'บิ๊กป้อม' เผย 'สุริยะ-สมศักดิ์' โบกมือลา พปชร.แล้ว - 'เฉลิม' คัมแบค คิดสโลแกนแซะพรรคใหม่

กระแสข่าว 2 รัฐมนตรีกลุ่มสามมิตร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ย้ายไปพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.66) แม้ทั้งสองยังปิดปากเงียบ แต่ทางพลเอกประวิตร ออกมาเฉลยแล้ว


พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มาลาแล้ว ยืนยันว่าการที่ทั้ง 2 คน ออกไปไม่ได้กระทบพรรค และไม่ได้ยื้อ หรือรั้งไม่ให้ไป เพราะเป็นเรื่องที่คิดแทนกันไม่ได้ และพรรคพลังประชารัฐ ยังมีคนเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวพยายามถามเรื่องนี้กับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ถึงอนาคตทางการเมือง แต่นายสุริยะ ไม่ตอบใด ๆ


ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ปฏิเสธ ที่จะให้ความชัดเจนเรื่องการย้ายพรรค โดยบอกเพียงว่า เมื่อถึงเวลาจะพูดเอง แต่ตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรียุติธรรมอยู่ ซึ่งการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ นายสมศักดิ์ ไม่ได้เข้าประชุม ครม. ด้วย เนื่องจากไปราชการเรื่องยาเสพติดที่ จ.พิษณุโลก


ซึ่งการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ มีรายงานด้วยว่า ครม. ได้แต่งตั้ง นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่แทน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรณีที่นายสุริยะ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงถูกมองว่าเป็นกดดันให้นายสุริยะลาออกจากรัฐมนตรีด้วยหรือไม่


ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เรียนพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เคารพทุกท่าน มีสมาชิกถามผมว่าทำไมถึงเงียบหายไป ในความเป็นจริงผมไม่ได้เงียบหายไปไหน ก็ยังคงช่วยพรรคในฐานะที่พรรคได้แต่งตั้งให้ผมเป็นประธานกิจการพิเศษ และมีพลโทภราดร เป็นเลขานุการคณะ


วันนี้ผมมีเรื่องที่จะกราบเรียนท่านทั้งหลายว่า เมื่อทหารปฏิวัติฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็พอใจ ฝ่ายเสรีนิยมก็ไม่พึงพอใจคณะปฏิวัติชุดนี้ นอกจากปกครองประเทศ 4 ปี แล้วยังร่างรัฐธรรมนูญฉบับอัปยศ ต่ออำนาจอีก 4 ปี และทำท่าว่าจะอยู่ต่อ โดยชูสโลแกนว่า "ความสงบมาจบที่ลุงตู่" สุดท้ายก็ไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด ความหย่อนยานของรัฐบาล การทุจริตคิดมิชอบ พรรคร่วมรัฐบาลซึ่ง ชิงความได้เปรียบและผลประโยชน์ของแต่ละพรรค ยังจะเห็นว่ามีพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรคที่ไม่มีความมั่นคงในอุดมการณ์คือ


1. พรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับคณะรัฐประหารในระหว่างหาเสียงในปี 2562

2. พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัย ที่ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ เป็นผู้ปราศรัยและยืนยันต่อมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังเลือกตั้งจะไม่ร่วมรัฐบาลกับฝ่ายทหาร สุดท้ายทั้ง 2 พรรคก็ทรยศตัวเองร่วมรัฐบาลโดยมี พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี


ผมจะมีหน้าที่เมื่อยุบสภาและปราศรัยทั่วไป ผมจะเสนอพรรค นอกจากนโยบายที่พรรคนำเสนออยู่แล้ว สรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้


1. การแก้ปัญหายาเสพติดและเรื่องอาวุธปืนโดยเป็นอาวุธปืนเถื่อนต้องริบคืนให้หมด ส่วนการอนุมัติให้พกพาอาวุธปืนได้ต้องยุติ

2. การแก้ไขปัญหาความยากจน แก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูงการปรับปรุงกระบวน การยุติธรรมพร้อมถาม การปฏิรูปตำรวจของรัฐบาลใน 8 ปีที่ผ่านมา

3. ต้องส่งเสริมสนับสนุนคนยากจน ต้องมีสโลแกนว่า "คนอายุมากต้องรวยก่อน" มีเงินลงทุนแล้วถึง นำไปสู่คนชรา

4. การอนุมัติให้มีสุราท้องถิ่น

5. ห้ามแบ่งแยกระหว่างคนจนกับคนรวยโดยเด็ดขาดเพราะคนรวยเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ

6. ต้องรีบขจัดความไม่สงบเรียบร้อยระดับท้องถิ่น

7. ต้องสร้างคนยากจนให้มีความพึงพอใจ


สรุปหากผมมีโอกาสเสนอพรรค ผมจะขอให้พรรคเน้นการแก้ปัญหายาเสพติด ความยากจน เรื่องอาวุธปืน การแก้ไขความสงบเรียบร้อย ประเด็นสำคัญต้องปฏิรูปประเทศยกร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา โดยตั้ง ส.ส.รซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน การกระจายอำนาจจังหวัดใดก็ตามที่มีความพร้อมในการเลือกตั้ง ก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และเลือกตั้ง ผู้อำนวยการเขตในกรุงเทพฯ เพราะผู้ว่ากรุงเทพฯมาจากการเลือกตั้ง ที่สำคัญที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ซึ่งมีความขัดแย้งอย่างยาวนาน ควรจัดให้มีการเลือกตั้ง


ผมคิดสโลแกนให้พรรคใหม่ไปหาเสียง

1. เศรษฐกิจไทยนิ่งสงบจบที่มึง

2. ยาเสพติด พนันออนไลน์ ฉิบหาย สมัยมึง


วันนี้ในพื้นที่จำกัด ผมจะหาโอกาสนำเสนอบทความเพิ่มเติมอีกต่อไปสำหรับวันนี้ สวัสดีครับ 

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZD8UVHOntOY