เลือกตั้งและการเมือง

'เสรีพิศุทธ์' ลั่น 'ศรีสุวรรณ' ถูกชกแค่สั่งสอน ด้านนักวิชาการ ชี้พฤติกรรม 'พี่ศรี’ เหมือนฆ่าคนทั้งเป็น

โดย petchpawee_k

20 ต.ค. 2565

1.3K views

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกทำร้ายร่างกายขณะให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ายื่นคำร้องให้ตรวจสอบการแสดงเดี่ยว 13 ที่มีการพูดพาดพิงรัฐบาลว่า


ตนมองว่าการที่นายศรีสุวรรณยื่นร้องเรียน ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ายื่นผิด ยื่นพลาด ยื่นร้องเท็จก็ถูกดำเนินคดีต่อไป บางคนอาจจะไม่คิดอะไร แต่บางคนคิดและอยากสั่งสอนบ้าง จึงอาจเกิดเหตุการณ์ชกต่อยกันขึ้น


จะเอาอะไรมาวัดถึงความรุนแรง สำหรับตนการชกไม่ใช่ความรุนแรงเป็นการสั่งสอน แต่ถ้าใช้ความรุนแรงคือใช้มีด ใช้ไม้ ใช้ปืน แต่ในกรณีนี้ตนเห็นว่าคนกระทำสูงอายุแล้ว อีกทั้งยังชกไม่เป็น ตนเองก็เคยสั่งสอนนายศรีสุวรรณด้วยการใช้กฎหมาย การฟ้องคือฟ้องด้วยอาญาและแพ่ง พร้อมทั้งเสนอยุบสมาคมเพื่อหยุดการยื่นร้องเรียนไปเรื่อยของนายศรีสุวรรณ แต่คนอื่นอาจจะมีการหยุดนายศรีสุวรรณที่แตกต่างจากตน


ส่วนที่ในโลกออนไลน์ถูกใจกับการที่นายศรีสุวรรณถูกชกนั้น สังคมเป็นแบบนี้ ก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ในระบอบประชาธิปไตย เขาอาจจะชกผิดคนก็ได้ คนที่ควรจะให้ชกก็มีแต่อยู่ในทำเนียบ ถ้าเขาชกคนนั้น รับรองคนไทยยิ่งสรรเสริญ


ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาสวนกลับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่า คำพูดของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คือหลักฐานชัดเจนว่า จริงๆ แล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชอบใช้ความรุนแรงใช่หรือไม่ จึงมองว่าการชกไม่ใช่ความรุนแรง แต่เป็นการสั่งสอน ทั้งๆ ที่การสั่งสอนนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง และการออกมาพูดแบบนี้ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นถึงประธานกรรมาธิการฯ นั้นเหมาะสมหรือไม่ ยิ่งการบอกว่าอาจชกผิดคนก็ได้ คนที่ควรชกอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ถ้าชกคนนั้น รับรองคนไทยยิ่งสรรเสริญนั้น ยิ่งชัดเจนว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์สนับสนุนการทำร้ายร่างกายโดยไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ในทำเนียบแล้วคนแบบนี้ประชาชนควรจะให้โอกาสในการเลือกตั้งสมัยหน้าอีกหรือ

--------------------------------------------------------

นักวิชาการ มธ. ชี้ พฤติกรรม 'ศรีสุวรรณ' รุนแรงกว่าการต่อยหน้า

เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเคยถูกนายศรีสุวรรณ ฟ้องดำเนินคดี กรณีอาจารย์โพสต์เรื่องการต่อต้านรัฐบาลด้วยการนัดหยุดงานทั่วประเทศ เมื่อ ปี 2564 เป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีที่นายศรีสุวรรณ ถูกทำร้าย ระบุว่า


 "ในฐานะคนเคยโดนศรีสุวรรณไล่ฟ้องเรื่อยเปื่อย จนส่งผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพ ไม่มีใครติดตามว่าหลังจากศรีสุวรรณยื่นฟ้อง เรื่องนี้เป็นเท็จจริงอย่างไร คนที่ไม่ได้ติดตามหลายคนก็ไม่รู้ เพราะมีแต่ข่าวนี้ลง


ผมถูกแหล่งทุนปฏิเสธ มีการยกเลิกการบรรยายพิเศษ ฯลฯ คนในครอบครัวเกิดความกังวลต้องคอยรับสายโทรศัพท์ จากการฟ้องเรื่อยเปื่อยที่เลือกคดีโทษสูงแบบไร้มูลเพื่อให้เป็นข่าว ฟ้องคนไปทั่ว


ผมพูดตรงๆ ว่าสิ่งที่ศรีสุวรรณ ทำกับผมและหลายคน รุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่บ่อยครั้งมันฆ่าคนทั้งเป็น เหมือนวิทยุยานเกราะช่วง 6 ตุลา เหมือนความเห็นทางการเมืองของทมยันตี และฝ่ายขวาอีกหลายคน พวกนี้ก็อาจไม่เคยฆ่ามดสักตัว แต่ความเห็นของพวกเขาก็นำสู่ความเกลียดชังมากมาย


ผมโกรธและเกลียดเขามาก ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักอะไรกัน หน้าที่การงานไม่เกี่ยวกัน และผมก็ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองอะไร แต่ก็ยังอุตส่าห์ผูกกรรมต่อกัน


แต่ช่วงต้นปีผมได้ยินข่าวเขา จึงตัดสินใจให้อภัยเขาเห็นแก่ว่าเขามีลูกเพิ่งเกิดและวันหนึ่งเขาก็จะเข้าใจว่าเรื่องสังคมที่เท่าเทียมและรัฐสวัสดิการที่ผมเรียกร้องสำคัญอย่างไร ที่คนจะมีชีวิตอย่างเท่าเทียม

อาจารย์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นการใช้ความรุนแรงทางกายภาพ แต่ก็เห็นว่าพฤติกรรมของนายศรีสุวรรณ ที่ "ฟ้องแบบเหวี่ยงแห" ก็คือความรุนแรงอีกรูปแบบหนึ่ง การใช้ความรุนแรงที่เรามองไม่เห็น การสร้างความเกลียดชัง และสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง


อาจารย์ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่ตนถูกนายศรีสุวรรณฟ้อง เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความผิด แต่ที่ผ่านมาไม่เคยถูกเรียกตัวไปดำเนินคดีแต่อย่างใด แต่ก็ส่งผลกระทบกับการประกอบอาชีพของตน ทำให้ถูกแหล่งทุนปฏิเสธ มีการยกเลิกการบรรยายพิเศษฯลฯ คนในครอบครัวเกิดความกังวลต้องคอยรับสายโทรศัพท์ จากการฟ้องเรื่อยเปื่อยที่เลือกคดีโทษสูงแบบไร้มูลเพื่อให้เป็นข่าว ฟ้องคนไปทั่ว


 "ผมพูดตรงๆ ว่าสิ่งที่ศรีสุวรรณ ทำกับผมและหลายคน รุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่บ่อยครั้งมันฆ่าคนทั้งเป็น"
--------------------------------------------------------------


ขณะที่เฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้ออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ระบุว่า "ความรุนแรง? คนดีของอีกคน อาจเป็นคนเลวของอีกคนก็ได้ คนดีมักถูกยกย่องจากฝั่งเดียวกันเอง ส่วนอีกฝั่งมักมองเป็นคนเลว เป็นเรื่องปกติทางการเมือง

ความรุนแรงทางการเมืองมีหลายระดับ ด่ากันในสภา จนชกกันก็มี ผู้นำม็อบปลุกระดม จนคนฟังของขึ้น ไปปิดโน่นพังนี่ ก่อความเดือดร้อนให้บ้านเมือง นี่ก็ถือเป็นความรุนแรงรูปแบบหนึ่งเช่นกัน


ตอนนั้นชื่นชมบอกเป็นคนดี แต่ตอนนี้กลายเป็นคนเลวไปเสียแล้ว ส่วนคนเลว สักพักดันกลับกลายเป็นคนดี เพราะมีชาวบ้านเลือกเข้าสภาเป็นผู้ทรงเกียรติ จึงหาคำจำกัดความคำว่า “คนดี” ในทางการเมืองยาก

คุณศรีเป็นนักร้อง ที่ร้องเรื่องฝั่งตรงข้ามอยู่เป็นประจำ จึงมีคนอดรนทนไม่ไหว อย่างที่ผมพากย์ขอบสนามมวยตู้ บางคนเขาดรามาบอกว่าไป “สนับสนุนความรุนแรง”


จึงขอทำความเข้าใจว่า ความรุนแรงมีหลายประเภท ทั้งคำพูด และการกระทำ บางครั้งเรียกว่า “บันดาลโทสะ” พูดจากวนอารมณ์ ท้าทาย ไม่ให้เกียรติ ก็ถือว่า ปลุกอารมณ์ทางวาจาให้เกิดความรุนแรง

อย่างกระผมก็เคย ศอกพิฆาตกลางห้องส่งรายการทีวีมาแล้ว หลังถูกกวนอารมณ์ ชวนทะเลาะมากกว่าชวนสัมภาษณ์ เลยใส่ศอกเข้าให้ เพราะคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ อันนี้ผมก็ผิด ยอมรับว่าบันดาลโทสะ แต่ใช่ว่าจู่ๆ ไปใช้ความรุนแรงเสียที่ไหน? มันต้องถูกยั่วยุ


ส่วนการถือเอกสารร้องออกสื่อไปทั่ว โหมกระหน่ำนำเสนอข่าวว่าเขาเป็น "คนเลว" โดยไม่รู้ว่าท้ายสุดเขาทำผิดจริง หรือเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์ แบบนี้ก็เป็น "ความรุนแรง" อีกรูปแบบหนึ่ง ทำลายชีวิตคนโดยเอากระดาษ และสื่อ เป็นอาวุธใช้ “กฎหมาย” รังแก สร้างความรุนแรงต่อชีวิตผู้อื่น


คนชกแกคงทนไม่ไหว เพราะแม้คุณศรีไม่ได้ใช้ความรุนแรงทางเชิงมวย แต่แกก็แรงไม่เบาเรื่องบู๊ล้างผลาญยื่นร้องไม่ยั้งแทบทุกเรื่องเหมือนกัน ดังนั้น เข้าทำนอง “ขิงก็รา ข่าก็แรง” ของแรงด้วยกันทั้งคู่


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/DBCR1deQGZo

คุณอาจสนใจ

Related News