เลือกตั้งและการเมือง

ร้อนฉ่า! แฉภาพสยิว ‘อดีตรองนายกฯ’ เป็นชู้เมียคนอื่น นักข่าวโทรถาม ลั่น “ขอให้จบและพอแค่นี้นะหนู”

โดย petchpawee_k

10 ม.ค. 2566

318 views

‘ทนายตั้ม’ เผยคำใบ้ ‘อดีตรองนายกรัฐมนตรี’ ถูกฟ้องเป็นชู้เมียคนอื่น เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย-อายุมาก-ชอบตีกอล์ฟ-แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ปี 61  ไม่ขอขอเปิดเผยชื่อตรง ๆ เกรงถูกฟ้อง หลังเป็นข่าวสามีถูกระราน พูดจาข่มขู่ ชายฉกรรจ์ชุดดำดักรอที่คอนโดฯ เผย อดีตรองนายกฯ มีพรรคพวกเยอะให้ระวังจะติดคุกตอนแก่


จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าเรื่องราวที่ผู้เสียหายขอคำปรึกษาทางกฎหมายในการฟ้องชู้ หลังพบภรรยานอกใจไปถ่ายภาพเปลือยคู่ เล่นสวาทกับ "อดีตรองนายกรัฐมนตรี"โดยได้เผยแชต ที่มีการอ้างว่าเป็นฝ่ายภรรยาของผู้เสียหายและอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งใช้สรรพนามแทนตัวกันว่า “ผัว-เมีย” พร้อม เผยคำใบ้ลงในไอจีสตอรี่ ตัวอักษร ย.


วานนี้ (9 ม.ค.) เวลา 10.00 น. สามี (นาย ก.) ได้เดินทางเข้าพบทนายตั้ม แต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยทนายตั้ม ได้แถลงเปิดเผยต่อสื่อว่า เรื่องนี้ผู้เสียหายได้มาปรึกษาตนตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2565 ว่าภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันมีท่าทีเปลี่ยนไป จึงสังเกตพฤติกรรม และได้ไปเจอแชตและรูปภาพในโทรศัพท์มือถือของภรรยา เป็นแชทที่พูดคุยกับชายอีกคนและมีภาพที่เป็นภาพโป๊ของทั้ง 2 คนหลายภาพถ่ายเก็บไว้

 โดย นาย ก. ผู้เสียหายทั้งเสียใจและช็อกมาก เพราะชายคนดังกล่าวเป็นที่รู้จัก โดยเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ผู้เสียหายบอกว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคม ปี 2565 เมื่อสอบถามภรรยา บอกว่าเพิ่งมีสัมพันธ์กันไม่นาน แต่ไม่ได้ถามว่ารู้จักกันได้อย่างไร แต่ภรรยาของผู้เสียหายทำงานอยู่ที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง และอดีตรองนายกรัฐมนตรีก็ทราบว่าผู้หญิงมีสามีอยู่แล้ว


โดยหลังจากผู้เสียหายมาปรึกษาตนว่าจะสามารถดำเนินการทางกฎหมาอย่างไรได้บ้าง ตนจึงได้แนะนำไป และรับเป็นทนายความให้ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องชู้สาว ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นเรื่องทางแพ่ง จึงได้มีการยื่นฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทนจากภรรยาไปแล้วที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา และศาลได้นัดครั้งแรกวันที่ 21 มีนาคม นี้


ซึ่งตอนแรกผู้เสียหายไม่ได้คิดจะให้เป็นข่าว แต่หลังจากนั้น ปรากฎว่าผู้เสียหายถูกระราน โดยหลังจากที่อดีตรองนายกรัฐมนตรีทราบว่า ผู้เสียหายทราบเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับภรรยาแล้ว จึงมีการตีตัวออกห่าง และยังได้แจ้งความกับฝ่ายภรรยาฐานฉ้อโกง กรณีที่ได้มีการให้ทรัพย์สินเงินทองไปช่วงที่มีความสัมพันธ์กัน จนได้มีการนัดกันไปพบตำรวจที่ สน.บางยี่ขัน ซึ่งอดีตรองนายกรัฐมนตรีน่าจะมีการใช้เส้นสายด้วย


โดยในวันนั้น อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาพร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์ และมาล้อมผู้เสียหาย พูดจาข่มขู่ ตำรวจก็ออกจากห้องไป และหลังกลับจากโรงพัก ก็ยังมีชายฉกรรจ์ชุดดำตามไปดักรอที่คอนโดฯ ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงมาปรึกษาตนอีกครั้ง แล้วอยากให้สื่อมวลชนทราบเรื่องนี้ และเรื่องที่เกิดขึ้น ตนได้ร้องเรียนไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วและเตรียมที่จะยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ด้วย


ส่วนการเปิดชื่ออดีตรองนายกรัฐมนตรีนั้น ทนายษิทรา บอกว่า ตนไม่สามารถเปิดเผยตรงๆ ได้ เพราะไม่อยากเสียเวลาในการถูกฟ้อง แต่ตนจะขอให้เป็นคำใบ้ว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนนี้ เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย เป็นคนอายุมากแล้วที่ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์


ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า ใช่คนที่ได้ออกมาปฏิเสธแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่ ทนายษิทรา ถามกลับว่า ได้มีใครออกมาปฏิเสธแล้วบ้าง ผู้สื่อข่าว ได้เอ่ยชื่อ นายปลอดประสพ สุรัสวดี - ทนายษิทราไม่ตอบ / ผู้สื่อข่าวเอ่ยชื่อต่อว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ - ทนายษิทรา ถามกลับว่า คุณยงยุทธเขาออกมาปฏิเสธหรอ เขาพูดแบบนั้นหรอ / ผู้สื่อข่าวเอ่ยชื่อต่อว่า นายยุคล ลิ้มแหลมทอง - ทนายษิทรา ตอบว่า ไม่เกี่ยว


จากนั้นทนายษิทรา กล่าวต่อว่า ลูกความตนเอง มีหลักฐานชัดเจน ทั้งแชทและรูปภาพ ซึ่งมีหลายรูปมาก บางรูปค่อนข้างอล่างฉ่าง ไม่สามารถเปิดเผยได้ และถ้าหลักฐานชัดเจนแต่ยังออกมาโกหก สังคมก็คงเชื่อถืออะไรบุคคลนี้ไม่ได้แล้ว นักข่าวถามว่าเป็นไปได้มั้ยที่ อดีตรองนายกฯ คนนี้มีอาการทางจิต ทนายตั้ม ตอบมีอาการทางจิตแล้วมายุ่งกับเมียคนอื่นน่าจะอ้างลำบาก


ทนายตั้ม ยืนยันว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนนี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ตามที่ถูกมุ่งเป้าไปและทางพรรคได้ออกมาแถลงข่าว โดยบุคคลนี้ไม่ได้สังกัดพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ปี 2561 และเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เกิดหลังจากออกจากพรรคเพื่อไทยมาแล้ว และตอนนี้บุคคลนี้ก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรทางการเมืองแล้ว


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันฝ่ายภรรยาของผู้เสียหาย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแล้ว และตอนนี้ผู้เสียหายอยู่ระหว่างการฟ้องหย่า ซึ่งที่ฝ่ายหญิงยังไม่ยอมหย่า ก็บอกว่าเพราะยังรัก ส่วนหลังจากเป็นข่าวไป ผู้เสียหาย ยังถูกข่มขู่อยู่เรื่อยๆ เพราะอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่มีพรรคพวกบริวารเยอะ ทนายตั้ม ยืนยันว่าสามารถที่จะตามหาจนเจอคนจ้างวานได้ ให้ระวังจะติดคุกตอนแก่ ส่วนตัวของตนเอง หลังจากเปิดเผยเรื่องนี้นั้น ยังไม่มีใครพยายามติดต่อมาแต่อย่างใด

-----------------------------------------------------

ภายหลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ออกมาแถลงปมอดีตรองนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของคนอื่น โดยบอกคำใบ้เป็นอดีตรองนายกฯ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีอายุมากแล้ว เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 51 และพ้นจากสมาชิกเมื่อปี 61 แล้วมาก่อเหตุปี 65


นักข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อักษรย่อ ย. ตามที่ทนายตั้มระบุ เมื่อถามว่ามีการโยงชื่อถึงท่าน ประโยคแรกที่อดีตรองนายกฯ ตอบกลับมา “ขอให้จบและพอแค่นี้นะหนู” แล้วก็กดวางสายทิ้ง นักข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามอีก ปรากฏว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ท่านนี้ไม่รับสาย


ขณะที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยกับ ข่าวสดออนไลน์ว่า ไม่เป็นไร ทราบเรื่องนี้หมดทุกอย่างแล้ว กำลังจัดการอยู่ โดยอยากให้พรรคเพื่อไทยขับทนายตั้มออกมาจากพรรค เพราะทนายตั้มเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ “เหตุการณ์ทั้งหมดยืนยันไม่ใช่ตัวเองแน่นอน เพราะอดีตรองนายกรัฐมนตรีมีตั้งหลายคน”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/dTasUxzBAuM

คุณอาจสนใจ

Related News