เลือกตั้งและการเมือง

รฟม.ขู่ฟ้อง ‘ชูวิทย์’ กล่าวหาทุจริตเงินทอน 'รถไฟฟ้าสีส้ม’ 3 หมื่นล้าน ยันโปร่งใส ท้าโชว์หลักฐาน

โดย petchpawee_k

22 ก.พ. 2566

132 views

‘ชูวิทย์’ ขยี้ต่อ! ระบุ ทุจริตรถไฟสายสีส้ม ต่อให้มีใบเสร็จก็ไม่ยอมรับ ซัดเงินของคุณอาจซื้อนักการเมืองได้ แต่ซื้อประชาชนบางคนไม่ได้ ด้าน รฟม.แถลงโต้ ยันโปร่งใส ท้างัดหลักฐานโชว์ ขู่ฟ้องกลับชูวิทย์ทำเสื่อมเสีย 

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ "เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน


วันนี้ไปทำเนียบ เอาความจริงไปพูดให้คน มีอำนาจที่ทำเนียบรัฐบาลฟัง ทั้งเรื่องเล็ก ไปยันเรื่องใหญ่

 บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งขายทั้งดูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ต่างชาติไม่รู้ เห็นมีขายก็ซื้อดูด แต่เสือกโดนจับบอกว่าผิดกฎหมาย หารู้ไม่ กฎหมายไทยมันสีเทา จึงบอกรัฐบาลผ่านเลขาฯ นายก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ผลทันควัน ตั้งแต่วันนี้ หากพบคนใช้บุหรี่ไฟฟ้า แค่ยึด ไม่โดนปรับหรือดำเนินคดี ส่วนระยะยาว ต้องถามกระทรวงสาธารณสุขว่า หากบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย บุหรี่ธรรมดาไม่อันตรายหรือไง?


 ไล่ไปถึงพนันออนไลน์ ตั้งแต่ไซส์ S ขนาดวงเงินหมุนเวียน 5,000 ล้านบาท/เดือน อย่าง มาเก๊า 888  ไซส์ M วงเงินหมุนเวียน 10,000 ล้านบาท/เดือน อย่าง โจ๊ก เวกัส 168  ไซส์ L วงเงินหมุนเวียน 20,000 ล้านบาท/เดือน อย่าง ซัว เป็นต่อ หรือ ดี้ UFA // ไซส์ XL วงเงินหมุนเวียน 30,000 ล้านบาทขึ้นไป อย่าง ตี๋น้อย ร้อยล้าน หรือเอ็ดดี้ ที่ลูกน้องชื่อพีทกับเจียว


ลามไปเรื่องความยุติธรรมของอัยการ ที่มาจากการใช้ “ดุลพินิจ” ที่ไม่ใช่มาจากส่วนตัว หลายครั้งหลายครา แต่ต้องใช้ดุลพินิจบนพื้นฐานของเหตุผลและกฎหมาย ที่ชี้แจงให้ประชาชนฟังขึ้น


“อุทยานทับลาน” ที่มีความต้องการจะลดขนาดลง 200,000 กว่าไร่ และมีผู้ต่อสู้ รวมทั้งมีข้อขัดแย้งว่า ในพื้นที่นั้นมีทั้งรีสอร์ทและชาวบ้านดั้งเดิม จึงต้องแยกแยะ หากใครอยู่ดั้งเดิมมาก่อน ให้เขาอยู่ดูแลป่าไปได้ ส่วนรีสอร์ทต้องรื้อ แค่แบ่งคนจน กับคนรวยยังทำไม่ได้ ก็อย่าไปเป็นข้าราชการเลย


และสุดท้ายเรื่องรถไฟสายสีส้ม อย่ามาบอกว่าให้ผมเอาใบเสร็จมา ผมว่าถึงขนาดนี้ต่อให้มีใบเสร็จก็ยังไม่ยอมรับ เพียงพฤติกรรมมันมีกลิ่นเหม็นมัวหมอง หลักการง่ายนิดเดียว คือ ใครเอาเงินรัฐบาลน้อยสุด แล้วคุณภาพได้มาตรฐาน เจ้านั้นได้งานไป หากทำให้ชาติต้องจ่ายมากขึ้น 500% แล้วคุณภาพเท่าเดิม ต่อให้เป็นเทวดามาก็ไม่เอา พูดกันแค่นี้ดีกว่า มีสาระมากกว่า


ส่วนศาลปกครองสูงสุดยังไม่ได้ออกคำพิพากษา ทำไมคนบ้านๆ อย่างผมยังรู้ล่วงหน้าว่าใน 50 ตุลาการ ชนะด้วยคะแนน 27:23 ชนะกันแค่ 4 เสียง เกินครึ่งมาแค่ 2 เสียง ทำเป็นเฉียดๆ เนียนๆ ทั้งหลายทั้งมวลมาจากเรื่องหัวใจของการเคลียร์


ผมในฐานะประชาชน ไม่มีตำแหน่ง แต่เอาข้อความของคนในสังคมไปสื่อสารให้รัฐบาลทราบ เพียงแค่เสียงผมมันดังไปหน่อยเท่านั้นเอง วันหนึ่งผมเชื่อของผมว่า “เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ไม่ใช่บรรดานักการเมืองปลิ้นปล้อน ตระบัดสัตย์


ไม่มีแบ่งแยกว่าจังหวัดไหนเป็นของบรรพบุรุษส่วนครอบครัว แต่เป็นบรรพบุรุษของคนไทยทุกคน ย่อมมีสิทธิ์ ไม่ต้องขุดถึงโคตรเอาขึ้นมาหาเสียง และไม่ใช่ของนายทุนที่จ่ายทุกพรรคเหมือนเล่นรูเล็ตต์ โปรยทุกเบอร์ เงินของคุณอาจซื้อนักการเมืองได้ แต่ซื้อประชาชนบางคนไม่ได้ และประชาชนอย่างผมนี่แหละที่จะเริ่มสั่งสอนให้รู้ฤทธิ์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ว่าใครเคยทำอะไรไว้ ประชาชนต้องจดจำ ผมจะเป็นคนเตือนให้รู้สำนึก"

-------------------------------------

รฟม.แถลงด่วนโต้ชูวิทย์ ปัดข้อกล่าวหาเงินทอน 30,000 ล้าน  

วานนี้ (21 ก.พ.) นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.​) แถลงด่วนชี้แจงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งข้อสังเกตุต่อการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ใน 5 ประเด็นที่มีการกล่าวถึง ประกอบด้วย


ประเด็นการปรับปรุงเกณฑ์การประเมินข้อเสนอในการคัดเลือกเอกชนครั้งที่ 1 โดยระบุว่า รฟม. ได้ปรับปรุงเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) เฉพาะวิธีการประเมินข้อเสนอ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการเสนอผลตอบแทนให้แก่ภาครัฐตามที่นายชูวิทย์ฯ กล่าวอ้างแต่อย่างใด และได้ขยายระยะเวลาการยื่นซองข้อเสนอออกไปอีก 45 วัน ซึ่ง​ประเด็นดังกล่าวมีคดีฟ้องร้องในศาลปกครอง


โดยมีความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ศาลปกครองสูงสุดได้นั่งพิจารณาคดีครั้งแรก โดยตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นว่า คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) และ รฟม. ดำเนินการแก้ไขเอกสาร RFP เพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว และไม่ทำให้ผู้ยื่นข้อเสนอได้รับความเสียหาย และไม่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใด ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างรอศาลปกครองสูงสุดพิพากษา 


ส่วนประเด็นที่นายชูวิทย์ฯ ได้พูดพาดพิงถึงมติที่ประชุมศาลปกครองสูงสุดนั้น ถือเป็นกระบวนการภายในของศาลปกครองที่ไม่เปิดเผยแก่บุคคลภายนอก ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องรอให้ปรากฏในคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดต่อไป

สำหรับ​ประเด็นการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนครั้งแรก ชี้แจงว่าประเด็นนี้มีคดีฟ้องร้องในศาลปกครอง โดยมีความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ตุลาการผู้แถลงคดี ศาลปกครองสูงสุด ได้แถลงสรุปว่า การยกเลิกการคัดเลือกเอกชนฯ ครั้งแรก ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว และเป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นอันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของรัฐและประชาชน โดยเห็นควรให้ยกฟ้อง อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด


 ส่วนประเด็นการคัดเลือกเอกชนครั้งใหม่มีการล็อกสเปค ประเด็นนี้มีคดีฟ้องร้องในศาลปกครอง โดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ศาลปกครองกลาง พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า การดำเนินการคัดเลือกดำเนินการตามกฎหมาย มีการเปิดกว้างให้เอกชนเข้าร่วมในการคัดเลือกมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น และไม่มีลักษณะเป็นการตัดสิทธิหรือกีดกันผู้ใดมิให้เข้าร่วมยื่นข้อเสนอ จึงมีคำสั่งยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว


ขณะที่ประเด็นการดำเนินการของ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง และเป็นการปฏิบัติโดยไม่ชอบ หรือไม่ ประเด็นนี้มีคดีฟ้องร้องในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า ผู้ว่าการ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้แก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2563 ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอรายใด และกรณีที่มีการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2563 ไม่มีการกลั่นแกล้งผู้ใดหรือกระทำนอกขอบเขตของกฎหมาย ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จึงไม่มีมูลความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง


 และประเด็นเงินทอน 3 หมื่นล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคาร ทาง รฟม.ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาของนายชูวิทย์ ไม่มีมูลความจริง และหากนายชูวิทย์มีหลักฐานเอกสารตามที่กล่าวอ้าง ก็ขอให้นำมาแสดงให้สาธารณชน และส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อเป็นที่ประจักษ์ด้วย ว่าเป็นการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายหรือไม่


ทั้งนี้ การดำเนินการประกาศเชิญชวนฯ และคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นการดำเนินการโดยคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ และ รฟม. ตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดในมาตรา 35 ถึงมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 และสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนตามาตรา 41 เรียบร้อยแล้ว


สำหรับในขั้นตอนต่อไป รฟม. จะรอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีที่ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ถูกฟ้องคดี มาประกอบเรื่องเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัด และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-saABi14sD4


คุณอาจสนใจ

Related News