"บิ๊กตู่" ขอโทษชาวนครสวรรค์ที่มาช้า เหตุเครื่องบินขัดข้อง ต้องเปลี่ยนลำ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกฯ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามการบริหารจัดการน้ำฯ พื้นที่ จ.นครสวรรค์ และพิจิตร


โดยจุดแรกมาที่ สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด อำเภอเมืองนครสวรรค์ เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำตามนโยบาย "สี่แควโมเดล" โดยมีผู้บริหารข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง มารอต้อนรับ รวมถึง ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ 1 คน ที่ไม่ใช่ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ คือ นิโรธ สุนทรเลขา ที่มีกระแสข่าวจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มารับด้วย แต่เจ้าตัวยังคงปฏิเสธ ว่าไม่ขอพูดเรื่องของตัวเอง


ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีขาวทะเบียนนครสวรรค์ และเมื่อคณะนายกฯ มาถึงงานจุดแรก ทางจังหวัดนครสวรรค์ มีการจัดรำวงนครสวรรค์ ประกอบเพลงรำวงนครสวรรค์ ต้อนรับ ซึ่งเป็นเพลงเดียวกับที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รำร่วมกับชาวบ้านในการลงพื้นที่นครสวรรค์ ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อลงรถนายกฯ ได้พูดคุยกับนางรำ ว่า อากาศเย็นๆ นะ ขอให้ทุกคนสุภาพแข็งแรง เพราะถ้าชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) แข็งแรงประชาชนก็แข็งแรงด้วย พร้อมอวยพร ขอให้หมดทุกข์หมดโศก หมดโรค หมดภัย เราต้องรักกันให้มาก ๆ นะจ๊ะ


จากนั้นนายกฯ หันไปดูบึงบอระเพ็ด พร้อมถอดหน้ากากอนามัยและระบุว่า เห็นน้ำแล้วค่อยน่าหายใจ และพูดแซวชาวบ้าน ต่อว่าจิตใจดีหน้าตาก็จะสวยงาม ก่อนขอโทษว่าสาเหตุที่มาช้าเนื่องจากเครื่องบินมีปัญหา ทั้งนี้มีรายงานว่า เครื่องบินนายกฯ มีปัญหาจนเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนเครื่อง


จากนั้น พูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการที่มาต้อนรับ ว่า ขอให้ทำทุกอย่างตามระเบียบราชการ ตามนโยบายที่นายกฯให้ไว้ ซึ่งในเรื่องน้ำนายกฯ อยู่กับเรื่องเหล่านี้มา 8 ปีแล้วซึ่งตนเข้าใจทุกอย่างที่รายงานมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นหน้าที่ต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่าง ๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุด ต้องทำให้รอบคอบทุกเรื่อง พร้อมย้ำว่าการดำเนินการต่าง ๆ ตนไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งในพื้นที่ทั้งสิ้น เพราะมันต้องมีคนได้และคนเสีย เพราะฉะนั้นเมื่อทุกอย่างกลั่นกรองมาแล้วและนำเสนอสู่ ครม. ซึ่งการอนุมัติจากหรือไม่อนุมัติอยู่ที่ตน


โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนว่า มาเห็นรอยยิ้มค่อยใจชื้นหน่อย ได้เห็นน้ำเห็นอะไรต่างๆ เราก็สบายใจขึ้น คำว่าสบายใจคือธรรมชาติเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งสำคัญคือความก้าวหน้าในการพัฒนา ที่นี่บึงบอระเพ็ด หลายอย่างเราร่วมมือกันทำมาหลายปีแล้ว ผมก็อยู่กับท่านมาเข้าปีที่ 7 จะ 8 แล้ว เป็นระยะเวลาที่ค่อยๆ ดีขึ้น ค่อยๆ ทยอยดำเนินการเนื่องจากมีหลายอย่างในฐานะที่เราเป็นคนไทย เราต้องรู้จักประเทศไทยของเราว่าเป็นอย่างไร มีพื้นที่มีขนาดใหญ่ หากขาดอะไรนายกรัฐมนตรีต้องเข้าไปดูในรายละเอียดว่าส่วนไหนจะเติมอะไรลงไปได้บ้าง


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่าวันนี้ตนรู้สึก ดีใจว่ามานครสวรรค์แล้วได้รับการพัฒนามากพอสมควร ความสำคัญคือต้องเข้าใจปฏิบัติของประเทศ ท้องถิ่นเรา ไม่เหมือนต่างประเทศ คนไทยไม่เหมือนใครทั้งสิ้นในโลก ขอให้ภูมิใจ เวลารักเราก็รักกันจริงๆ แต่เวลาเกลียด ก็จะเอาให้ตาย ผมว่าไม่ใช่ เราต้องอยู่ให้ได้ นายกไม่อยากสร้างความขัดแย้งใครทั้งสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมได้พยายามอย่างยิ่งยวด


ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาหลายปีแล้ว นายกก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่ทำมาหลายปีเป็นสิ่งที่ทำมาแล้ว และต้องต่อเนื่องเพราะฉะนั้นเราต้องมีภูมิต้านทานตรงนี้พอสมควร ก่อนจะย้ำว่าตนรู้สึกดีใจ เช้าลงมาก็สัมผัสกับความอิจฉาอากาศประมาณ 20 องศา ก่อนที่จะถามประชาชนว่าชอบหรือไม่ คนต่างประเทศมาเที่ยวเขาก็ชอบ นักท่องเที่ยวก็มากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราต้องทำทั้ง 2 อย่างคือทำโครงสร้างพื้นฐานของเรา


นอกจากนี้จะต้องมีการพัฒนาระบบนิเวศ ต้องมีความรักความสามัคคี เคารพกฎหมายกระบวนการยุติธรรม จะทำให้ทุกคนมั่นใจว่า มาเที่ยวที่นี่แล้วปลอดภัยไม่มีปัญหา เราจำเป็นต้องอยู่กันแบบนี้ตนขอชื่นชม


โดยนายกรัฐมนตรียังกล่าวขอโทษประชาชนที่เดินทางมาช้า เนื่องจากเมื่อเช้าเครื่องบินมีปัญหานิดหน่อย ไม่สามารถขึ้นได้ ก่อนที่จะกล่าวติดตลกว่า หรือจะให้ผมเสี่ยงขึ้นมาเลยก็ได้ ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะได้จากประชาชน และนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้พวกผมทำงานด้วยความตั้งใจอยู่แล้ว แน่นอนว่าปัญหาเรายุบยิบไปหมด เดี๋ยวพอน้ำน้อยปีหน้าก็น้ำมาก กลับไปกลับมาอยู่แบบนี้เราจะต้องมีแผนการทำงานยุทธศาสตร์ชาติยุทธศาสตร์น้ำไว้ 10 ปี 20 ปี เดินทีละ 5 ปี ทำไมต้องซอยเป็น 5 ปี เนื่องจากว่ามีงบประมาณปีเดียว 3 ปี และ 5 ปี ซึ่งเราต้องเฉลี่ยแบ่งปันให้กับทุกกลุ่ม ต้องบริหารงบประมาณให้ดี


โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราต้องภูมิใจในความเป็นคนไทย มาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย สมัยพ่อแม่ปู่ย่าตายายกว่าจะส่งทอดมาให้เราแล้วเราจะส่งให้ต่อให้ลูกหลานคนไทยต้องภูมิใจในสิ่งที่เรามีอยู่แล้วเดิมต้องทำให้เดินหน้าไปได้ ไม่ใช่ไปล้มไปทั้งหมด จะให้ใหญ่โตทีเดียวคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องแต่งเติมให้แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือความคิดฝากทุกคนช่วยคิดด้วย ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงได้ท่ามกลางความขัดแย้ง หรือซากปรักหักพังของบ้านเมือง ตนขอฝากไว้


นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผมเป็นคนตั้งสทนช. มีกฎหมายรองรับ โดยได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ จะต้องเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีว่ามีงบประมาณหรือไม่ หลายปีที่ผ่านมาหากดูตัวเลขผมให้งบประมาณไปยังจังหวัดนครสวรรค์ 30,000 ล้านบาท ผมไม่อยากเปรียบเทียบกับใครทั้งสิ้น เราต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าได้ประโยชน์โดยตรง


หากเราเปิดตาเปิดใจให้กว้างจะเห็นว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะทั้งถนนไฟฟ้าประปาดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นเพราะพวกเราช่วยกันทำงาน ไม่ใช่ผมมาเอาดีใส่ตัว ไม่ใช่ผมให้ทุกคนรู้สึกดีไปกับผมด้วยเพราะเป็นกำลังใจให้กันในการขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่มีอะไรที่จะทำได้เร็ว เว้นแต่เรื่องที่พอจะแก้ได้เร็วที่สุดก็มีอยู่ แต่อะไรที่ต้องใช้เวลาเกิน 1 ปี 3 ปีก็ต้องว่ากันไปทยอยกันไป ทุกรัฐบาลจำเป็นจะต้องทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็จะต่อกันไม่ได้ เหมือนเราทำภาพใหญ่มา ก็จะต้องมีจิ๊กซอว์มาต่อกันให้เป็นรูปใหญ่ จึงจะสำเร็จในวันข้างหน้า อย่างที่เราคาดหวังและต้องการ


โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีใครจะทำอะไรหรือไม่ นายกพูดคนเดียวเหนื่อยแล้ว วันนี้ดีใจมาก แสดงว่ายังจำนายกได้คนเดิมแต่แก่ขึ้นหน่อย เดี๋ยวไปทักทายกันใกล้ ๆ ก็แล้วกันขอบคุณทุกคน ขอบคุณข้าราชการทุกหน่วยงาน ส.ส.ของใครผมไม่รู้ ส.ส.คือตัวแทนของท่านก็เลือกให้ดีก็แล้วกัน


ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ถามประชาชนว่าเหนื่อยหรือไม่ เธอเหนื่อยใจฉันก็เหนื่อยใจด้วย ถ้าเธอไม่เหนื่อยฉันก็ไม่เหนื่อย ฉันก็จะทำ ซึ่งประชาชนตะโกนว่าไม่เหนื่อยค่ะเป็นกำลังใจให้นายก นายกสู้ ๆ ค่ะ ซึ่งเรียกเสียงปรบมือให้กับประชาชนที่อยู่โดยรอบ และนายกฯชูสองนิ้วให้และกล่าวว่ารู้สึกดีใจว่ามีคนหนึ่งที่กล่าวว่ารักนายกอย่างน้อยก็ 1 คนไม่เป็นไร ผมแหย่เล่นไปอย่างนั้นแหละ คนเรามันอยู่ที่ใจ ความเชื่อมั่นความไว้ใจซึ่งกันและกัน ความจริงใจความบริสุทธิ์ใจทั้งหมดไม่สร้างปัญหาให้มันข้างหน้าสิ่งที่เป็นหลักการของตน อยากให้ทุกคนที่อยู่กับผมต้องทำงานแบบนี้ จะต้องไม่สร้างภาระในวันข้างหน้ามีแต่ก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องทำลายสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ตนขอฝากไว้แค่นั้นผมทำวันนี้เสร็จปีมาแล้ว ไม่ได้ทำเพื่ออะไร เพื่อผมสักอย่าง แต่ทำเพื่อลูกหลานของท่าน ทำมาตั้งหลายปีมาแล้วยังได้แค่นี้เอง เพราะฉะนั้นจะต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้ได้มากที่สุดและทำต่อไป หากใครได้มีโอกาสได้ทำ ผมไม่พูดอย่างอื่น ผมพูดไม่ได้


จากนั้นจังหวะที่พลเอกประยุทธ์ได้ เดินเข้าไปทักทายประชาชน บอกตอนเดินอยู่ตรงนั้นคนเดียว หนาว มาตรงนี้ทำไมถึงอุ่นไม่รู้ มาตรงนี้ก็อบอุ่น นายกฯก็อุ่นใจ พร้อมทักทายคนไทยที่ไปอยู่กับนอร์เวย์ โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษ ว่า Where are you from ก่อนที่ประชาชนจะตอบว่า from norway with you Husband. Business หรอ ก่อนที่ประชาชนจะตอบกลับ และนายกจึงกล่าวว่า อ๋อ Restaurant และร่วมถ่ายรูปด้วย พร้อมบอกคนบ้านเราที่ไปอยู่ประเทศนอร์เวย์ หนาว


โดยช่วงหนึ่งนายกฯได้กล่าวกับประชาชนว่าอย่าพูดบ่อย ว่าแก่ไม่แก่ ก่อนที่จะชี้มาที่ตัวเองว่าใจไม่แก่ พวกเราด้วย ทุกคนนั่นแหละ ถ้าใจไม่แก่ ก็พอจะสู้ได้หมดแหละ ก่อนที่ประชาชนจะกอดและมอบดอกไม้ มอบพวงมาลัย ให้จำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็กล่าวขอบคุณทุกคน คนเราประกอบด้วยอาชีพหลายฝ่าย คนไทยขยันเก่งทุกงาน บางนายังไม่แข็งแรงเข้มแข็งรายได้จึงไม่เพียงพอ ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป วันนี้มาทำระบบนิเวศต้องเข้าใจ คำที่นายกพูด เพราะระบบนิเวศของเราคือคนไทยน่ารัก คนต่างประเทศชมผมหมด ด้วยรอยยิ้มยิ้มสยาม แต่อย่าทำให้มันยิ้มสยองก็แล้วกัน ยิ้มให้กันจริงใจให้กันนะจ๊ะ ก่อนที่จะย้ำว่าวันนี้ผมมาในนามนายกรัฐมนตรี


ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้แนะนำรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ให้ชาวบ้านรู้จัก และรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลรายละเอียดปลีกย่อยต่อจากตน เลขานายกคุณพีระพันธุ์ และสส.เขต 3 นครสวรรค์ ก่อนที่จะแนะนำนายเสกสกลอัถาวงศ์ ว่าจะรู้จักหรือไม่คนนี้ใคร แรมโบ้มาช่วย แสดงให้เห็นว่านายกฯไม่ได้ขัดแย้งใครทั้งสิ้น พร้อมกับรายยังระบุอีกว่าแม้ว่าตนจะไม่ได้เดินทางมาแต่ก็ส่งใจมาทุกวัน ก่อนที่จะฟ้องประชาชนว่า สื่อมวลชนชอบทำรูปที่ตนโมโหมานำเสนอออกอากาศ ทำหน้าหล่อๆ เขาก็ไม่ค่อยเอาออกทีวี เขาเอารูปไม่หล่อมาออก ขอให้บอกสื่อเขาสิ หนูชอบเอารูปตอนฉันโมโห ความจริงใจดีจะตาย


ทั้งนี้มีประชาชนตะโกนถามทะเบียนรถนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผมยังไม่ได้ดูเลย ผมไม่ได้สนับสนุนอะไรอยู่แล้วนะ ไม่ใช่รถส่วนตัวผม ไปดูเองก็แล้วกัน


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมทอดมันกับชาวบ้าน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปลาจากบึงบอระเพ็ด ซ้อมถามว่าเหตุใดจึงเรียกทอดมันว่าปลาเห็ด ชาวบ้านจึงตอบว่า เพราะเวลาทอดจะบานคล้ายเห็ด นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวอีกว่านี่ผมรอให้ตอบแบบนี้ เป็นคำตอบที่ตรงใจ เพราะรูปร่างเหมือนเห็ด ผมถามหลายคนยังไม่รู้เลย ก่อนที่จะไปกิน ข้าวเหนียวลืมผัว อร่อยจนลืมสามี