'เพชร กรุณพล' นำโด่งหน่วยเลือกตั้ง รร.ทหาร - 'พิธา' ย้ำสนามหน้า เลือกก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

การเลือกตั้งซ่อมในเขตที่ 10 แขวงจันทรเกษม ที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเบอร์ 6 จากพรรคก้าวไกล ชนะไปด้วยคะแนน 214 คะแนน ตามมาด้วยนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเบอร์ 3 จากพรรคเพื่อไทย

ส่วนตัวเต็งอย่าง มาดามหลี-นางสรัลรัศมิ์​ เจนจาคะ​ ผู้สมัครเบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ ภรรยาของ นายสิระ เจนจาคะ แชมป์เก่า ได้เพียง 13 คะแนน

ด้านการแถลงของพรรคก้าวไกลนั้น นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงภายหลังทราบเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ - จตุจักร บางส่วน อย่างไม่เป็นทางการ ว่า ตนแสดงความยินดีกับนายสุรชาติ เทียนทอง เป็นคนที่ตั้งใจทำงานในระหว่างการลงพื้นที่หาเสียง ตนดีใจของคนจตุจักรหลักสี่ ที่ได้ผู้แทนอย่าง นายสุรชาติ ครั้งนี้

พร้อมกับขอบคุณนายสุรชาติ ที่ทำให้ได้รู้จักการเมือง ขอบคุณประชาชนทำให้สามารถซึมซับปัญหาของประชาชนและปัญหาในพื้นที่ ที่พร้อมจะให้พรรคก้าวไกลลงมาแก้ไขปัญหา และหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปขอบคุณประชาชนทุกคะแนนเสียง ตนต้องขอขอบคุณทีมก้าวไกล ทำให้พื้นที่ได้มีแสงสว่างอีกครั้ง เชื่อว่าจะผลักดันแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้

โดยหลังจากนี้จากประสบการณ์ที่ได้รับจากระยะเวลาถึง 45 วัน จะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองไทย และในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าจะได้เห็น เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ เป็นส.ส.กทม. อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ก่อนถึงการเลือกตั้งใหญ่ วางอนาคตทางการเมืองไว้อย่างไรนั้น นายกรุณพล ระบุว่า หลังจากนี้จะทำงานลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อไปรับทราบปัญหา ยอมรับว่ามีเวลาน้อยในการรับรู้ปัญหาของประชาชน แต่ในอีก 1 ปีข้างหน้า จะทำงานหนักกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา และจะเดินหน้าลงพื้นที่ ให้ประชาชนเห็นหน้ายิ่งกว่าคนในครอบครัว

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ระบุว่า ตนต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย ที่ดูเหมือนว่าจะเข้ามาเป็นลำดับที่ 1 พร้อมกับระบุว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎร ยินดีที่จะได้มีโอกาสทำงานกับ นายสุรชาติ ในเร็ววันนี้ ยินดีกับประชาชนชาวจตุจักร และหลักสี่ที่จะได้ส.ส.เข้าไปทำงานในพื้นที่แทน

ขณะที่ในส่วนของพรรคก้าวไกล ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน ที่มอบให้กับนายกรุณพล แม้ว่าครั้งนี้พรรคจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่ก็ถือได้ว่าเดินมาถูกทางแล้ว แม้ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากทำงานหนักไม่พอ ซึ่งมีหลายอย่างที่จะต้องแก้ไข แต่มั่นใจว่าจะตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน

และยืนยันว่าการมีอยู่ของพรรคการเมืองพรรคก้าวไกล และอดีตอนาคตใหม่ มีนักการเมืองที่ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ ซึ่งจากตัวเลขที่ผ่านมายืนยันตัวเลขการเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขการเข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจะน้อยกว่าปี 2562 ได้มา 20.5% แต่วันนี้ได้มา 24 % ต้องขอบคุณทุกคนทึ่ทำงานอย่างกนัก ขอบคุณผู้สมัครที่ตั้งใจมนการทำงาน และอาสาสมัครส.ก. การมีอยู่ของเราเป็นประโยชน์ต่อสังคม

ส่วนนโยบายการปฏิรูปกองทัพในค่ายทหารต่างๆ โดยเฉลี่ยอนาคตใหม่ได้ 24% แต่ได้มา 35% ที่ผ่านมาทหารเห็นด้วยที่ต้องการมีสวัสดิภาพ สวัสดิการที่ดีขึ้น ถือได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นอย่างเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีคนพยายามใช้ io ว่าก้าวไกลกับทหารนั้นปรปักษ์กัน

แม้ว่ายังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ยังต้องมีข้อปรับปรุง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ และทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจ เลือกก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า ต้องรักษามาตรฐานในการทำงานให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี หลังจากนี้ เชื่อมั่นว่าจะมีการยุบสภาอย่างแน่นอน พร้อมกับระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถลากอายุไปได้ครบเทอมได้ ถ้าหากปัญหาความไม่พอใจของประชาชน และความขัดแย้งภายใน ซึ่งปีนี้เราทำงานแล้ว จะต้องมีการเตรียมความพร้อมของผู้สมัครส.ส.เขตทั้งประเทศ ประกอบกับงานนโยบาย ที่จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของประชาชน

ส่วนจะมีการประเมินคู่แข่งในสนามการเมืองหลักสี่อย่างไรนั้น นายพิธาระบุว่า การเลือกตั้งซ่อมเป็นบริษทเฉพาะ แต่ในภาพใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐมีทั้งศึกใน ศึกนอก และคลื่นใต้น้ำ แต่ที่สำคัญกว่าคือ เสถียรภาพรัฐบาลที่ไม่เข้มแข็งและไม่มีเอกภาพเช่นนี้ รวมไปถึงปัญหาภายนอกที่เข้ามา เจอกับประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อ แต่สังคมสมัย ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงานที่เพียงพอ และแก้ไขปัญหาบริหารงานไม่ได้ ดังนั้น ก็ไม่แปลกที่จะมีการยุบสภาเร็วขึ้น

ทั้งนี้นายพิธา ยังย้ำในช่วงท้ายว่า เลือกตั้งครั้งหน้าเปลี่ยนประเทศไทย เลือกก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CQjTjwyMMD8