เลือกตั้งและการเมือง

"ชูวิทย์" บุกป่วนเวทีปราศรัยดินแดงช่วง “อนุทิน” ขึ้นเวที ตะโกนลั่นกัญชามอมเมาเยาวชน

โดย kanyapak_w

2 พ.ค. 2566

116 views

"ชูวิทย์" บุกป่วนเวทีปราศรัยดินแดงช่วง “อนุทิน” ขึ้นเวที ตะโกนลั่นกัญชามอมเมาเยาวชน - สุดท้ายเข้าไม่ได้ กองเชียร์ 2 ฝั่งสกัดกันวุ่น ทำชุลมุนไปชั่วขณะ



วันนี้ (2 พ.ค.66) ที่บริเวณโดมหน้า สน.ดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำทัพปราศรัยและแถลงนโยบายพรรคฯ พร้อมด้วยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ คณะผู้บริหารพรรค, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 5 และนางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 6



ปรากฏว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองไทยและนักเคลื่อนไหว ซึ่งก่อนหน้านี้ประกาศชัดว่าจะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านนโยบายบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการเคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับวันนี้ นายชูวิทย์ เดินทางรณรงค์ต่อต้านกับชาเสรีขณะที่พรรคภูมิใจไทยปราศรัย ซึ่งเป็นช่วงที่นายอนุทินขึ้นปราศรัยพอดี  โดยนายชูวิทย์ ได้ปีนขึ้นรถและพยายามตะโกนผ่านโทรโข่งบอกประชาชนที่รับฟังการปราศรัยสิ่งที่นายอนุทินพูดนั้น เป็นการโกหก พร้อมกับโจมตีนโยบายกัญชาเสรี ว่าเป็นการมอมเมาประชาชน



จากนั้นนายชูวิทย์ ปีนลงจากรถแล้วพยายามจะเข้าไปด้านในโดมช่วงนายอนุทินปราศรัย ปรากฏว่าช่วงนี้เกิดชนละมุนขึ้น คนที่มาฟังปราศรัย และเชียร์กัญชาเสีรีของพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมายืนข้างรั้วยืนกันไม่ให้เข้าไป พร้อมตะโกนต่อว่า ด่าทอ รวมทั้งขับไล่นายชูวิทย์ แต่นายชูวิทย์ ยังคงพยายามที่จะดันเข้าไป ทำให้ช่วงนี้เกิดการยื้อแย่งกันขึ้นของทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่ตำรวจ สน.ดินแดง จะเข้าห้ามและพาตัวนายชูวิทย์ถอยออกมา



ขณะเดียวกันยังคงพบว่ามีทั้งกลุ่มคนที่สนับสนุนกัญชาเสรีมาขับไล่ เพราะไม่เห็นด้วยกับนายชูวิทย์ รวมทั้งมีคนที่สนับสนุนและเห็นด้วยกับนายชูวิทย์เดินทางมาด้วยเช่นกัน



ช่วงหนึ่งคนที่เห็นด้วยกับนายชูวิทย์พยายามตะโกนว่า ไม่เอากัญชาเสรี พร้อมส่งเสียงเชียร์นายชูวิทย์ ระหว่างนั้นที่ตะโกนว่าไม่เอากัญชาเสรี ปรากฏว่าคนที่อยู่ด้านในส่งเสียงขับไล่หญิงรายนี้ ว่า “ไป ไป ไป” แต่เธอส่งเสียงเชียร์นายชูวิทย์และไม่เอากัญชาเสรีต่อเนื่อง ปรากฏว่าคุณป้าที่อยู่ด้านในหยิบขวดน้ำมาสาดใส่หญิงรายนี้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี



ต่อมานายชูวิทย์ ตั้งโต๊ะแดงต่อต้านกัญชาเสรีต่อ พร้อมกับนำกรงหนูมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย โดยบอกว่ามาต่อต้านกัญชาเสรีและเอากรงหนู “มาจับไอ้หนูเข้ากรงนี้” จากนั้นนำสติกเกอร์กัญชาเสรีเข้าใส่เข้าไปในกรงแล้วปิดกรง พร้อมบอกว่า “เฮ้ย ไอ้หนู มานี่ดีกว่าหนู ตรงนี้แหละที่มึงควรจะอยู่ มานี่ๆอย่าไปฝอย อย่าไปพูด ไอ้ที่พูดไปนั้นไม่จริง เพราะที่จริงคือเอากัญชามาในสังคมไทย หนูต้องมาอยู่ที่กรงหนู ไม่ใช่บนเวที”



จากนั้นนายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การนำกัญชาเข้ามามอมเมาเยาวชน ตนจำเป็นต้องมาต่อต้าน พร้อมบอกว่า คนที่เชียร์คือคนที่เสพ พอเสพแล้วก็ติด พอติดแล้วไม่เสพก็เกิดคลั่ง นี่คือการมาเตือนประชาชนชน เตือนสังคมเรื่องกัญชา



ต่อมานายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันถึงเจตนาที่มาว่า ตั้งใจมาป่วนการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตบ้านของตน ซึ่งตนเองอยู่ในเขตดินแดงมากว่า 20 ปี อีกทั้งป้ายหน้าโรงพักก็มีชื่อของตนที่ทำมากกว่า 30 ปี ดังนั้นกลุ่มพวกนี้พึ่งเคยมาแล้วอยากได้ ส.ส. ในกรุงเทพฯ




ส่วนที่อยากได้ก็เพื่อมาโปรโมตกัญชา เป็นผู้นำเข้ามา แต่กลับโทษว่าสภาไม่ผ่านกฎหมายให้ ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวว่าถ้าสภาไม่ผ่านกฎหมายให้ และจะนำกัญชาออกมาเพื่ออะไร




นายชูวิทย์ ยังกล่าววถึงกรณีที่นายอนุทินไปเตือนนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยในฐานะรุ่นพี่ที่มีความอวุโสทางการเมืองนั้น ตนขอพูดเลยว่านายเศรษฐาไม่เอากัญชา เพราะนายเศรษฐา รู้จักกับตนมากว่า 10 ปี และตนเองได้ถามกับเจ้าตัวแล้ว โดยนายเศรษฐายืนยันว่าไม่เอากัญชาเด็ดขาด จึงสะท้อนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยก็ไม่เอาพรรคภูมิใจไทย




นายชูวิทย์ ยังกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตนจะไปถามทุกพรรคว่าจะเอานโยบายกัญชาเสรีหรือไม่ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ และพรรคก้าวไกลที่ตลาดนกฮูก จังหวัดนนทบุรีในวันที่ 4 พ.ค.นี้ พร้อมย้ำว่าสิ่งที่ตนเองทำเพื่อปกป้องสังคม ไม่ได้ให้มาเลือกตนเอง หรือพรรคการเมืองไหน แต่บอกเพียงแค่ว่าอย่าเลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะนโยบายกัญชา แต่หากพรรคภูมิใจไทยไม่เอานโยบายกัญชา



ตนเองก็จะไม่ต่อต้าน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยต้องยกเลิกกัญชาเสรี และทำให้เป็นกัญชาทางการแพทย์ ให้แพทย์เป็นผู้กำหนด สกัดกัญชาให้เหมือนกับมอร์ฟีน ไม่เช่นนั้นพรรคภูมิใจไทยก็จะต้องเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เพราะคะแนนตกจากนโยบายกัญชา



ขณะเดียวกันนายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.66) เวลา 13:00 น. จะเปิดศูนย์ต่อต้านกัญชา โดยจะมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลกเดินทางมาด้วย


ขณะที่ ณ โดมหน้าสถานีตำรวจนครบาลดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ, คณะผู้บริหารพรรค, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 5 เปิดเวทีปราศรัยช่วย นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 6 หาเสียง มีประชาชน มาฟังการปราศรัยประมาณ 1,000 คน บรรยากาศ เต็มไปด้วยความสนุกคึกคัก



ซึ่งขณะที่นายอนุทิน กำลังพูดแนะนำนโยบาย ปรากฏว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้เข้ามาฟังการปราศรัยจากด้านนอก ก่อนกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทย ผ่านโทรโข่ง เกิดเสียงแทรกเข้ามาในเวทีปราศรัย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมงานของนางสาวภาดาท์ ได้ขอร้อง ให้นายชูวิทย์ ออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวาย



ด้านนายอนุทิน เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงกล่าวบนเวทีว่า “ต่างคนก็นำเสนอนโยบายของตัวเอง ผมนำเสนอนโยบายของภูมิใจไทย ส่วนนายชูวิทย์ ก็คงมีเรื่องราวอยากจะสื่อสาร ก็ปล่อยไป รับฟัง และต้อนรับด้วย พี่น้องประชาชนจะมองว่าใครถูกใครผิด ผมไปบังคับใครไม่ได้ นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องของการพักหนี้ กองทุนผู้สูงอายุ เงินกู้ฉุกเฉินที่พี่น้องปรบมือให้คือสิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ทำได้ เราก็พูดไป จะเลือกตั้งแล้ว ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า ส่วนคนข้างนอกที่มาโวยวายอยู่นั้น ตนขอตั้งจิตเป็นอุเบกขา ปล่อยวาง และขอทำหน้าที่เพื่อคนไทย ให้ดีที่สุด ภูมิใจไทย ไม่สร้างความขัดแย้ง”



ทั้งนี้ ระหว่างนั้น มวลชนที่มาฟังปราศรัยได้ตะโกนไล่นายชูวิทย์ว่า “ออกไป ออกไป” ขณะที่บางคนตะโกนว่า “เรามาฟังอนุทิน”



สำหรับการปราศรัย ในวันนี้ นายอนุทิน แนะนำผลงานที่สำคัญ ในพื้นที่กรุงเทพฯ คือ เรื่องของการจัดหารถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ นโยบายฟอกไตฟรี และการขยายการให้บริการด้านรังสีวิทยา เป็นต้น พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายสำหรับการหาเสียงในการเลือกตั้งรอบนี้ อาทิ การพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย กรมธรรม์ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท, การออกตั๋วรถไฟฟ้าเป็นตั๋ววัน วันละ 40 บาท, นโยบายฟรี โซล่าเซลล์ ติดหลังคาบ้าน ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท และได้รับสิทธิ์ซื้อ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ราคา 6,000 บาท ผ่อนจ่ายเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 งวด เป็นต้น




“ถ้าภาดาท์ได้เป็น ส.ส.ภูมิใจไทย ผมจะมานอนค้างบ้านท่านสักคน ใครให้บ้านผมนอน ผมนอน ขอค้าง 3 วันแก้บน ระหว่างนั้น ใครมีปัญหา มาคุยกันเลย ผมรับปาก แก้ไขให้ ทำเต็มที่ ที่สุดแล้ว เลือกคนนี้ คนชื่อภาดาท์ ประชาชนไม่ผิดหวัง สิ่งที่ภาดาท์ เจอวันนี้ ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจภาดาท์ เพราะ สิ่งที่ได้รับ และมากยิ่งกว่า คือ กำลังใจจากพี่น้องประชาชน ที่มาฟังเราปราศรัย”






คุณอาจสนใจ

Related News