เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ แนะจับตาพ่อค้ายา เปลี่ยนวิธีหลังโควิด มุ่งยึดทรัพย์ ตัดท่อน้ำเลี้ยง-ให้รางวัลนำจับ

โดย thichaphat_d

19 พ.ค. 2565

39 views

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมกระทรงยุติธรรมทำผลงานปราบยาเสพติดได้ตามเป้า ชี้ยึดทรัพย์ เป็นการแก้ปัญหาแนวใหม่แบบครบวงจร ล่าสุดยึดทรัพย์ได้แล้วกว่า 8 พันล้าน จากเป้าหมาย 1 หมื่นล้าน เตือนระวังพ่อค้ายาเปลี่ยนวิธีหลังเจอโควิด 


เมื่อวานนี้ (18 พ.ค. 2565 )เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วม ที่สำนักงาน ป.ป.ส.


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า ยาเสพติด ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันเพราะทุกคนทราบดีถึงภัยของยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลหวังว่าจะหมดไป เนื่องจากขณะนี้เรามีกฎหมายใหม่ ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ในการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ได้มีการรวบรวมกฎหมาย เพื่อลดความซ้ำซ้อน และทำให้ประชาชนเข้าถึง โดยกฎหมายใหม่ ได้มีการปรับบทลงโทษที่รุนแรงและไม่แยกความผิดออก ซึ่งเรามีการพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรมด้วยการลดโทษคดีไม่รุนแรง แต่ไปเน้นลงโทษหนักกับผู้ค้าเพื่อให้โอกาสผู้เสพ และเพื่อช่วยลดความแออัดในเรือนจำ

ก่อนหน้านี้ตนได้มอบนโยบายไปแล้ว และได้มีการกำหนดเป้าหมาย จนเดินใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว เพราะทุกคนนำไปปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ที่ยึดทรัพย์ได้แล้วกว่า 8 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น จากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพราะด้วยสถานการณ์โควิด อาจส่งผลให้ผู้เสพ และผู้ค้า เปลี่ยนวิธี จึงอาจทำให้เกิดรายใหม่ ตนจึงอยากให้ช่วยกันลดจำนวนผู้เสพยาให้น้อยที่สุด โดยต้องให้ความสำคัญกับหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน เพื่อช่วยกันป้องกัน


นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า การปราบปรามยาเสพติด เรามุ่งเน้นการขยายผลไปสู่นายทุน จึงเน้นการยึดทรัพย์ เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยง ควบคู่กับการให้รางวัลนำจับ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่รับสินบนจากผู้ค้า รวมถึงจากนี้ ตนอยากให้เร่งสร้างภูมิคุ้มกันว่า ยาเสพติด เป็นสิ่งที่อันตราย ที่เสมือนเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อม ซึ่งตนขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเร่งทำงาน และขออย่าประมาทในการทำงาน โดยใช้อาวุธด้วยความระมัดระวังด้วย


ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมาย เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ด้วยการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง โดยในปี 64 รัฐบาลตั้งเป้ายึดทรัพย์ 6,000 ล้านบาท แต่สามารถยึดทรัพย์ได้เกินเป้ากว่า 7,000 ล้านบาท และเมื่อมีประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ การริบทรัพย์สินทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยมีการตั้งเป้าหมายในปี 65 ต้องยึดทรัพย์สินให้ได้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ระยะเวลาผ่านมา 231 วัน เราสามารถยึดทรัพย์ได้แล้วกว่า 8,453 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85 แบ่งเป็น ของป.ป.ส. 3,988 ล้านบาท ของคณะทำงานพาลีปราบยา 1,380 ล้านบาท และยึดทรัพย์ที่จะได้ จากการปฎิบัติการในวันนี้ 3,084 ล้านบาท


ข้อดีของประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นี้ คือรางวัลนำจับที่มีมากถึง 30% ของมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ โดย 25% เป็นของเจ้าหน้าที่ผู้สืบสวนและทำคดี และ อีก 5% เป็นของผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งมีมูลค่าถึง 500 ล้านบาท ตรงนี้ถือเป็นการดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปราบปรามยาเสพติด ให้ช่วยแจ้งเบาะแส ขณะเดียวกัน ในการขยายผลยึดทรัพย์ ป.ป.ส. มีข้อจำกัดในความรู้เชิงลึกของเครือข่าย เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้สืบสวนมาแต่ต้น โดยนักค้ายาเสพติดเป็นเครือข่ายสลับซับซ้อน ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้ ป.ป.ส.มีอำนาจในการเป็น “เจ้าพนักงานสืบสวน” โดยแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดียาเสพติด มาตรา 11/1(8) ด้วย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mRVIg4cIsB4

คุณอาจสนใจ

Related News