อัยการแจงคดี GT200 จบนานแล้ว 'อ.เจษฎ์' ชี้มีประโยชน์แค่ใช้ 'ตักขี้แมว'

อัยการแจง คดี ‘GT200’ จบนานแล้ว ศาลปกครองสั่งเอกชนจ่ายกองทัพบกกว่า ร้อยล้าน เพราะเครื่องไม่มีประสิทธิภาพ ยืนยัน ให้คำแนะนำไปตรวจสอบเครื่องจริง เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพในการต่อสู้คดี

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผย กรณี พล.อ. คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาระบุว่า  ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นให้กองทัพบกดำเนินการตรวจเครื่อง จีที-200 ที่ไม่สามารถใช้งานได้ทุกเครื่อง จำนวน 757 เครื่อง เพื่อใช้สู้คดีในศาลปกครอง ต่อมาพบว่า มีการว่าจ้าง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.เป็นเงิน 7,570,000 บาท

รองโฆษกอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า รายละเอียด เรื่องนี้สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับหนังสือจากกองทัพบก 

วันที่ 13 มกราคม 2560  ขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดอัยการยื่นฟ้องบริษัท เอวิเอ แขทคอม ผู้ถูก

ฟ้องที่ 1 กับพวก กรณีการจัดซื้อขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที่-200 รวม 12 สัญญา วงเงิน 683,900,000 บาท ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบให้สำนักงานยการคดีปกครองเป็นผู้พิจารณายื่นฟ้องคดีและได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการคดีปกครอง 5 เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน

วันที่ 24 มกราคม 2560   ยการมีหนังสือให้กองทัพบกดำเนินการส่งเครื่อง จีที่-200 ไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมดรวม 757 เครื่อง เพื่อที่จะทราบว่าเป็นของที่ไม่มีคุณสมบัติตามสัญญาจริง

ซึ่งการส่งไปตรวจนี้ ถือเป็นสาระสำคัญ ในการต่อสู้คดี เนื่องจากอัยการไม่ได้มีความรู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องนี้ จึงให้ไปตรวจสอบ ประสิทธิภาพของเครื่อง ก็เช่นเดียวกับคดีอื่นๆ เช่น ตำรวจจับชายเสพยาเสพติด เม็ดสีส้มมา ก็ต้องไปตรวจว่าเม็ดยาสีส้ม คือยาะไร เป็นสารเสพติดชนิดไหน

กรณีเครื่องจีที-200 ก็เช่นกันต้องไปตรวจอย่างละเอียด เพราะเป็นประเด็นถือว่าเป็นข้อแพ้ชนะคดี แต่รายละเอียดตรวจเครื่อง ให้หน่วยงานใดตรวจ และใช้งบประมาณเท่าไหร่ ส่วนนี้อัยการไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นการดำเนินการของกองทัพบก

วันที่ 27 เมษายน 2560 อัยการสำนักงานคดีปกครอง 5 ได้ยื่นฟ้องบริษัทเอวิเอ แซทคอม, นายสุทธิ

วัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารบริษัท เอวิเอฯ /ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้ค้ำประกัน (วงเงิน 56 ล้านบาทเศษ)/ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะแบงก์การันตี (วงเงิน 6 ล้านบาทเศษ) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 โดยอัยการได้ยื่นฟ้องทุนทรัพย์ทั้งหมด 687,691,975 บาท

วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีโดยให้เหตุผลเนื่องจากขาดอายุความ

วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีที่อัยการยื่นอุทธรณ์ว่าคดีไม่ขาดอายุความ พร้อมสั่งให้ศาลปกครองกลางรับคดีไว้พิจารณา

วันที่ 1 มีนาคม 2565 อัยการคดีปกครองยื่นอุทธรณ์ โดยขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (เจ้าของบริษัทเอกชน) ที่ศาลยกฟ้อง ให้ร่วมรับผิดกับผู้ถูกฟ้องที่ 1

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ถูกฟ้องที่ 1 (บริษัทเอกชน) ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์

วันที่ 7 มีนาคม 2565 ศาลปกครองสูงสุดอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดี คดีจึงเป็นอันถึงที่สุด ที่ให้บริษัทเอวิเอ แซทคอมฯ ชำระเงินให้กับกองทัพบก 683,441.561 บาท ตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง

คดีนี้ที่เหลืออยู่ ในศาลปกครองสูงสุด จึงมีเพียง 2 ประเด็น คือ  สรุปการตรวจเครื่อง จีที-200 คคีสิ้นกระแสความแล้ว และแจ้งผลให้กองทัพบกตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 64 แล้ว ถือว่าเป็นการชนะคดี   ส่วนการที่นำมาเป็นประเด็นในการอภิปรายในการใช้งบประมาณนั้น ทางอัยการไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง   และไม่แน่ชัดว่า งบประมาณในการตรวจเครื่องนั้น เป็นงบที่ตรวจในอดีต หรือเป็นการตรวจซ้ำ ซึ่งต้องรอกองทัพเป็นคนชี้แจง

----------------------------------------------------------------------------

อาจารย์เจษฎ์ เผย ค่าตรวจเครื่องจีที200 เครื่องละ 1 หมื่นบาท ไม่แพง แต่ไม่สมควรตรวจเพราะผลตรวจปี 2555 ก็ใช้ได้ ระบุเป็นการใช้งบซ้ำซ้อน


ศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (อ.เจษฎ์) อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ระบุว่า การตรวจสอบเครื่องจีที-200 หากใช้วิธีการแงะ แกะเครื่องออกมาก็แทบจะไม่ต้องใช้งบประมาณอะไรเลยเพราะแกะเครื่องออกมาก็เห็นแล้ว ไม่มีอะไรในเครื่อง

แต่กรณีนี้ต้องตรวจค่าไฟฟ้า  /สนามแม่เหล็ก /และรายละเอียดอื่นๆ ในราคาค่าตรวจ 1 หมื่นบาทต่อเครื่องนั้นไม่ถือว่าแพง แต่ไม่ควรมาเสียค่าตรวจซ้ำ เพราะมีผลตรวจตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งมีการตรวจพิสูจน์เครื่องเหมือนกัน  ซึ่งอาจารย์เจษฎ์ บอกว่า ก็น่าแปลกใจ ทำไมถึงไม่ใช้ผลตรวจนี้ ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องเดียวกัน แต่กลับนำไปตรวจใหม่ เป็นการใช้งบประมาณซ้ำซ้อน  

ขณะที่เมื่อวาน  อ.เจษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า “ บางท่านถามว่า กองทัพมี GT200 ตั้งเจ็ดร้อยกว่าเครื่อง ถ้าผ่าตรวจหมด ก็ใช้งานไม่ได้อีกแล้ว (จริงๆ มันก็ใช้งานไม่ได้อยู่แล้ว) จะเอาไปทำอะไรดี ผมว่าเอาไปขายเป็น “ที่ตักขี้แมว” แบบ limited edition ก็น่าจะเวิร์คนะครับ ฮะๆๆๆ” 

------------------------------------------------------------------------

ด้าน นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กล่าวหลังจากได้ฟังโฆษกอัยการสูงสุด ชี้แจงว่าคดีมันสิ้นกระแสความแล้ว และแจ้งผลให้กองทัพบกทราบตั้งแต่ วันที่ 8 ก.ย.64 แล้วไม่มีความจำเป็นต้องไปตรวจอะไรอีกนั้น

ตนมองว่าที่โฆษกกระทรวงกลาโหมชี้แจงเป็นเรื่องโกหก เพราะสำนักงานอัยการสูงสุดเขาแนะนำไป เพิ่งจะมาตั้งงบฯ อะไรปี 65 ถ้าจะบอกว่าเป็นงบฯค้างท่อ ก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้อยู่ในเอกสารงบประมาณ ถ้าเอาผลตรวจไปสู้คดีไม่มีใครว่า แต่นี่แอบทำอย่างนี้ คือโกหกชัดเจนหรือไม่

พร้อมกับตั้งคำถามว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นทั้งนายกฯ เป็นทั้งผู้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหมถึงเงียบ ไม่ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ ขณะที่ ป.ป.ช.ตอนนี้ยังมีเหลืออีก 5 คดีที่ยังค้างคาอยู่และมีการเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนดหรือไม่อย่างไร  

และสุดท้ายทำไมกระทรวงกลาโหมถึงไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประเทศอังกฤษตั้งแต่แรก ประเทศอื่นเรียกค่าเสียหายและได้เงินคืนมาบ้างแล้ว  ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เคยออกมาให้สัมภาษณ์ เมื่อหลายปีก่อน ในทำนอง ว่าเรียกเงินไปเขาก็มีให้ไม่ครบ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเรียกเงินคืน  แต่ตนคิดต่างว่า เพราะไม่กล้าเรียกค่าเสียหาย ใช่หรือไม่ ไม่ต้องการให้รู้ยอดเงินที่จ่ายไปและเงินที่ต้องเอาคืนกลับมาให้ประเทศ ใช่หรือไม่

เราควรเรียกเงินคืนจาก ผู้ผลิต GT200 ตั้งนานมาแล้ว อาจไม่ได้เงินคืนตามยอดที่ซื้อจริง แต่ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ถามว่าทำไมเราไม่ยอมไปขอคืน ประเด็นแรกคือ เรายังไม่ยอมรับด้วยซ้ำ ว่า GT200 มันปลอม ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งไปตรวจอีก อีกประเด็นคือต้นตอปัญหา กลาโหมไม่รู้จะแจ้งยอดขอเงินคืนจากเขาเท่าไหร่

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/PatgbUwBQHM