เลือกตั้งและการเมือง

ป้าต้านนายกฯ โดน 3 ข้อหา ยันไม่ได้ตะโกนด่า – 'บิ๊กตู่' เสียอารมณ์ ลั่นไม่ให้ความสำคัญ ชี้คนมารับเป็นหมื่น

โดย nattachat_c

14 มี.ค. 2566

40 views

วานนี้ (13 มี.ค.) มีการลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี ที่วัดหุบกระทิง ตำบลเบิกไพร​ อำเภอบ้านโป่งเพื่อตรวจราชการ โดย...

  • พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
  • พลเอกอนุพงษ์​ เผ่าจินดา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
  • นายสุชาติ​ ชม​กลิ่น​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
  • นายธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ 


โดยทันทีที่คณะนายกฯ เดินทางมาถึงวัดหุบกระทิง เวลา 10.00 น. มีข้าราชการ ประชาชน หน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดหุบกระทิงมารอต้อนรับ และทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึง เด็กนักเรียนได้ร้องเพลงทรงอย่างแบดเพื่อตัอนรับ พร้อมตะโกน "รักลุงตู่" และ "ลุงตู่สู้ๆ"


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าสักการะหลวงพ่อสมปรารถนา พระประทานในโบสถ์ และกราบนมัสการเจ้าอาวาส 


หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมแปลงสาธิต โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมควายไทยลักษณะงาม ได้มีผู้สื่อข่าวทำอุปกรณ์ตก จนทำให้ควายนั้นตกใจ นายกรัฐมนตรีถึงกับแซว "โอเคไม่มีใครทำร้ายนายกฯ อยู่แล้ว อย่าไปทำเขา ใครใจร้ายกับนายกขอให้ระวังไว้" ก่อนที่จะย้ำว่า​ "ขอให้คิดดีทำดี" ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี​ได้ทักทายลูบหัวสุนัข​ โดยกล่าวว่า​ "น่ารักจัง"


จากนั้น นายกฯพร้อมคณะ ได้เดินทางไปไหว้สัการะเจ้าแม่เบิกไพร ก่อนมาพบชาวบ้านที่ศาลาประชาคม อำเภอบ้านโป่ง 
--------------

ทั้งนี้ ก่อนที่คณะนายกฯ จะเดินทางมาถึง ได้มีคน 2 คน จะมายืนดักขบวนนายกรัฐมนตรี​ เพื่อรอตะโกนด่าทอนายกฯ​ ซึ่งได้ถูกเจ้าที่สกัด และพยายามกันออกไป


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ ใช้มือปิดปากป้าสูงวัย​ในพื้นที่ และพยายามนำตัวออกจากพื้นที่ แต่ป้าคนดังกล่าวไม่ยอม​ จึงทำให้เจ้าหน้าที่​ต้องลากป้ารายดังกล่าวไปหลบหลังรถตู้​ เพื่อนำตัวออกนอกพื้นที่​ โดยมีชาวบ้านกลุ่มรักลุงตู่พยายามแจ้งว่า หญิงรายดังกล่าวเป็นลม​ เจ้าหน้าที่จึงพาไปหาหมอ


ขณะที่ หญิงอีกรายที่ยังอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ และกลุ่มผู้สนับสนุนที่พยายามห้ามไม่ให้เคลื่อนไหว​ โดยหญิงสาวรายดังกล่าวได้ชู 3 นิ้ว และมีคนบอกว่า ขอให้หญิงรายดังกล่าวออกนอกพื้นที่ อย่าทำให้เสียชื่อคนบ้านโป่ง


อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ได้ใช้ร่มเพื่อกางปิดเพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพได้ รวมไปถึงได้เข้ามาสอบถามสื่อมวลชนว่าถ่ายทำไม และพยายามขอดูบัตรสื่อมวลชน และกันไม่ให้ถ่าย​ ขณะที่สื่อมวลชนได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าอย่าใช้ความรุนแรง ภาพออกไปมันไม่ดี

--------------

เมื่อนายกฯเดินทางมาถึงศาลาประชาคม อำเภอบ้านโป่ง ท่านก็ได้ปราศรัยถึงประชาชน​ รวมไปถึงกำนันผู้ใหญ่บ้าน​ และส่วนราชการ 


โดยนายกรัฐมนตรี​ กล่าวระหว่างพูดถึงเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ว่า ขอฝากไว้ด้วยว่าใครที่พอจะรู้ขอให้ช่วยกันศึกษา และเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร เขาบอกว่าลุงไม่รู้เรื่อง อยู่มาถึง 8 ปี มันก็โง่สิ ไม่รู้เรื่องแล้วทุกคนจะมานั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ก็มานั่งกันอยู่ได้ ลุงก็ไม่ได้โง่เกินไปนักหรอก ถ้าลุงโง่หมดแหละแถวนี้ ก็ทำงานกับคนตั้งเท่าไร ครม.ตั้ง​ 36 คน 20 กว่ากระทรวง ข้าราชการกี่หมื่นกี่แสนคน​ถูกหรือไม่ คณะทำงานร้อยกว่าคณะ​


แต่ละเรื่องไม่ใช่นายกสั่งโง่ๆ ไป ให้เขาไปทำ เขาก็มีคณะทำงาน นายกจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ต้องฟังเขา ถ้าพูดไม่เข้าท่า เขาก็ด่าเอา เสนอส่งเดชไป ไม่ใช่เป็นนายกแล้วจะเสนอได้ทั้งหมด ต้องสั่งในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่เป็นธรรม


เข้าใจคำว่าทุจริตหรือไม่ บางคนไม่เข้าใจหรอกทุจริตคืออะไร​ ไม่รู้เรื่องไม่มาทำงาน​ นอนอยู่บ้าน ไม่ได้ป่วยแต่ขี้เกียจมา​ ก็คือทุจริตเวลา จะไปเบียดบังใครเขาได้ ก่อนที่จะระบุว่า​ สิ่งเหล่านี้ คนไทยจะต้องเป็นคนศิวิไลซ์​ ให้คนเขาชื่นชม


ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี​ ยังกล่าวอีกว่า ในนี้ไม่มีใครด่าผมแน่นอนได้ แต่ว่าข้างนอกก็มี​ 3 นิ้ว ไม่รู้ว่ามาอย่างไร ตนไม่โกรธเขาหรอก ผมโกรธเขาไม่ได้เพราะเขาเป็นคนไทย แต่เขาคิดอะไรผมไม่รู้​


นายกฯพูดติดตลกว่า​ เหตุใดเหลือ​เพียง​ 3 นิ้ว​ อีก​ 2 นิ้วเป็นอะไร ฝากหมอไปดูหน่อย​ ต้องมีอาการอะไรสักอย่าง​ ก่อนที่จะย้ำว่า ขอฝากให้ไปดูลูกหลาน อย่าให้ทำแบบนี้

--------------

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีคน 2 คน มาตะโกนด่าทอ ว่า อย่าไปสนใจ มันจะต่างสักกี่คน คนเขามารับกี่คน เป็นร้อยเป็นพันหรือไม่ มา 3 คน ผมไม่สนใจอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาก็ดูแลดี ไม่ให้ทำผิดกฎหมาย ตนไม่ใช่ศัตรูเขา เป็นเรื่องของเขาสิ


เมื่อถามว่าจะเป็นแฟชั่นในการลงพื้นที่ครั้งต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าก็อย่าไปให้ความสำคัญ เข้าใจหรือไม่ ตนไม่ให้ความสำคัญ


เมื่อถามว่าภาพที่ออกไปรุนแรงหรือไม่ เพราะมีการฉุดกระชากกัน นายกรัฐมนตรีถามว่ารุนแรงตรงไหน ตนไม่เห็น เมื่อสื่อมวลชนบอกว่ามีการกระชาก ลากถูกัน นายกรัฐมนตรีถามว่าฝ่าฝืนกฎหมายหรือเปล่า ทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าเขาห้ามแล้วไม่เชื่อฟัง ก็ต้องใช้วิธีการอื่น แล้วทำไมต้องทำสิ่งที่เขาห้าม ตนไม่เข้าใจ


พร้อมย้ำว่า ตนมาทำให้คนเป็นพันเป็นหมื่น เขาเสียประโยชน์ไหม พร้อมยืนยันไม่ได้โกรธ แต่ไม่เห็นประโยชน์ พร้อมย้ำว่าอย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ในหนังสือพิมพ์


ทั้งนี้ ก่อนรถเคลื่อนตัวออกไปนายกรัฐมนตรีลดกระจกลง ก่อนระบุว่า คำถามแบบนี้อย่าถามแบบนี้อีกนะ คนมาเป็นหมื่นกับคนสามคน อย่ามาพูด พร้อมย้ำว่าไม่ได้โมโห

--------------

ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับข้อมูลเอกสารที่เอกสารบันทึกจับกุมของ สภ.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งระบุชัดเจนว่า ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ได้ดำเนินการจับกุม น.ส.วันทนา อายุ 61 ปี  ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย


1.ผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

2.ส่งเสียงทำให้เกิดเสียง หรือกระทำความอื้ออึงในที่สาธารณะ

3.ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฏหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่


โดยพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมซึ่งมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเดินทางมาตรวจราชการที่บริเวณศาลาประชาคม ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี


ขณะขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีใกล้จะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเข้ากับ น.ส.วันทนา ผู้ต้องหาในคดีนี้ ไม่ยืนอยู่ในจุดที่กำหนดไว้สำหรับประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สั่งให้ผู้ต้องหาเดินขึ้นไปอยู่บนฟุตบาท ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ และมีประชาชนยืนอยู่บนฟุตบาทดังกล่าวจำนวนหลายคน แต่ผู้ต้องหาไม่เชื่อฟังและไม่ยอมเดินขึ้นไปอยู่บนฟุตบาท


“เมื่อขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้วิ่งเขาไปรถยนต์คันที่นายกรัฐมนตรีโดยสารมา และได้ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย” ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง 2 นาย ได้เข้าไปควบคุมตัว


แต่ผู้ต้องหาแสดงอาการขัดขืน และมีการยื้อยุด ฉุดกระชาก และผู้ต้องหาได้ใช้ปากกัดทำร้ายตำรวจหญิง 1 นาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วก้อยข้างซ้าย และได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้กำลังควบคุมตัวผู้ต้องหา ทำให้ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.บ้านโป่ง และแจ้งข้อหา 3 ข้อหาข้างต้น


ขณะเดียว ผกก.สภ.บ้านโป่ง ยืนยันว่า คุณป้าวันทนา ไม่มีประวัติทางคดีมาก่อน

--------------

เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อชี้แจงว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นตามภาพข่าวและคลิปวิดีโอที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลนั้น เป็นการกระทำของบุคคลในภาพเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม โดยมีพฤติการณ์ที่จะวิ่งเข้าไปภายในเส้นทางเดินรถเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้เส้นทางนั้น และได้ส่งเสียงก่อกวนอื้ออึงในพื้นที่หวงห้าม


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามชั้นตอนของกฎหมาย ชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคคลดังกล่าวและห้ามมิให้บุคคลดังกล่าวไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ แต่บุคคลดังกล่าวยังคงฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้หญิงเข้าไปทำการควบคุม แต่บุคคลดังกล่าวได้ต่อสู้ขัดขืน ยื้อชุดกระชาก ใช้ปากกัดทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชายเห็นเหตุการณ์จึงได้เข้าช่วยควบคุมนำตัวออกจากพื้นที่ และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ดังต่อไปนี้


1.ผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุ หรือข้อแก้ตัวอันควร


2.ส่งเสียงทำให้เกิดเสียง หรือกระทำความอื้ออึงในที่สาธารณะ


3.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าหนักงานตามกฎหมายในการ ปฏิบัติการตามหน้าที่


และควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ส่วนตามภาพข่าว ผู้หญิงใส่เสื้อดำ พยายามส่งเสียงก่อกวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปชี้แจง ทำความเข้าใจให้หยุดการกระทำดังกล่าว ซึ่งทางผู้หญิงเสื้อดำได้หยุดการกระทำนั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว หากพบว่ามีการกระทำผิดจักได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


เราในฐานะตำรวจภูธรจังหรัดราชบุรีเราขอยืนยันว่า เราได้ปฏิบัติต่อทุกกลุ่ม ทุกความเห็นอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งเรามีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม หากไม่ว่ากลุ่มใดมีพฤติการณ์ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดการยั่วยุที่จะใช้ความรุนแรงต่อกัน เราจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่โดยยืดหลักของกฎหมายเป็นสำคัญ

--------------

ต่อมา ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณป้าวันทนา อายุ 61 ปี ชาว จ.ราชบุรี ประกอบอาชีพค้าขาย กล่าวว่า วัตถุประสงค์คือต้องการไปร้องเรียนกับนายกฯ เรื่องหนี้สิน การค้าขาย และความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชน


ระหว่างที่ยืนรอนายกฯอยู่บนฟุตบาท ยืนมาประมาณ 30 นาที ก็ไม่ได้มีใครบอกว่ายืนไม่ได้ จากนั้นปรากฏว่ามี จนท. กรูกันเข้ามาหา ท่าทางไม่ดีตอนนั้นมองเห็นเป็น จนท.หญิง ก็ไม่ได้คิดอะไร จากนั้น จนท.สอบถามว่ามาทำอะไร ก็บอกไปตามวัตถุประสงค์ข้างต้น


ท้ายที่สุด จนท. ก็เข้ามาปิดจมูก ปิดปาก ไม่ไดับอกอะไรสักคำ ซึ่งป้าก็พยายามบอกว่าอย่าปิดปากเพราะหายใจไม่ออก พร้อมกันนี้ ยังล็อกแขน เหยียบเท้าด้วย เพราะหาว่าป้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งป้าก็พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองในลักษณะที่เหยียบเท้ากันไปมา


ส่วนประเด็นที่ตำรวจระบุในบันทึกจับกุมว่าตนใช้ปากกัดตำรวจหญิงนายหนึ่งนั้น เป็นความจริง เพราะตำรวจใช้มือปิดปากจนแทบหายใจไม่ออกแล้ว


ส่วนประเด็นที่มีการระบุว่า สาเหตุที่ จนท. ทำเช่นนี้เนื่องจากว่าคุณป้าพยายามตะโกนด่าและตำหนิการทำงานของนายกฯ คุณป้าวันทนา ยืนยันว่า ไม่ได้ตะโกนด่า ยังไม่มีโอกาสได้ตะโกนด่า หรือตำหนิการทำงานของนายกฯเลย ยืนยันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ อีกทั้งยังไม่ได้มีโอกาสเจอล้อรถของนายกฯเลย จะไปด่าได้อย่างไร


ขณะเดียวกัน คุณป้าวันทนา มองว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่กระทำนั้น เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน อีกทั้งยังพยายามกันสื่อไม่ให้เก็บภาพขณะเกิดเหตุด้วย ซี่งทั้งหมดทั้งมวลนี้มองว่าเกินคำว่า 'รุนแรง' มองว่าเกินกว่าเหตุไปมาก


คุณป้าวันทนา ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ได้กระทำการเช่นนั้น ซึ่งตนได้ปฏิเสธทั้ง 3 ข้อหา และทางทีมทนายความได้ยื่นประกันออกแล้ววางหลักทรัพย์เงินสด 10,000 บาท ซึ่งตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ให้ประกันแล้ว


จากนั้นคุณป้าวันทนา ได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อเป็นหลักฐาน และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกลับกับ จนท.ที่เกี่ยวข้อง ในวันนี้ (14 มี.ค.66) ที่บังคับการปราบปราม


ส่วนอาการบาด คุณป้าวันทนาบอกว่า บาดเจ็บตรงบริเวณข้อเท้าซ้าย มีแผลถลอกและบวม / หน้าแข้งซ้ายบวม / ข้อมือทั้งสองข้าง บวม ส่วนบริเวณคอเกิดอาการเคล็ดเล็กน้อย


ส่วนประเด็นที่นายกรัฐมนตรีตั้งคำถามกลับมาว่า ที่ จนท.ทำแบบนี้กับคุณป้าวันทนา เพราะฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ แล้ว จนท.อาจห้ามแล้วไม่ฟัง พร้อมกันนี้ ยังบอกว่า ไม่สนใจคนเห็นต่างไม่กี่คน เพราะมีคนมารับเป็นหมื่น คุณป้าวันทนา ระบุว่า มองแล้วยิ่งเศร้าใจ ทำไมต้องมากลัวประชาชน เพราะนายกฯบอกว่ามีคนรักเรือนแสน แล้วกับประชาชนแก่ๆ คนเดียว จนท.กลับมารุมเช่นนี้


ขณะเดียวกัน คุณป้าวันทนา ยังยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังหรือว่าจ้างมาก่อกวนอย่างแน่นอน


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คุณป้าวันทนาเคยเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ราชบุรี เขต 4 บ้านโป่ง จากพรรคเพื่อชาติ เมื่อปี 2562 เมื่อถามว่า จะหวนกลับลงเล่นการเมืองหรือไม่ คุณป้าวันทนา ยืนยันว่า ไม่คิดจะกลับไปเล่นการเมืองอีก
--------------




คุณอาจสนใจ

Related News