ผบ.ทอ. ขอบคุณ "นายกฯ -รองนายกฯ -กมธ.งบฯ" ดัน F-35 ผ่านสภาฯ เปิดสเปก ผบ.ทอ.คนใหม่ สานต่องานได้

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2565 พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประดับปีกนักบินใหม่ 33 นาย ว่า ถือเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของกองทัพอากาศ ซึ่งนักบินเหล่านี้ในอนาคตจะเติบโตได้รับการคัดเลือกไปเป็นนักบินรบ บางส่วนเป็นนักบินลำเลียง และนักบินเฮลิคอปเตอร์ หากว่าเราดำเนินการสำเร็จในขั้นตอนต่อไปเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน F-35 A นักบินเหล่านี้จะมีอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจเป็นนักบิน F-35A ในอนาคตก็ได้ และบางส่วนเป็นนักบินที่บินกับเครื่องที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีอายุใช้งานพอสมควร


ทั้งนี้ขอย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินเก่าหรือใหม่ล้วนแล้วแต่เป็นของประชาชน กองทัพอากาศ เป็นเพียงผู้ดูแลรักษา ใช้งานให้เกิดความยั่งยืน และปลอดภัยในการบิน มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับภาษี ตนต้องขอขอบคุณต่อการตัดสินใจอนุมัติงบประมาณเบื้องต้น จัดซื้อเครื้องบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ เนื่องจากมีขั้นตอนและกระบวนการยากลำบาก หลังจากนี้ไปเมื่อรัฐบาลอนุมัติงบประมาณ จะเป็นขั้นตอนเหนือขึ้นไปกว่ากองทัพอากาศ เป็นเรื่องของรัฐบาล และที่สำคัญที่สุดคือประชาชน หากได้รับการสนับสนุนทั้งประเทศหนุนหลังรัฐบาล ในการเจรจา จะทำให้มีโอกาสมากขึ้น อย่างไรก็ตามขอขอบคุณ นายกฯ รองนายกฯ คณะกรรมาธิการงบประมาณ


เมื่อถามว่าในระหว่างนี้เตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า เราได้หาข้อมูลพอทราบว่าต้องเตรียมการพอสมควร ในส่วนของเครื่องบินมีระบบที่แตกต่างพอสมควร ต้องศึกษาหาความรู้ ทั้งนี้ร้องขอไปทางสหรัฐ ส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำกับกองทัพอากาศไทย และทางกองทัพอากาศสหรัฐ รับปากว่าจัดส่งทีมมา คาดว่าปลายปี 2565 ตนก็เกษียณอายุราชการไปแล้ว คงต้องฝากการต้อนรับ การดำเนินการต่างๆ ไว้กับ ผบ.ทอ.คนใหม่ ที่จะมาแทน ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นว่าการเตรียมการเพื่อให้เห็นถึงความพร้อมของเรากระบวนการต่างๆ ทั้งด้านงบประมาณ การสนับสนุนประชาชน จะมีส่วนในการพิจารณา ตกลงใจก่อนที่สภาคองเกรสจะตอบรับหรือปฏิเสธ


"ก่อนหน้านี้จะมีประชาชนทั้งสนับสนุน และไม่เห็นด้วยต่อการจัดซื้อ F-35A ที่ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว แต่ขณะนี้มาถึงขั้นที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อให้ได้ของดี ที่จะสะท้อนกลับไปยังลูกหลานของเรา ประเทศชาติบ้านเมือง ผมอยากชวนเชิญทุกคนร่วมกับทอ.เตรียมรับ หากว่าได้จะเป็นผลดี หากไม่ได้ค่อยว่ากันใหม่" พล.อ.อ.นภาเดช กล่าว


เมื่อถามว่า มีความมั่นใจต่อการตัดสินใจของสภาคองเกรสอย่างไร พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า ตอบยาก เพราะมีปัจจัยทางด้านการเมือง การต่างประเทศ เข้ามาเกื้อหนุนพอสมควร เราทำเต็มที่ในส่วนของเรา


เมื่อถามว่าระหว่าง สภาคองเกรส กับเสียงสนับสนุนของคนไทย สิ่งไหนเป็นปัจจัยจะผลักดันให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ สภาคองเกรส เพราะมีมาตรฐานพิจารณาที่เป็นระบบ จะดูอะไรหลายอย่าง แต่เราจะพยายามทำในส่วนที่ทำได้ให้ดี เมื่อเขาพิจารณาประกอบสถานการณ์ต่างประเทศแล้วจะออกมาเป็นคำตอบ ที่จะบ่งบอกอะไรหลายๆ อย่างๆ


เมื่อถามคนที่จะมาสานต่อโครงการ F-35A ได้วางหลักการไว้อย่างไร พล.อ.นภาเดช กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ และขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจในแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ในใจก็มีชื่ออยู่แล้ว และไม่ได้มีแค่เพียงคนเดียว แต่เป็นกลุ่มบุคคล เพราะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น ขอให้ใจเย็น อีกไม่กี่วันน่าจะทราบ เพราะตนลำบากใจเหมือนกัน


เมื่อถามว่า ปัจจัยที่ใช้ตัดสินใจคืออะไร พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า คนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือก ต้องมีความรู้ ความสามารถ ในระดับที่มีผลงาน นั้นมีอยู่แล้วทุกคน แต่สิ่งสำคัญต้องสามารถสานต่องานที่ทำค้างไว้ได้


เมื่อถามย้ำว่าต้องสานต่อโครงการ F-35A ด้วยหรือไม่ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า F-35A เป็นโครงการใหญ่ มีความสำคัญ ที่ตัดสินหรือชี้ชะตาประสิทธิภาพ หรือ ด้อยประสิทธิภาพ ความทันสมัย ล้าสมัย ทอ. แน่นอน ต้องมีผลในการพิจารณาตัวบุคคล เป็นนักบิน แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักบินขับไล่ เป็นใครก็ได้ที่ตนเชื่อมั่นว่า เขาจะนำพา ทอ.ไปสู่ ทอ.ที่มีคุณภาพ ส่วนต้องผ่านจากการเป็นผู้ฝูง ผู้การกองบิน ผู้ช่วยทูตทหาร หรือไม่นั้น ถือเป็นเพียงองค์ประกอบย่อย


เมื่อถามว่า หากรัฐบาลเปลี่ยนชื่อ ผบ.ทอ.คนใหม่ที่ได้เสนอไป จะส่งผลต่อโครงการ F-35A หรือไม่ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนคาดเดาไม่ได้ แต่พอถึงจุดนี้เชื่อว่าคนไทยอยากได้ของดี แต่ใครก็ตามที่ย้อนกลับไปในสิ่งที่ด้อยกว่า เป็นการทำร้ายตัวเอง


เมื่อถามว่า ท่าทีของจีนต่อรัฐบาลมีผลต่อการตัดสินใจสภาคองเกรสหรือไม่ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ


นอกจากนี้ พล.อ.อ.นภาเดช ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นถึงความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวัน ระบุเพียงสั้นๆ ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายนอกประเทศ และเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหว ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในบทบาทที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องเหล่านี้


นอกวงสัมภาษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้ไหว้พระ บอกกล่าวคุณพ่อ ผู้ล่วงลับ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ หรือไม่ หลังสานฝันเสนอโครงการเครื่องบิน F35 สำเร็จ พล.อ.อ. นภาเดช กล่าวว่า เมื่อคืน ได้ฝันถึง