“เศรษฐา”ไม่สนกระแส-โพลหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ บอกเร็วเกินไปหลัง “อนุทิน” ส่งสัญญาณจับมือร่วมตั้งรัฐบาล

“เศรษฐา”ไม่สนกระแส-โพลหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ มั่นใจเพื่อไทยได้เกินครึ่ง ย้ำชัด เพื่อไทยไม่เอากัญชาเสรี บอกเร็วเกินไปหลัง “อนุทิน” ส่งสัญญาณจับมือร่วมตั้งรัฐบาล



นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จังหวัดมหาสารคาม ถึงผลโพลของสื่อ(มติชนเดลินิวส์)พรรคก้าวไกลนำพรรคเพื่อไทย ขณะที่ผลสำรวจของนิด้าโพลสำรวจคนจังหวัดนครสวรรค์พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำทั้งคนทั้งพรรค มีนัยยะสำคัญหรือไม่ ว่า อยู่ที่วิธีการ บางโพลจะใช้ออนไลน์มากกว่า ส่วนบางโพลเน้นลงพื้นที่ ซึ่งแตกต่างกัน ส่วนตัวคิดว่าแฟนคลับของพรรคเพื่อไทยอยู่ต่างจังหวัดเยอะ และไม่ได้ใช้ออนไลน์กันมากนัก



ส่วนผลโพลจะสะท้อนการลงคะแนนเสียงของประชาชนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องเอาผลโพลของหลายที่มาวิเคราะห์ และจัดการเรื่องความลำเอียงออกไป แต่มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยยังไงก็ได้คะแนนเสียงเกินครึ่ง



ส่วนเรื่องเสียงออฟไลน์ที่อยู่ต่างจังหวัดนั้น นายเศรษฐาย้ำว่า จากการลงพื้นที่มีความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมาถูกทาง นโยบายโดนใจ



เมื่อถามถึงกระแสพรรคก้าวไกลที่แรงขึ้นเรื่อยๆ พรรคเพื่อไทยจะปรับยุทธศาสตร์อย่างไรหรือไม่ในช่วงโค้งสุดท้าย นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังทำเหมือนที่ทำมา ลงพื้นที่ให้เยอะขึ้น เพื่อพบปะประชาชน “มั่นใจทุกพื้นที่” และไม่รู้สึกหวั่นกับกระแสพรรคก้าวไกล ตนเองลงพื้นที่ทุกวันจึงมีความมั่นใจ



ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาพูดในลักษณะพร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทย และอยากให้ลืมเรื่องราวในอดีตระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร และนายเนวิน ชิดชอบ นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่วันนี้ตนเองมีหน้าที่เดินหน้าหาเสียง พยายามทำคะแนนให้ได้มากที่สุด ถึงเวลาผลเลือกตั้งออกมาค่อยว่ากัน ส่วนจะจับมือกับพรรคไหนนั้น นโยบายของพรรคเพื่อไทยต้องเป็นหลัก ก่อนยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่เอานโยบายกัญชาเสรีเด็ดขาด เอาเพื่อการแพทย์เท่านั้น



เมื่อถามต่อว่า หากพรรคภูมิใจไทยลดเงื่อนไขนโยบายกัญชา ความเป็นไปได้ในการจับมือร่วมกันมีมากน้อยแค่ไหน นายเศรษฐา ระบุว่า ยังเร็วเกินไปต้องดูตัวเลขหลังเลือกตั้งว่าเป็นอย่างไรก่อน แต่ยืนยันไม่เอาเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร



การส่งสัญญาณของนายอนุทินในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การเป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว แต่วันนี้ไม่ใช่เรื่องของสัญญาณ เป็นเรื่องของหลักการมากกว่าว่าจะร่วมกันได้หรือไม่ ส่วนภาพของนายอนุทินที่เคยนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็มองว่าการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมมา ตนไม่คิดอะไรมาก