'อนุทิน' เข้าใจบทบาท 'ชูวิทย์' ชี้เป็นละครการเมือง หลังบุกป่วนเวทีปราศรัยภูมิใจไทย

'ชูวิทย์' บุกป่วนเวทีปราศรัยดินแดง ช่วง 'อนุทิน' ขึ้นเวที ตะโกนลั่นกัญชามอมเมาเยาวชน ด้าน 'อนุทิน' เข้าใจบทบาท 'ชูวิทย์' ชี้เป็นละครการเมือง ใบ้ ผู้อยู่เบื้องหลังเกมป่วน เป็นนักธุรกิจใหญ่ รู้จักกันดี  


เมื่อวันที่ 2 พ.ค.66 ที่บริเวณโดมหน้า สน.ดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำทัพปราศรัยและแถลงนโยบายพรรค พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ, คณะผู้บริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.


ปรากฏว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองไทยและนักเคลื่อนไหว ซึ่งก่อนหน้านี้ประกาศชัดว่าจะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการเคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับวันนี้ นายชูวิทย์ เดินทางรณรงค์ต่อต้านกับชาเสรี ขณะที่พรรคภูมิใจไทยปราศรัย ซึ่งเป็นช่วงที่นายอนุทินขึ้นปราศรัยพอดี


โดยนายชูวิทย์ ได้ปีนขึ้นรถ และพยายามตะโกนผ่านโทรโข่งบอกประชาชนที่รับฟังการปราศรัย สิ่งที่นายอนุทินพูดนั้น เป็นการโกหก พร้อมกับโจมตีนโยบายกัญชาเสรี ว่าเป็นการมอมเมาประชาชน จากนั้นนายชูวิทย์ ปีนลงจากรถแล้วพยายามจะเข้าไปด้านในโดมช่วงนายอนุทินปราศรัย ปรากฏว่าช่วงนี้เกิดชุลมุนขึ้น คนที่มาฟังปราศรัยและเชียร์พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมายืนข้างรั้วยืนกันไม่ให้เข้าไป พร้อมตะโกนต่อว่า ด่าทอ รวมทั้งขับไล่นายชูวิทย์ แต่นายชูวิทย์ยังคงพยายามที่จะดันเข้าไป ทำให้ช่วงนี้เกิดการยื้อแย่งกันขึ้นของทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่ตำรวจ สน.ดินแดง จะเข้าห้ามและพาตัวนายชูวิทย์ถอยออกมา


ขณะเดียวกันยังคงพบว่า มีทั้งกลุ่มคนที่สนับสนุนกัญชามาขับไล่ เพราะไม่เห็นด้วยกับนายชูวิทย์ รวมทั้งมีคนที่สนับสนุนและเห็นด้วยกับนายชูวิทย์ เดินทางมาด้วยเช่นกัน


ช่วงหนึ่งคนที่เห็นด้วยกับนายชูวิทย์ พยายามตะโกนว่า ไม่เอากัญชาเสรี พร้อมส่งเสียงเชียร์นายชูวิทย์ ระหว่างนั้นที่ตะโกนว่าไม่เอากัญชาเสรี ปรากฏว่าคนที่อยู่ด้านในส่งเสียงขับไล่หญิงรายนี้ ว่า "ไป ไป ไป" แต่เธอส่งเสียงเชียร์นายชูวิทย์และไม่เอากัญชาเสรีต่อเนื่อง ปรากฏว่าคุณป้าที่อยู่ด้านในหยิบขวดน้ำมาสาดใส่หญิงรายนี้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชา


ต่อมา นายชูวิทย์ ตั้งโต๊ะแดงต่อต้านกัญชาเสรีต่อ พร้อมกับนำกรงหนูมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย โดยบอกว่ามาต่อต้านกัญชาเสรีและเอากรงหนู มาจับไอ้หนูเข้ากรงนี้ จากนั้นนำสติ๊กเกอร์กัญชาเสรีเข้าใส่เข้าไปในกรงแล้วปิดกรง พร้อมบอกว่า "เฮ้ย ไอ้หนู มานี่ดีกว่าหนู ตรงนี้แหละที่มึงควรจะอยู่ มานี่ ๆ อย่าไปฝอย อย่าไปพูด ไอ้ที่พูดไปนั้นไม่จริง เพราะที่จริงคือเอากัญชามาในสังคมไทย หนูต้องมาอยู่ที่กรงหนู ไม่ใช่บนเวที"


จากนั้น นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การนำกัญชาเข้ามามอมเมาเยาวชน ตนจำเป็นต้องมาต่อต้าน พร้อมบอกว่า คนที่เชียร์คือคนที่เสพ พอเสพแล้วก็ติด พอติดแล้วไม่เสพก็เกิดคลั่ง นี่คือการมาเตือนประชาชน เตือนสังคมเรื่องกัญชา


ทั้งนี้ ยังพบว่าช่วงที่นายชูวิทย์ มาต่อต้านกัญชาเสรี มีเด็ก ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เขตดินแดง มาดูด้วย ซึ่งนายชูวิทย์ได้ชี้ไปที่เด็ก ๆ แล้วบอกว่า "นี่คือเหยื่อ เด็กเหล่านี้ ล้วนเป็นเหยื่อของพรรคภูมิใจไทย เพราะนำกัญชาเข้ามามอมเมาเยาวชน" จากนั้นนายชูวิทย์ ให้เด็กพูดตามว่า "เราไม่เอาพรรคบ้ากัญชา" ซึ่งเด็ก ๆ ต่างพูดพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียงว่าเราไม่เอาพรรคบ้ากัญชา


จากนั้น นายชูวิทย์ ย้ายโต๊ะแดงมานั่งดักรอนายอนุทิน อยู่แถว ๆ ประตูทางเข้า ซึ่งระหว่างนั้นนายอนุทิน ยังคงขึ้นปราศรัยอยู่ มีบางช่วงที่ขอคะแนนเสียงให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายชูวิทย์ นั่งมอนิเตอร์ฟังอยู่ พร้อมกับตะโกนผ่านโทรโข่งกลับไปว่า "ไม่เลือกๆๆ ไม่เอาๆๆ" พร้อมกับบอกให้ทีมงานดูว่านายอนุทินออกมายัง ก่อนจะบอกว่า "อนุทิน มานี่" แต่กลับพบว่าหลังเสร็จสิ้นการปราศรัย นายอนุทิน ออกประตูอีกฝั่ง แล้วเดินทางกลับ ส่งผลให้ทั้งตัวนายอนุทิน และนายชูวิทย์ ไม่ได้เจอกัน


ต่อมา นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันถึงเจตนาที่มาว่า ตั้งใจมาป่วนการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตบ้านของตน ซึ่งตนเองอยู่ในเขตดินแดงมากว่า 20 ปี อีกทั้งป้ายหน้าโรงพักก็มีชื่อของตนที่ทำมากกว่า 30 ปี ดังนั้นกลุ่มพวกนี้เพิ่งเคยมา แล้วอยากได้ ส.ส. ในกรุงเทพฯ ส่วนที่อยากได้ก็เพื่อมาโปรโมทกัญชา เป็นผู้นำเข้ามา แต่กลับโทษว่าสภาไม่ผ่านกฎหมายให้ ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวว่า ถ้าสภาไม่ผ่านกฎหมายให้ และจะนำกัญชาออกมาเพื่ออะไร


ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังการขึ้นปราศรัย ที่กิจกรรมวันนี้ มีนายชูวิทย์ คอยตะโกนป่วนอยู่ด้านนอก ว่า ไม่รู้สึกอะไร เพราะลำโพงเสียงดังกว่า สำหรับพี่น้องประชาชน ท่านมาฟังเรื่องที่เป็นประโยชน์ ท่านมีเป้าหมายแล้วว่าจะฟังใคร การปราศรัยไม่เสียสมาธิ ได้พูดนโยบายอย่างครบถ้วน นายชูวิทย์มาแบบนี้ดี มีโปรโมเตอร์มาช่วย ไม่ต้องจ้าง


"เอาไว้ละครปิดทุกฉาก ทุกอย่างจบลง ทุกคนเกษียณ เดี๋ยวก็ได้คุยกัน ผมกับคุณชูวิทย์ รู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ทั้งรุ่นผม และรุ่นลูก ลูกคุณชูวิทย์ ยังมาพักที่บ้านผมที่อังกฤษอยู่เลย ตอนลูกคุณชูวิทย์แต่งงาน ผมก็ขึ้นพูด ผมมั่นใจว่า มันเป็นบทบาท เป็นละคร เพื่อวัตถุประสงค์อะไรก้ตามแต่ แต่พื้นฐานคือเรารักกัน และถ้านโยบายของเราไม่ได้ ผลการเลือกตั้งจะบอกเอง"


เมื่อถามว่า วันนี้ได้ทักทายกันแล้วหรือยัง นายอนุทิน ตอบว่า ทักทายกันแล้ว เจอหน้ามันต้องแอ็กอาร์ท ลับหลัง อาจจะกอดกันก็ได้ ที่จริง เราให้กำลังใจกันไม่รู้กี่รอบแล้ว วันหลังจะเอาแชทหวานมาให้ดู แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เรื่องทั้งหมด ผมเข้าใจบทบาท ตอนผมเป็นนักธุรกิจ กว่าจะได้อะไรมาต้องแข่งขันกัน ไม่ต่างจากชีวิตผมทุกวันนี้ สิ่งที่ผมเจอ คือ เรื่องปกติ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง เชื่อกันว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่ อันที่จริง เขากับผมก็มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทุกอย่างมันคือละคร

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aCzng0Rjw8Q