เลือกตั้งและการเมือง

“หมอสุกิจ” ป้อง "ชวน" ไม่ได้อยู่เบื้องหลังคว่ำร่างกัญชาฯ ชี้ “หมอฉันชาย” เข้าพบ เพราะห่วงช่องว่าไม่มีกม.ควบคุม

โดย paranee_s

19 ก.ย. 2565

46 views

วันนี้ (19 ก.ย.2565) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อยู่เบื้องหลังการคว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ว่า เป็นข่าวเท็จ ไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด แต่เป็นการจับแพะชนแกะว่า นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาเข้าพบประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ….


หลังจากนั้น นพ.ฉันชายได้พูดคุยกับ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ว่ากฎหมายดังกล่าวจะไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งเป็นการพยายามสื่อความหมายว่านายชวนจะยับยั้งกฎหมายฉบับนี้ ขอชี้แจงว่า ไม่เคยยับยั้งกฎหมายใด ๆ รวมทั้งกฎหมายฉบับนี้ด้วยเช่นกัน มีแต่จะเร่งร่างกฎหมายต่าง ๆ เข้าสู่วาระการประชุมให้สภาพิจารณาโดยเร็ว เพื่อจะได้ผ่านไปเป็นกฎหมายและเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง และ ทันทีที่ กมธ.ส่งมายังสภานายชวนก็รับบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมโดยเร็ว ซึ่งนายปานเทพก็ได้เห็นแล้ว และได้เข้าร่วมประชุมสภาด้วย


"ต้องขอความเป็นธรรมต่อ นพ.ฉันชาย ว่าท่านไม่ได้เข้าพบประธานสภาฯ เพื่อขอให้มีการยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว แต่เป็นการเข้าพบเพื่อแสดงความเป็นห่วงว่า เมื่อ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 และประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลบังคับใช้ จะมีการถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ประเภท 5 และไม่มีกฎหมายใด ๆ มารองรับทำให้เกิดช่องว่างที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมการใช้กัญชาได้เลย ในฐานะที่ท่านเป็นแพทย์ ซึ่งมีความรู้เรื่องคุณและโทษของกัญชา จึงมีความเป็นห่วงว่าจะมีการนำเอากัญชาไปใช้ในทางที่ผิด และความจริงท่านมีท่าทีเหมือนต้องการให้เร่งออกกฎหมายมารองรับโดยเร็วเสียด้วยซ้ำ"


ส่วนกรณีที่บอกว่า ปกติเวลามีร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่สอง ประธานสภาฯจะเรียก กมธ.ไปชี้แจงสรุป แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ “หน้าห้อง” ของประธานสภาผู้แทนราษฎร โทรศัพท์แจ้งว่าไม่ต้องมาชี้แจงนั้น ตนขอเรียนว่า ปกติตนในฐานะที่ปรึกษาประธานสภาฯ ซึ่งท่านได้มอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการประชุม จะเป็นคนเชิญเจ้าหน้าที่ กมธ.ที่เกี่ยวข้องมาสรุปให้ประธานสภาฯรับทราบจริง แต่ไม่ได้เชิญทุกฉบับ โดยจะเชิญมาเฉพาะบางฉบับ เช่น ฉบับที่ผ่านเข้าสู่สภาในวาระที่สอง แล้วเกิดปัญหาจนคณะ กมธ.ต้องขอนำไปพิจารณาใหม่ เหมือนกรณีร่าง พ.ร.บ.กองทุนกยศ.หรือฉบับที่มีการแก้ไขของวุฒิสภาแล้วส่งกลับมา เหมือนกรณีร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย เป็นต้น


ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ตนเห็นว่าผ่านการพิจารณาในวาระที่หนึ่งมาด้วยความเรียบร้อย ก่อนหน้าที่จะพิจารณาก็ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้าหน้าที่ กมธ.มาชี้แจง


การกล่าวหาว่าประธานสภาฯ ผู้ที่พูดว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภากลับกระทำตรงข้าม ล้มล้างกฎหมายที่ตัวเองสั่งบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ไม่ให้พิจารณาในวาระที่สองและสาม นั้น เป็นการหาที่รุนแรงและไร้เหตุผล ถ้าท่านมีเหตุผลจริงก็ควรถาม ส.ส.ที่ลงมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ว่าได้รับคำสั่งจาก นายชวน โดยเฉพาะตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ นายชวนไม่ได้นั่งเป็นประธานการประชุม แต่ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม คือ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ขอให้ท่านลองไปสอบถามท่านดูว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งให้ทำอย่างที่มีคนกล่าวหาหรือไม่

คุณอาจสนใจ

Related News