เลือกตั้งและการเมือง

จ่อแถลงปม แฉไปไถไป 'ทนายตั้ม' บอกหมดศรัทธา 'ชูวิทย์' โต้กลับ เฉลยที่มาเงิน รับเป็นโจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ

โดย passamon_a

23 มี.ค. 2566

813 views

ทนายตั้ม ไม่ปฏิเสธถูกโยงถึงชูวิทย์ หลังโพสต์ภาพถุงเงินเป็นปึก บอก "แฉไป ไถไป" และว่าหมดศรัทธา คนที่เห็นกันอยู่อาจไม่ใช่อย่างที่คิด ด้านชูวิทย์โต้กลับ แจงที่มาเงินจากสารวัตรซัว ให้ช่วยหยุดโจมตี ยันไม่ใช่ 50 ล้านตามที่ทนายตั้มอ้าง ก่อนนำไปบริจาค รพ. 2 แห่ง น้อมรับตัวเองเป็นโจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ


เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2566 มีรายงานว่า ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ภาพเงินเป็นปึก ซึ่งใส่ไว้ในถุงกระดาษ พร้อมข้อความระบุว่า "แฉไป ไถไป" พร้อมบอกด้วยว่า "คนที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด หมดศรัทธา"

นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า "ไถสีเทามา 50 ล้าน บริจาคเอาหน้าที่ละ 3 ล้าน สร้างภาพกลับตัวกลับใจ ผมไม่อยากสวนกระแสนะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชมมาตลอด แต่พอรู้ความจริงแล้ว มันหมดรักเลยจริงๆ ผมไม่อยากให้มีอาชีพแบบนี้ สร้างประเด็นข่าว ตีๆ แล้วไถ ใครยอมจ่ายก็ไม่พูดถึง เราจะยกย่องคนแบบนี้เป็นฮีโร่จริงหรือครับ"

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนสงสัยว่า ทนายตั้มพูดถึงใครกัน แล้วจ่ายทำไม ซึ่งทนายตั้มก็เข้าไปตอบว่า จ่ายเพื่อให้หุบปาก

ขณะที่ เพจดังอย่าง "อีซ้อขยี้ข่าว2" ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเหตุการณ์เดียวกันอยู่ไหม พร้อมบอกใบ้ อักษรมาเต็ม ซึ่งแอดมินเองก็บอกว่า เอาจริงๆ ไม่ต้องย่อก็ได้

ขณะที่ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม ทนายษิทรา ว่าประเด็นที่โพสต์หมายถึงใคร นายษิทราบอกว่าใครที่อ่านในคอมเมนต์ก็จะทราบทันที่ว่าหมายถึงใคร ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นคนที่ออกข่าวดังทุกวันใช่หรือไม่ นายษิทรา ก็ตอบกลับมาว่าก่อน 10 โมงพรุ่งนี้ จะส่งคำถามถึงคุณชูวิทย์แบบไม่กั๊ก ผู้สื่อข่าวก็ย้ำกลับไปว่าถ้าตอบแบบนี้ก็หมายถึงคุณชูวิทย์ 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งทนายก็บอกอีกว่ายังไม่ตอบแต่ไม่ปฏิเสธแบบนี้ดีกว่า ก่อนทิ้งท้ายว่ารอพรุ่งนี้ดีกว่า

ต่อมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ก็ออกมาตอบโต้ทันที โดยโพสต์ระบุว่า “แฉไป ไถไป? เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้าน ที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน เป็นเงินที่นายตำรวจผู้ใหญ่นอกราชการคนหนึ่งที่ผมรู้จักมานาน นำมาให้ที่โรงแรมของผม โดยบอกว่าเป็นเงินของ “ซัว” ให้ผมช่วยหยุดโจมตี

ผมบอกไปว่า “ไม่รับเคลียร์” มันไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผมยังต้องแฉต่อ แต่นายตำรวจท่านดังกล่าว ยืนยันยัดเยียดให้ผมรับไว้ และสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ ผมเก็บเงินไปใช้ส่วนตัว เพราะไม่มีใครทราบ แต่ผมเลือกที่จะนำเงินในถุงแรกจำนวน 3 ล้าน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วาเลนไทน์เดือนที่แล้ว และอีกถุงจำนวน 3 ล้านเท่ากัน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งสองครั้งมีสื่อมวลชนไปทำข่าวเป็นสักขีพยาน และผมก็ยังแฉเรื่อง “ซัว” อย่างต่อเนื่อง หลักการของผมชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ปฏิเสธ แต่เงินที่ยัดมาไม่เคยคิดจะใช้ส่วนตัวแม้แต่สักบาทเดียว หากผมจะเก็บไปใช้เอาไว้แจกอีหนูก็ได้ แต่เงินแค่นี้ไม่มีความหมาย หากมี 50 ล้านมาให้อย่างที่ทนายตั้มว่าจริง ผมก็นำไปบริจาคอีก จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้ นักบุญคนบาป โรบินฮู้ด นักแฉใจบุญ หรือใครจะเอาอย่างผมก็ได้

แต่ส่วนใหญ่มันรับแล้วเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งนั้น ลองถามทนายตั้มดูสิครับ อย่าเรียกผมว่าคนดี หรือมาศรัทธาอะไรผมเลยครับ ผมก็ไม่ใช่ “ฮีโร่” อยู่แล้ว ส่วนใครจะตราหน้าผม ก็ขอรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า ผมนั้นเป็นโจร เพียงแต่เป็น ”โจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ” ยังนึกไม่ออกเลย จะทำให้ดีกว่านี้ได้ยังไง ใครรู้ช่วยบอกที คนที่จะถ่ายรูปถุงเงินนี้ได้ ก็น่าจะต้องเป็นเจ้าของเงิน คนที่ให้รูปทนายตั้มบอกว่ายังไง? เงิน 50 ล้านที่ไหน? ผมจะรอฟัง”

นอกจากนั้นนายชูวิทย์ ยังได้เขียนในคอมเมนต์โพสต์ของตัวเองด้วยว่า “นี่ยังดีนะที่ผมเอาเงินไปบริจาค มีหลักฐานเห็นชัดๆ ถ้าเอาไปใช้ส่วนตัว ซวยตายห่า ส่วนพวกสีเทาจะมาบริจาคให้ผมอีกก็ได้ช ทำบุญบ้าง ให้มาเท่าไหร่ เอาไปบริจาคเท่านั้น แต่ผมไม่หยุดแฉนะครับ”

รวมทั้งทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ก็ยังเข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “แหม่ พี่ชูวิทย์ ใจบุญจริงๆ นี่ถ้าผมไม่โพสต์ จะมีคนรู้ไหมว่ารับเงินพวกนี้มา แต่ผมว่ามันคนละยอดกันเลยนะ”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yZBb9AWGBtE

คุณอาจสนใจ

Related News