‘อันวาร์’ คุยสายตรง ‘อนุทิน-ฮุน มาเนต’ สื่อมาเลย์แก้ข่าว ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดใหม่

นายกฯ อันวาร์ ของมาเลเซีย ได้ต่อสายพูดคุยกับ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และ นายกฯฮุน มาเนต ของกัมพูชา ถึงสถานการณ์ชายแดน ก็บอกว่าผู้นำทั้ง 2 ได้ให้ข้อเสนอแนะในเชิงบวก โดยมาเลเซีย พร้อมเป็นตัวกลางเจรจาไปสู่เส้นทางสันติภาพอีกครั้ง

เมื่อคืนนี้ นายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม ของกัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ได้ต่อสายพูดคุยกับ นายกฯฮุน มาเนต ของกัมพูชา และ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อร่วมกันหารือความคืบหน้าเกี่ยวกับความพยายามในการสร้างสันติภาพ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดน โดย "ผู้นำทั้งสอง ได้ให้ข้อเสนอแนะในการเชิงบวก และยืนยันถึงความมุ่งมั่นหาทางออกวิกฤตด้วยแนวทางสันติวิธี"

นายกฯ อันวาร์ ระบุว่า "ขอย้ำจุดยืนของมาเลเซีย ว่า มิตรภาพและการหยุดยิงระหว่างทั้ง 2 ประเทศ จะต้องได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นตามข้อตกลงที่ได้ทำขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเดือนที่แล้ว และมาเลเซีย พร้อมแสดงบทบาทในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการสร้างเส้นทางสู่สันติภาพนี้ต่อไป"

ผู้นำมาเลเซียยังทิ้งท้ายว่า อยากเห็นไทย-กัมพูชา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความกล้าหาญี่จำเป็นต่อการฟื้นฟูเสถียรภาพตามแนวชายแดน เพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาคและความปลอดภัยของประชาชน

ในขณะที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจความพร้อมของหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี โดยสั่งยกระดับมาตรการตอบโต้ภัยคุกคาม

พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของกำลังพล หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคงและเตรียมความพร้อมในพื้นที่ที่ยังคงมีความอ่อนไหวและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด

โดย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกหน่วย ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งการลาดตระเวน การเฝ้าตรวจ การวิเคราะห์ข่าวกรองทางทหาร และการเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังภัยคุกคามทุกมิติ พร้อมทั้งให้หน่วยดำรงสภาพความพร้อมรบขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงและรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้หน่วยทุกระดับ ปฏิบัติด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ ยืนยันจะดูแลผืนแผ่นดินไทย ไม่เสียแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว ก็ย้ำว่า "กองทัพภาคที่ 2 จะดำรงความพร้อมรบสูงสุด ในการปกป้องอธิปไตย"

ส่วนกรณีทหารไทย เหยียบกับระเบิด เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้เป็นประเด็นร้อนในโซเชียล หลังจากมีข่าวจากสื่อมาเลเซีย รายงานในลักษณะว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศมาเลเซีย อ้างอิงว่า คณะ AOT ไทย-กัมพูชา รายงานว่า ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบ "เป็นทุ่นระเบิดเก่า" และเรื่องนี้สื่อกัมพูชานำไปขยายต่อ ล่าสุดสื่อมาเลเซียต้นเรื่อง ได้แก้ไขข้อมูลแล้ว ยืนยันว่า "เป็นของใหม่" หลังมีการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ขณะที่โฆษกกองทัพบก ก็ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว

พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีสื่อมาเลเซีย มีการนำเสนอข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เป็นทุ่นระเบิดเก่า ก็บอกว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นการนำเสนอข่าวที่ผิดพลาดของสำนักข่าวเบอร์นามา ซึ่งปัจจุบันได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบจากเอกสารรายงานของคณะผู้สังเกตการณ์ AOT ก็พบว่า มีการระบุว่าเป็น ทุ่นระเบิดที่วางใหม่ จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าเหตุการณ์ผิดพลาดดังกล่าวเป็นเรื่องของการนำเสนอข่าวที่ผิดพลาด

เพจกองทัพบกทันกระแส ได้โพสต์ ระบุว่า "โอ้โห ทำข่าวผิด ยืนยัน AOT ไทย รายงานว่า เป็นระเบิดใหม่ สำนักข่าวเบอร์นามา นำเสนอข่าวผิด ซึ่งได้แก้ไขใหม่เรียบร้อยแล้ว" พร้อมติดแฮชแท็ก #สันติภาพไม่มีอยู่จริง

นอกจากนี้ ยังมีหลายเพจ แสดงความเห็น เพจหมอแล็บแพนด้า โพสต์ระบุ "สื่อมาเลย์นี่ยังไงกัน ใจความี่สำคัญที่สุดดันเขียนผิด บอกว่าทหารไทย เหยียบ "ระเบิดเก่า" พอมาแก้ใหม่ทีหลังมันไม่ทันปะ เขมรไปตีข่าวถึงชาวโลกหมดแล้ว"

ส่วนเพจ Drama addict ได้โพสต์ระบุ "สรุปสำนักข่าวมาเลเซีย รายงานข่าวบิดเบือน AOT รายงานกับระเบิดที่ทหารไทยเหยียบล่าสุด เป็นระเบิดใหม่ ไม่ใช่ของเก่า ล่าสุดสำนักข่าวมาเลย์ต้นเรื่องลบข่าวทิ้งไปแล้ว" และยังมีอีกโพสต์ ตั้งคำถาม ว่า "ผิดพลาดหรือเจตนา มึ...ง เอาดีดีนะ"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qR_4UCEhfEA