจ ครั้งที่แล้ว (ระหว่างวันที่ 24 เม.ย. - 28 เม.ย.) พรรคการเมืองที่ความนิยมขยับสูงขึ้นสำหรับแบบบัญชีรายชื่อ 3 ลำดับแรก คือ พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย


ในขณะที่ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตที่ประชาชนจะเลือกเป็นอันดับ 1 คือจากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 37.62, อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 37.02, อันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 8.67, อันดับ 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 7.38, อันดับ 5 พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 4.22, อันดับ 6 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 2.03, อันดับ 7 พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 1.26, อันดับ 8 พรรคชาติพัฒนากล้า ร้อยละ 0.61, อันดับ 9 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 0.38, อันดับ 10 พรรคอื่น ๆ


นอกเหนือจากนี้ ร้อยละ 0.15 และผู้ยังไม่ตัดสินใจร้อยละ 0.47 โดยเมื่อเทียบกับผลสำรวจ ครั้งที่แล้ว พรรคการเมืองที่ความนิยมขยับสูงขึ้นสำหรับแบบแบ่งเขต 3 ลำดับแรก คือ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคชาติพัฒนากล้า


ส่วนบุคคลที่ประชาชนอยากสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีเป็น อันดับ 1 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (ก้าวไกล) ร้อยละ 44.73 , อันดับ 2 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (เพื่อไทย) ร้อยละ 21.20, อันดับ 3 นายเศรษฐา ทวีสิน (เพื่อไทย) ร้อยละ 14.89, อันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (รวมไทยสร้างชาติ) ร้อยละ 9.67, อันดับ 5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ภูมิใจไทย) ร้อยละ 2.17, อันดับ 6 ไม่รู้/ไม่แน่ใจ ร้อยละ 1.88, อันดับ 7 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (ประชาธิปัตย์) ร้อยละ 1.58, อันดับ 8 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พลังประชารัฐ) ร้อยละ 1.50, อันดับ 9 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (ไทยสร้างไทย) ร้อยละ 1.40, อันดับ 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (เสรีรวมไทย) ร้อยละ 0.67, อันดับ 11 นายกรณ์ จาติกวณิช (ชาติพัฒนากล้า) ร้อยละ 0.32, โดยเมื่อเทียบกับผลสำรวจครั้งที่แล้วบุคคลที่มีคะแนนนิยมขยับสูงขึ้น 3 ลำดับแรกคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์


ในขณะที่ผลสำรวจเบื้องต้นด้านนโยบาย (471 ตัวอย่าง) พบว่า 3 ปัญหาแรกที่ต้องการให้รัฐบาลหน้าเร่งแก้ไขคือ ค่าครองชีพ ร้อยละ 40.55, ความยากจน ร้อยละ 34.82 และคอร์รัปชัน ร้อยละ 27.81


ในขณะที่ปัจจัยที่ทำให้พรรคการเมืองทำตามนโยบายที่สัญญาไว้ไม่สำเร็จคือ ไม่ได้คิดจะทำนโยบายดังกล่าวตั้งแต่แรก-เป็นแค่การหาเสียง ร้อยละ 56.05, คิดนโยบายไม่รอบคอบจนทำจริงไม่ได้ ร้อยละ 21.44 และพยายามทำแล้วแต่มีอุปสรรค ร้อยละ 14.23


ส่วนผลสำรวจเบื้องต้นในประเด็นว่าอะไรสำคัญกว่ากันระหว่างนโยบายและจุดยืนทางการเมือง (193 ตัวอย่าง) พบว่า ร้อยละ 66.84 ให้ความสำคัญกับจุดยืนทางการเมืองมากกว่า และร้อยละ 32.64 ให้ความสำคัญกับนโยบายมากกว่า

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ