เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ต่อสายรับปัญหา​ “ชูวิทย์​“ ได้ข้อสรุปห้ามปรับบุหรี่ไฟฟ้า​ -​ องค์กรอิสระใช้ดุลยพินิจต้องตรวจสอบได้

โดย kanyapak_w

21 ก.พ. 2566

460 views

นายกรัฐมนตรีต่อสายรับปัญหา​ “ชูวิทย์​“ ได้ข้อสรุปห้ามปรับบุหรี่ไฟฟ้า​ -​ องค์กรอิสระใช้ดุลยพินิจต้องตรวจสอบได้ เตรียมส่งหลักฐานฮั้วประมูลรถไฟสายสีส้มถึงมือ “พล.อ.ประยุทธ์” ก่อน ครม. นัดสุดท้าย​ บอก​ จะเฝ้ารูดซิปนายกฯ จนกว่าจะเบื่อ​ -​ทนไม่ได้




21 ก.พ.2566 ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล นายชูวิทย์​ กมล​วิศิษฎ์​ อดีต ส.ส. ผู้ออกมาเปิดโปงกระบวนการทุนจีนเทา กล่าวภายหลังการเข้าพบนายพีระพันธ์ุ สาลี​รัฐ​ทวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี​ กว่า​ 1 ชั่วโมง​ ว่​า​ ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้ในทำเนียบฯ ขอให้สัมภาษณ์ด้านนอก ก่อนจะระบุว่า วันนี้ตนได้พูดปัญหาต่างๆ กับนายพีระพันธ์ุ ทั้งเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า พนันออนไลน์ ความยุติธรรม ปัญหารุกที่อุทยานแห่งชาติ และปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยนายพีระพันธ์ุ ได้ต่อสายถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และได้ข้อสรุปจากการพูดคุยว่า



เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ไม่มีค่าปรับ จากนี้จะไม่มีค่าปรับ โดยการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ จะยึดส่งต่อไปยังกรมศุลกากร โดยไม่มีโทษปรับ ส่วนในระยะยาว จะต้องคุยกับกระทรวงสาธารณสุข ว่า บุหรี่ไฟฟ้า ที่ขายอยู่นั้น แม้จะอันตราย แต่ก็ไม่ต่างจากบุหรี่ ที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นจะต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ



ขณะที่เรื่องพนันออนไลน์ ดำเนินคดีทั้งหมด ทางเว็บไซต์ระดับเล็กกลางและใหญ่ ซึ่งถือเป็นประกาศิตจากข้างใน หากเปิดเว็บพนันออนไลน์ต้องจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งคือคำตอบที่ตนได้มา



ขณะที่การรุกที่อุทยานแห่งชาติ​ มีทั้งเอกชนและชาวบ้าน​ ซึ่งหากพบว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ท​ ต้องยึด​และรื้อถอน​ ส่วนหากเป็นชาวบ้าน ให้สามารถอยู่อาศัยมีที่ดินทำกิน เช่นเดียวกับอุทยานทับลาน​ โดยผู้ครอบครองจะต้องชี้แจงที่มาว่าเป็นอย่างไร​ มีการสวมรอย​หรือไม่​ พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างตนมีหลักฐาน​ โดยตนมีรายชื่อและหลักฐานยืนยันว่าจากรายชื่อผู้ครอบครองที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพ​ ซึ่งเกี่ยวโยงกับบริษัทเอกชน​รายใหญ่​ จึงตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใด เกษตรกรจึงมีสิทธิประกันสังคม​ ซึ่งหากจัดการจริงๆตนจะดำเนินการในฐานะประชาขน​ จะจัดการให้ถึงลูกถึงคน



ด้านการใช้ดุลยพินิจ​ นายชูวิทย์กล่าวว่า​ การใช้ทุกดุลยพินิจ​จะต้องตรวจสอบ มีหลักการ​ เหตุผล ไม่ใช่ใช้ดุลยพินิจส่วนตัว​ แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลา รวมทั้งองค์กรกลางต่างๆ ที่ถูกล่ามโซ่ไว้ จะต้องถูกตัดโซ่ทิ้ง ทั้ง ป.ป.ช.​ ,ป.ป.ง. , และป.ป.ส., การตรวจสอบดูแลพินิจต้องถูกตรวจสอบโดยรอบคอบ



ขณะที่เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนจะนำเอกสารหลักฐาน เรื่องคดีรถไฟฟ้าสายสีส้มว่ามีการลงคะแนน​ 27:23 ให้นายพีระพันธุ์รับทราบและให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา​ โดยขอให้จับตาดูว่าเป็นเช่นนี้หรือไม่​ ซึ่งต้องยอมรับว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มมีมูลค่าการวิ่งเต้นมหาศาล​ มาสู่กระบวนการทางการเมืองสีเทา ไล่ซื้อคนโน้นคนนี้ เข้ามาสังกัดพรรค​ ทำให้ไม่มีอำนาจต่อรองอตนมองว่ากระบวนการนี้ต้องเลิก ไม่เช่นนั้น การเมืองการปฏิรูปจะพูดได้แต่ปาก แต่บรรดา ส.ส.หรือผู้สมัครจะต้องมีอุดมการณ์เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนได้ร่างเอกสารตั้งแต่ต้นทาง​



โดยนายชูวิทย์​ ยืนยันว่า ตนไม่ใช่ข้าราชการ​ ไม่ได้เพิ่งมีการร้องเรียน​ และไม่ได้พึ่ง ป.ป.ช. แต่ตนจะเฝ้าเช้า​ เฝ้าเย็น นายกรัฐมนตรีเดินไปไหน​ ตนก็จะเดินรูดซิปให้ หากทนตนได้ก็ทนไป​ จะเห็นหน้าตนจนเบื่อ



พร้อมกับประกาศไว้ในบ้านนรสิงห์​ว่า อย่าเอาตนไปผูกพัน​กับการเมือง มีคนหวังเติบโตทางการเมือง​ เน้นเรื่องการทุจริตคอรัปชัน​ และการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคไหนจริงจัง​ พรรคไหนทุจริตคอรัปชั่น จะต้องพิจารณาพรรคนั้นและผมจะส่งสัญญาณไปยัง กกต. เนื่องจากพรรคการเมืองไปติดป้ายมีการสัญญา ให้โน่นให้นี่ หากทำได้แล้วนำเงินที่ไหน หากเป็นการนำเงินจากงบประมาณใช้เช่นนี้ก็มีการโกง จึงขอส่งสัญญาณไปยัง กกต.ว่าควรห้ามไม่ให้ทุกการเมืองมาสัญญา ประชาชนเบื่อจะเต็มทน​ การรับปากว่าจะทำให้ ใช้การคอรัปชั่นมาทำ เป็นวิธีการซ้ำซาก​ นักการเมืองเก่าอย่างตนรู้ทัน ทั้งหมดที่ตนพูดในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ได้ผลหรือไม่​ ขอให้ประชาชนเป็นผู้ให้คะแนนเอง



โดยนายชูวิทย์ยังกล่าวอีกว่า หากมัวแต่ร้องเรียนกระบวนการของตนจะไปถึงศาล​ จะทำอย่างไรต่อไปให้ถึงจะมีความยุติธรรมจริง​ หากให้ความยุติธรรมไม่ได้ก็ไม่สมควรดำรงความยุติธรรม เมื่อทุกคนเงียบเสียงกระซิบที่เบาก็จะทรงพลังที่สุด ทำลายระบบนี้ให้ได้ ตนพูดไว้เป็นเชื้อไฟ รุ่นต่อไปจะต้องสานต่อภารกิจนี้ ไม่เช่นนั้น ระบบของเราจะพัง ตนอยากเรียนว่าตนได้ทำหน้าที่ของผมเท่าที่จะทำได้ ตนเป็นเพียงบุคคลธรรมดาด่าผมผมหน้าด้าน วันนี้ถือว่าภารกิจของตนจบสิ้นแล้ว ด้วยพลังของประชาชนไม่ใช่พลังของผม ผมเป็นเพียงตัวแทน ผู้แทนนอกสภา แล้วเราจะมีสภาไปทำไม เลือกแบบนี้ไม่มีประโยชน์หากทำการเมืองแบบนี้อย่าทำดีกว่า ดังนั้นครั้งต่อไปในการเลือกตั้งที่จะประกาศจะตามล้างตามเช็ดตามผลาญ ให้พวกพรรคตระบัดสัตย์​ พรรคที่บอกว่าเป็นพรรคเทพจะต้องเป็นเทพจริงๆไม่ใช่เทพตระบัดสัตย์​ จะตามไปดูจดทุกอย่างในบัญชีหนังหมา​ จะตามล้างตามเช็ก​ อยากให้เห็นพลังประชาชนอย่างผมในสภามีคะแนนเยอะเท่าไร ฝ่ายค้านไม่แข็งแกร่งพอเราจะต้องอาศัยความแข็งแรงจากประชาชนเท่านั้น



ทั้งนี้ นายชูวิทย์ยืนยันว่า จะทำได้เท่าที่ทำ​ สุดที่ไหนสุดที่นั่น​ คุณเลือกแบบนี้มา​ ต้องไปย้อนคิดว่า 4 ปีเลือกแบบนี้มาเอง รัฐบาลเป็นอย่างไรประชาชนเป็นแบบนั้นเขาเลือกเขามาผมไม่ได้เลือกมาคนเดียวเสียเมื่อไหร่ แต่การเมืองในครั้งนี้ มันมีพรรคที่ชะตาถึงฆาต พรรคที่ชะตาดับ​ ชะตาขาด​ โดยเฉพาะกทม. ว่าคนไหนสร้างความเจ็บแค้นน้ำใจกับคนไทย คนไหนที่พูดโกหก ผมพูดได้หมด ประชาชนมีสิทธิถ้าจะพูดและส่ง และสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดังที่สุดที่นักการเมืองทั้งหลายจะกลัว



นายชูวิทย์กล่าวด้วว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการยื่นข้อมูลการทุจริตแก่นายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เป็นเพียงการพูด โดยขอให้ทำหนังสือชี้แจงมายัง ครม.ก่อนนัดสุดท้าย พร้อมกับระบุว่า​ ผมเล่นนอกเกม เพราะเล่นในเกมไม่ได้ เที่ยวนี้มันแน่ๆถึงไหนถึงกัน สุดที่ไหนสุดที่นั่น เพราะผมไม่มีอำนาจวาสนาไม่ได้ต้องการตำแหน่ง ขอให้ดูว่าชีวิตกับสู้จะต้องคู่กัน​ หากผมสู้แล้ว ผมจะไม่ถอย การต่อสู้ของภาคประชาชนนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ประชาชนต่อสู้ผิดวิธีประชาชนจะต้องมีวิธีในการต่อสู้แม้ว่าการต่อสู้จะใช้วิธีใต้ดิน บนดิน ทุกอย่างจะต้องใช้ให้หมด




ส่วนการที่เปิดข้อมูลในช่วงใกล้ยุบสภาฯทำให้หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าเกี่ยวกับการเมืองการเลือกตั้งหรือไม่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แล้วจะให้ตนพูดอย่างไร



เมื่อถามย้ำว่าข้อตกลงทั้งหมดเป็นการรับปากจากนายกรัฐมนตรีหรือไม่นายชูวิทย์ระบุ​ เมื่อเลขาฯรับปาก​ ก็เหมือนนายกฯรับปาก เพราะไม่สามารถทำงานได้คนเดียว การรับปากเที่ยวนี้เหมาได้ว่านายกฯต้องรับปากอยู่แล้ว พร้อมกับมองว่า ป.ป.ช.นั้น ไม่มีความหมาย



แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ