เลือกตั้งและการเมือง

ผบ.ทบ.ชี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ปมหักหัวคิว กู้ซื้อบ้านสวัสดิการทหารบก พร้อมจัดการคนผิด หากมีหลักฐาน

โดย thichaphat_d

21 ต.ค. 2565

32 views

ผบ.ทบ. ไม่กังวล ปมกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ ทบ. รับมีปัญหาหลังเหตุกราดยิงโคราช ก่อน ‘บิ๊กแดง’ สั่งยกเลิกกู้ อทบ.ให้กู้แบงก์แทน ย้ำเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่องค์กร ยืนยันลงโทษคนเกี่ยวข้องไปหมดแล้ว ส่วนที่ว่าทหารคุกคาม ให้นำหลักฐานมา จะจัดการให้


เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมคุณก้อย คุณเบิร์ด ผู้เสียหายได้เดินทางไปที่รัฐสภา ยื่นหลักฐานถึง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ให้ช่วยตรวจสอบกรณีกู้เงินซื้อบ้านสวัสดิการทหารบกของกำลังพล โดยมีหลักฐานเป็น 48 รายชื่อนายทหารตั้งแต่ระดับเสมียนถึงระดับนายพล ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิว 5% และหลักฐานที่เป็นสลิปโอนเงินให้นายพล

โดยนายณัฐชา บอกว่าเรื่องนี้ จะทำหนังสือเชิญ กระทรวงกลาโหมต้องออกมาพิสูจน์ความจริงต่อประชาชน ซึ่งกระบวนการเงินทอนเหล่านี้ก่อให้เกิดเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 ทำให้เกิดการทุจริตครั้งใหญ่ในทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเรื่องนี้จึงจำเป็นที่จะต้องเชิญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มาให้ข้อมูล

ขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการกู้เงินซื้อบ้านกับสวัสดิการกองทัพบก ภายหลังผู้ประกอบการยื่นหนังสือที่กระทรวงกลาโหมว่า เรื่องเงินกู้ในโครงการกู้ยืมออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก เพื่อการเคหะสงเคราะห์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ในส่วนของกองทัพบกได้ดำเนินการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

ขณะนี้กองทัพบกกำลังรวบรวมรายละเอียด เพื่อรายงานไปยังกระทรวงกลาโหม จากที่กองทัพบกได้สอบสวนพบว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้กระทำ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ร้องเรียน ทั้งในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และมีการดำเนินคดีในขั้นตอนของศาลแล้ว ถือเป็นเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้ประกอบการที่มีปัญหาการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการร้องเรียนกระทรวงกลาโหมถูกคุกคามว่า หากเป็นเรื่องจริงเขาต้องไปแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ หากระบุได้ว่ากำลังพลคนไหนคุกคามและมีหลักฐาน ก็ให้มายื่นที่กองทัพบก ตนจะให้ความเป็นธรรม และดำเนินการกับกำลังพลคนนั้น

เมื่อถามว่า ทางทนายและผู้ประกอบการมีรายชื่อของผู้เสียหายและรายชื่อผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการหักหัวคิว พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็ให้นำรายชื่อเหล่านี้ไปให้ดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่เห็นว่ามีใครบ้าง เพราะในส่วนของตนก็สอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้อง และถ้าเรื่องดังกล่าวถึงขั้นฟ้องศาลก็เป็นเรื่องของเขา กองทัพบกก็จะใช้โอกาสนั้นในการชี้แจง

ส่วนที่อ้างว่ามีทหารประมาณ 40 กว่าคนเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น คำว่าทหารในส่วนของกองทัพบกก็ดำเนินการในส่วนของกองทัพบก หากเป็นทหารในส่วนอื่น ส่วนที่เกี่ยวข้องก็ไปดำเนินการ สำหรับที่บอกว่า 40 คนได้ดีการเลื่อนยศขึ้นนั้น ขอถามว่าคนไหน ตนยังไม่ทราบ เพราะไม่เห็นรายชื่อก็บอกไม่ได้ ก็ต้องดูว่ารายชื่อที่เขากล่าวอ้างนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ เราต้องว่ากันตามหลักฐาน ไม่ใช่การกล่าวหา

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ยืนยันได้หรือไม่ ว่าไม่ได้มีการหัก 5% เข้ากรมสวัสดิการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า โครงการบ้าน กองทัพบกไม่ได้เป็นผู้สร้าง แต่อทบ.ของกองทัพบกมีไว้ให้กำลังพลมากู้เงินและไปซื้อบ้าน เพราะฉะนั้นเป็นการตกลงกันระหว่างคนซื้อ กับเจ้าของโครงการ ไม่ใช่ว่ากองทัพบกเป็นผู้สร้างขึ้นมา

เมื่อถามว่า แล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะกำลังพลต้องกู้เงินไปซื้อบ้านเรื่อยๆ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่มีแล้ว เรายอมรับว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่โคราช กองทัพบกก็ได้รับทราบว่ามีปัญหา และพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้นก็บอกว่า โครงการนี้เราต้องยุติ เพราะมีปัญหา ก็ยุติมาตั้งแต่ปี 2564 และมีการผ่านคณะกรรมการฯ ที่พล.อ.อภิรัชต์ ก่อนที่ท่านจะเกษียณฯได้เซ็นต์เอ็มโอยู กับธนาคารอย่างที่ตนบอกว่าโครงการบ้านเหล่านี้ กองทัพบกไม่ได้เป็นคนสร้าง เป็นคนภายนอก กำลังพลต้องไปกู้กับธนาคาร ซึ่งขณะนี้ไม่มีการกู้กับกองทัพบกมาตั้งแต่ต้นปี 2564

เมื่อถามว่า ต้องแก้ไขระเบียบหรือไม่ เพราะการลงโทษสถานเบาแค่ให้งดบำเหน็จและเอาออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. กล่าวว่า เราดำเนินการว่าด้วยระเบียบ กฎหมายของทหารในเวลานั้น ส่วนในอนาคตจะต้องมาพิจารณาเป็นเรื่องๆ เพราะระเบียบกฎหมายของทหาร มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนตามห้วงเวลาอยู่แล้วเพื่อให้ทันต่อสภาพแวดล้อม

เมื่อถามว่า นายกฯได้กำชับอะไรหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ ของทุกองค์กรที่จะต้องมีปัญหา และเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไขให้ได้ แค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าองค์กรเป็นคนทำ ยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไปตกลงกันเอง ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญไปชี้แจงนั้น ตนก็จะให้หน่วยที่รับผิดชอบไปชี้แจง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รู้สึกกังวลในกรณีที่เกิดขึ้น


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YCRnUPJZYVE

คุณอาจสนใจ

Related News