เลือกตั้งและการเมือง
'บิ๊กตู่' ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ พ้ออยู่มานาน รู้ปัญหาแต่แก้ไม่ได้ เพราะขาดความร่วมมือ
โดย thichaphat_d
26 พ.ค. 2565
84 views
วานนี้ (25 พ.ค. 65) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน "ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน" พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "บทบาทผู้นำประเทศ"
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ครั้งที่ 15 แล้ว ต้องทำให้ดีขึ้น นำไปพัฒนาปรับปรุงวิธีการทำงานความร่วมมือของเราต่อไป มีการนำเสนอนวัตกรรมแนวคิด มุ่งมั่นแก้ไขลดอุบัติเหตุให้ท้องถนนมีความปลอดภัย ลดความสูญเสียทางชีวิต เศรษฐกิจและสังคม อยากเห็นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำผลงานไปพัฒนาปรับปรุงและปรับใช้ตามหน้างาน เพื่อให้เกิดประสิทธิผลประสิทธิภาพทำได้จริง
ในปี 2565 เข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของความปลอดภัยทางถนน รัฐบาลขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกต่างๆโดยกำหนดเป้าหมายภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปีพร้อมกับกวดขันการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการแก้ไขต่างๆแบบองค์รวมไว้ เพื่อป้องกันลดอุบัติเหตุและลดการบาดเจ็บเสียชีวิต จากอุบัติเหตุตามท้องถนนให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถิติอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจ แม้ว่าจะลดลงก็ตาม เรามีเป้าหมายในการลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน 12 คน ต่อ100,000 คน ภายในปี 2570 เป็นสิ่งที่ยาก และเป้าหมาย ก็ดูว่าประเทศอยู่ตรงไหนทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะทำให้ดีที่สุด คนเราก็เยอะ ถนนเราก็มากมาย มากกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำ ขนาดประเทศเราก็ไม่ใช่เล็กไม่ใช่ใหญ่ ประชากรก็หนาแน่นสิ่งเหล่านี้มีผลผูกพัน เกี่ยวเนื่อง กันทั้งสิ้น
นอกจากการบังคับใช้กฎหมายการลงโทษและมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องนำสิ่งเหล่านี้ ต้องนำมาคิดด้วยคือคำว่าบริบทของคนไทยในปัจจุบัน ต้องนำสิ่งเหล่านี้ทั้งแนวคิดแนวคิดแนวปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะ หวังอย่างยิ่งว่าจะเดินหน้าให้เข้าถึงเรื่องเหล่านี้ ว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
โดยสาเหตุที่ตนได้รับรายงานมาอุบัติเหตุเกิดมากที่สุดจากรถจักรยานยนต์ อย่างการใช้ความเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อค ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร กฎหมายมีทุกตัวเจ้าหน้าที่รู้จับได้หมด แล้วจะเอาอย่างไรถ้าจะต้องการให้ดี ให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานเรียบร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือประเด็นของตนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนให้นโยบายไปแล้วว่าให้มีการจับกุมทั้งหมด หากผิดกฎหมาย แล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้น หากต้องการให้ประชาชนยอมรับตรงนี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้สังคมปลอดภัย หากร่วมมือกันคงไม่มีปัญหาจะต้องจับใครทั้งนั้น ไม่มีใครอยากจับไม่มีใครอยากลงโทษ และไม่อยากให้มีใครไปเสียชีวิต นี่คือสองด้านจะต้องคิด 2 ด้านออกมา
หากคิดแต่ในแง่เจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลคิดมาทางเดียว หากเราไม่คิดทันอีกทางหนึ่งก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ตนบอกได้เลย เราพยายามทำมาหลายปีแล้ว เพราะฉะนั้นปฏิเสธไม่ได้ในความรับผิดชอบ ตนก็ต้องรับผิดชอบ
ตนตำหนิประชาชนไม่ได้ ตนได้แต่เตือนได้แต่บอก เจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยกันระมัดระวัง สิ่งใดก็ตาม ที่พูดมาทั้งหมด ตนคิดว่าไม่มีใครไม่เห็นด้วย ทั้งการใช้มาตรการและเข้มแข็ง สวมหมวกกันน็อค จับกุมดำเนินคดี ทุกเรื่องก็เป็นความเห็นของท่าน ว่าควรจะทำได้อย่างไรแค่ไหนควรจะทำหรือไม่
ตนยอมรับว่าแรงกดดันกดทับมาจากหลายส่วน ขณะเดียวกันการตายก็สูงขึ้น ตายคนเดียว ตนยังยอมรับไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาเป้าหมายให้เจอ หาวิธีการให้เจอ วางแผนงานยุทธศาสตร์ ในการทำงานแต่ละระยะ แต่หากแก้ไม่ได้สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไร ประชาชนจะเข้าใจ จะเห็นชอบมีส่วนร่วมด้วย ไม่ต้องเป็นภาระในการจับกุม ติดคุก เสียค่าปรับ ไม่มีใครอยากทำ แต่เมื่อต้องการให้ปลอดภัยก็ต้องทำ แต่ทำแค่ไหนอย่างไรก็ต้องสร้างความเข้าใจกันออกไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการที่ตนมาพูดวันนี้ไม่ได้เป็นการตำหนิใคร แต่ต้องการเล่าให้ฟังว่าตนอยู่กับปัญหาอะไรมาบ้าง และพยายามจะแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง ติดปัญหาอะไรบ้าง ดังนั้นต้องคิดแบบตนคิดด้วย เพราะเรารู้ เราอยู่กันมานานแล้ว ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้น แน่นอนว่า ตนรู้ปัญหา รู้วิธีการแก้ไขปัญหา แต่ทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะความร่วมมือยังไม่เกิด นี่คือปัญหาเช่นเดียวกับทุกปัญหาของประเทศไทย
ซึ่งต้องกลับมาโทษที่ตัวเองว่าตนทำไม่ได้ ตนไปโทษใครไม่ได้อยู่แล้ว ก็ต้องทำต่อไป สิ่งที่ตนพูดในทุกวันนี้คืออยากให้ทุกคนคิด ในบริบทที่กว้างกว่าเดิม หากพอยท์ไว้ 1 2 3 4 5 ก็จะกลับมาเหมือนเดิม แก้แบบเดิม อันไหนที่เป็นหลักก็ยืนไว้ แต่ต้องหาปัญหาปลีกย่อย อย่างที่ตนว่าว่าจะแก้อย่างไรแก้ที่ใครแก้ตรงไหน มาตรการยึดรถชั่วคราวก็ไม่ผ่าน ไม่ต่อทะเบียน เป็นการชั่วคราวก็ไม่ให้ แล้วจะอะไรที่ท่านจะให้บังคับ ทำได้แค่นี้ เพราะกฎหมายคือกฎหมาย หลายคนก็นั่งในสภาอยู่ในที่นี้ก็มี ช่วยกรุณาฝากไปดูด้วย
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนนั้นยอมรับกติกา สร้างการรับรู้ เรียนรู้ ไม่ได้อยู่ด้วยความเกลียดชัง อยู่ด้วยความเข้าใจว่าจะอยู่ร่วมกันด้วยความสันติได้อย่างไร อยู่ภายใต้กฎหมายระเบียบ การจัดระเบียบทางสังคม พร้อมกับย้ำว่า ต้องหาวิธีการร่วมมือกันให้ได้ ไม่ใช่ตำหนิไปหมด ทำไม่ได้แน่นอน เป็นความรับผิดชอบของทุกคน
นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบทุกเรื่อง เพราะมันเป็นหน้าที่ หาวิธีการทำให้ได้ ค่อยๆ เดิน บางอย่างเดินช้า บางอย่างเดินเร็ว ถ้าไม่อยากเดินช้าก็เร่งเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ตำรวจที่อยู่ในคณะทำงานต้องพูดให้หมด ข้อมูลอยู่ที่ไหน ไม่ใช่แก้ตัว เอาข้อเท็จจริงแถลงออกมาในห้องประชุม ให้รู้เรื่องว่าต้องแก้ตรงไหนอย่างไร พร้อมกับย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึกถึงคนอื่น ก่อนที่จะทุบที่อกข้างซ้าย 3 ครั้ง
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลเสร็จสิ้น ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใดโดยเดินทางกลับในทันที
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/srlvQJWYT9U