เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ กำชับแก้ปัญหาฝุ่น - 'ยิ่งลักษณ์' จี้รัฐเจรจาประเทศเพื่อนบ้าน - 'สุดารัตน์' โวยรัฐบาล ปล่อย ปชช.ตายผ่อนส่ง

โดย petchpawee_k

29 มี.ค. 2566

26 views

วานนี้ (วันที่ 28 มี.ค.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (28 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามและสอบถามไปยังประเทศเพื่อนบ้านทุกวัน เพื่อตอกย้ำถึงความเร่งรีบในการแก้ไขปัญหา และในส่วนของประเทศไทย ขอให้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการ ตามที่ได้เคยสั่งการไปก่อนหน้านี้ อย่างเคร่งครัด แต่หากจะเคร่งครัดเกินไป ก็จะกระทบกับพี่น้องประชาชนอีกส่วนนึง ดังนั้นจะต้องสร้างสมดุลให้ดี

----------------------------------------------

วานนี้ (28 มี.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า วันนี้มีการพิจารณาในที่ประชุมหลายเรื่องแก้ปัญหา PM 2.5 โดยมีการกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการประสานความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในวันนี้ได้มีการกำชับ เพราะจุดความร้อนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ การจะทำอะไรจึงต้องระมัดระวัง การแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นควันจะต้องมีการหารือด้วยกันเป็นวาระอาเซียน เนื่องจากเกิดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดมายาวนานแล้ว เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด โดยได้มีการกำชับหน่วยงานในพื้นที่ ส่วนภูมิภาคส่วนท้องถิ่นให้ช่วยกันทั้งหมด


นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือประเทศอาเซียนไปแล้ว โดยตนเป็นผู้ลงนาม รัฐบาลแต่ละประเทศบริหารงานไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ ของไทยยังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดี ในพื้นที่ภาคเหนือจุดความร้อนลดลง จึงต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ที่ยังมีการเผาวัชพืชอยู่ อย่างไรก็ต้องขอความร่วมมือให้ได้มากที่สุด เพียงแต่เกษตรกรไทยคนไทยด้วยกัน ต้องช่วยกันมากกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบอย่างอื่นด้วย


ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศมีการติดต่อและประสานงานรัฐบาลเมียนมาและรัฐบาล สปป.ลาว มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองข้ามแดน


อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งต่อที่ประชุมครม.ในวานนี้ (28 มี.ค.) ให้ทราบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้หารือกับเอกอัครราชทูตเมียนมา และเอกอัครราชทูตสปป.ลาวประจำประเทศไทย อีกครั้ง เพื่อเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหานี้และฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตไทยที่ประจำการในเมียนมาและสปป.ลาว ได้พูดคุยประสานงานกับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศนี้ด้วย


โดยครั้งนี้เราได้เน้นย้ำว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางการของ 2 ประเทศจะต้องเร่งหาทางลดหรือเลิกการเผาป่าหรือพื้นที่ปลูกพืช เพราะส่งผลกระทบร้ายแรงกับประชาชนในประเทศเหล่านี้ และลุกลามข้ามมาถึงสุขภาพของคนในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ฝ่ายเมียนมาและสปป.ลาวได้รับปากที่จะเร่งดำเนินการเรื่องนี้


นายดอน กล่าวอีกว่า นับจากนี้ เราจะติดตามผลและทวงถามความคืบหน้าทุกวัน พร้อมกับกระตุ้นทางการของทั้ง 2 ประเทศให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นการกดดันประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นการย้ำให้เขารับรู้ถึงความจำเป็นและความสำคัญของปัญหาดังกล่าวที่ได้สร้างอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนทุกเพศทุกวัยในประเทศเขาเอง รวมถึงอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่อยู่ติดกับเมียนและสปป.ลาว โดยเราทราบว่ามีฮอตสปอร์ต 15,000 กว่าจุด ส่วนจุดความร้อนที่อยู่ในไทยก็มีจำนวนมากผิดปกติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการแก้ไข รวมถึงต้องทำให้ดีที่สุดและได้ผลมากที่สุดด้วยเพื่อสุขภาพของประชาชน

----------------------------------------------------

“เศรษฐา” ห่วงปัญหาฝุ่น กระทบกลุ่มเสี่ยงสูง แนะแก้ไขโดยเร็ว พร้อมเจรจาเพื่อนบ้าน แก้ต้นตอ


วานนี้ (วันที่ 28 มี.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยโพสต์ เฟซบุ๊ก ระบุถึง ปัญหามลภาวะทางฝุ่นว่า “ตอนนี้เป็นที่น่าห่วงมากครับ โดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทยอย่างแม่สาย จังหวัดเชียงราย หรือจังหวัดเชียงใหม่เอง ประชาชนได้รัผลกระทบอย่างหนัก และส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุภาพของพี่น้องทุกคน ในภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเองก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก


เรื่องนี้ต้องแก้ไขโดยเร็วโดยอาศัยการจัดการหลายส่วนด้วยกัน ระยะสั้นทั้งการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงสูง การสนับสนุนหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพ ระยะกลางอย่างการจัดการน้ำเพื่อเปลี่ยนตอข้าวให้เป็นปุ๋ย ลดการเผาไร่โดยเปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ ใช้กลไกทางตลาดจูงใจให้ไม่เผา ดันราคารถไฟฟ้าลงเพื่อสนับสนุนให้คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น และระยะยาวด้วยการผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด การต่างประเทศที่ต้องเจรจากับเพื่อนบ้าน และพัฒนานวัตกรรมการเกษตรเพื่อขจัดปัญหาตั้งแต่ต้นตอ


อากาศสะอาดเพื่อใช้หายใจ ควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุด ที่พี่น้องประชาชนต้องได้รับครับ”

--------------------------------------------------

“ยิ่งลักษณ์” จี้รัฐบาล เจรจาประเทศเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5

วานนี้ (วันที่ 28 มี.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ “สมัยเด็กๆ ตอนที่ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ไม่เคยมีฝุ่นเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็แค่ควันไฟธรรมดา แต่ตอนนี้มีเยอะมากไม่ใช่ควันไฟทั่วไปแต่เป็นควันพิษ PM 2.5 ซึ่งทางวิชาการเป็นอันตรายและเป็นอันตรายในระยะยาว ไม่ไช่เฉพาะในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าห่วงใยคือเด็กๆที่ฝุ่นจะสะสมและเห็นผลในอีก 5 -10 ปีข้างหน้า


ดิฉันไม่อยากเห็นเด็กๆ ในอนาคตเป็นโรคทางเดินหายใจ กันหมดเพราะฉะนั้น ต้องร่วมกันแก้ไขด่วนรวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องร่วมกันแก้ไข เพราะเป็นภัยสารธารณะ ส่วนรัฐบาลต้องจริงจังในการแก้ไขปัญหาฝุ่นที่มาจากต่างประเทศ รัฐบาลเท่านั้นที่จะเจรจาได้ คนอื่นทำไม่ได้

------------------------------------------------------

“สุดารัตน์” ทนไม่ได้ โวยรัฐบาลปล่อยประชาชนตายผ่อนส่งจากฝุ่น PM 2.5

วานนี้ (วันที่ 28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทยจัดประชุมใหญ่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ


โดยช่วงหลังจบงาน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย จังหวัดเชียงราย ยื่นหนังสือถึงคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพื่อขอให้ช่วยแก้ไข เพื่อบรรเทาปัญหาเบื้องต้นให้กับชาวเชียงราย ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับปากว่าจะลงพื้นที่ไปดูปัญหาด้วยตัวเอง พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ไม่มีใครทำงาน ไม่มีใครรับผิดชอบต่อสังคม ซี่งหากตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องตายแบบส่งๆ และไม่จำเป็นต้องมีมาตรการระยะยาว หรือใช้เงินจำนวนมากในการแก้ปัญหา

“PM 2.5 อันตรายมากนะคะ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กเล็ก เขาเตี้ย เขาอยู่ต่ำ เขาหายใจเร็ว ยิ่งสูดฝุ่นพิษเข้าไปได้เร็วมาก คนแข็งแรงแลบเรายังถูกทำลายแบบถาวร ดิฉันเป็นนายกจะไม่ปล่อยให้ประชาชนผ่อนส่งอย่างแน่นอน”


“เราจะเห็นบางเทศบาลเอาน้ำไปยืนฉีด มันไม่ได้ผลหรอก เราต้องระดมทุกหน่วยงานมาช่วยกัน เช่น ทำฝนหลวง ฝนเทียม มันถึงจะช่วยลดปริมาณฝุ่นในวันที่มีปริมาณสูงได้”

คุณหญิง สุดารัตน์ ยังย้ำว่า ตอนนี้ไม่มีใครสั่งการอละรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือต้องเร่งเจรจา กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหามาตรการร่วมกัน แต่วันนี้ยังไม่เห็นผู้นำทำอะไรเลย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/M3lw2L4gRfk

คุณอาจสนใจ

Related News