เลือกตั้งและการเมือง

'อนุทิน' ลั่นไม่ยอมให้ใครคุกคามอธิปไตยไทย - 'ทูตรัศม์' เตือนคำพูดนายกฯ เสี่ยงโดดเดี่ยวไทยบนเวทีโลก

13 พ.ย. 2568

45 views

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ากองทัพ พร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดน ก็ย้ำว่า ไทยไม่ไปรุกรานใคร แต่ไม่ยอมให้ใครมาคุกคามอธิปไตย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พูดถึงสถานการณ์ชายแดน หลังเมื่อวานมีการใช้ปืนเล็กยิงก่อกวนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ก็ย้ำว่า จะทำให้ดีที่สุด ยืนยัน "เราไม่มีความตั้งใจไปรุกรานใคร แต่เราก็ไม่ยอมให้ใครมาคุกคามอธิปไตยของเรา และจะไม่ยอมให้ประชาชนหรือแม้กระทั่งทหารต้องประสบภัยอันตราย ก็บอกว่า ทหารมียุทธวิธี และรัฐบาลจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ส่วนได้มีการประเมินสถานการณ์ว่าจะเข้าสู่โหมดการประทะหรือไม่ นายกฯอนุทิน ได้ยกคำโบราณ ว่า "แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ บอกว่า มีคำสอนกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ" ยืนยันว่า หากเกิดสถานการณ์ได้มีการเตรียมความพร้อมศูนย์อพยพไว้ทั้งหมดแล้ว

นักข่าวยังถามว่า นายกฯ ได้เห็นโพสต์ของ นายกฯฮุน มาเนต ของกัมพูชา หรือยัง ที่กล่าวอ้างว่าไทยยิงพลเรือนกัมพูชาเสียชีวิต นายอนุทิน บอกว่าได้อ่านแล้ว แต่เราก็มีแนวทางของเรา

----------------------------

ทูตรัศม์เตือนคำพูดแข็งกร้าวของนายกฯ อนุทิน ทั้ง "สันติภาพจบแล้ว ท้าทายสหรัฐฯเรื่องภาษี" เสี่ยงโดดเดี่ยวไทยบนเวทีโลก ชี้กระทบทั้งความมั่นคง - เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ภัยกัมพูชาที่เปราะบางอยู่ขณะนี้ คำพูดนายกฯ ทำสัมพันธ์ไทยห่างจากสหรัฐฯและกลับไปเข้าทางกัมพูชาให้ใกล้ชิดสหรัฐฯ มากขึ้น พร้อมย้ำผู้นำต้องไม่ตัดสินใจตามอารมณ์กระแสสังคม แนะใช้กลไกหารือในสภาก่อนขยับท่าที

ทูตรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทยกับกัมพูชา เทียบ "การทูตยุครัฐบาลที่แล้ว" กับท่าทีปัจจุบันของ นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล โดยย้ำว่า ที่ผ่านมาไทยเดินเกมการทูตเรื่องชายแดนกัมพูชาได้สำเร็จในระดับหนึ่ง ทั้งการชี้แจงต่อเวทีนานาชาติจนไม่มีประเทศใดประณามไทยว่า เป็นผู้รุกราน และที่สำคัญคือ "สกัดกั้นไม่ให้กัมพูชาดันปัญหาชายแดนขึ้นศาลโลกและคณะมนตรีความมั่นคงฯ" ได้สำเร็จและหันมาใช้การเจรจาแบบทวิภาคีภายใต้กรอบอาเซียนจนสามารถยุติการสู้รบได้ โดยมีทั้งสหรัฐฯและจีนอยู่ในฉากหลังเป็นพยานทางการทูต

ทูตรัศม์มองอีกว่า 3 ปมปัญหาที่ทำให้รัฐบาลนายกฯอนุทิน อาจจะเพลี่ยงพล้ำและไม่เป็นคุณกับประเทศ คือ

1.เรื่องการปราบสแกมเมอร์ ไทยมีโอกาสที่จะใช้ความร่วมมือกับประชาคมโลกปราบขบวนการสแกมเมอร์ แต่กลับขยับช้ากว่าที่ควรจะเป็น

2. การที่นายกฯอนุทินไปพูดท้าทายสหรัฐเรื่องภาษีว่า ไทยไม่จำเป็นที่จะทำการค้ากับสหรัฐก็ได้สามารถทำการค้ากับประเทศอื่นๆก็ได้ หาตลาดใหม่แทน

3.เหตุการณ์ล่าสุด หลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 7 นายกฯอนุทินมีท่าที "แข็งกร้าวเกินจำเป็น" ที่ประกาศกร้าวว่า "สันติภาพไทย-กัมพูชาจบแล้ว" นี่คือคำพูดที่คนเป็นผู้นำประเทศไม่มีความจำเป็นต้องพูด ไม่ได้ช่วยให้ไทยตอบโต้กัมพูชาได้มากขึ้น แต่กลับทำลายความน่าเชื่อถือของไทยในสายตาประชาคมโลกและอาจเปิดช่องให้เข้าทางกัมพูชาให้กัมพูชาเข้าใกล้สหรัฐฯ มากขึ้น

อดีตทูตอาวุโสยังชี้ว่า คำพูดลักษณะนี้เสี่ยง "โดดเดี่ยวไทยจากพันธมิตร" พร้อมอ้างถึงความเห็นของ กษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ที่เตือนว่าการแก้ปัญหาชายแดนห้ามใช้อารมณ์ ควรนำเรื่องนี้เข้าหารือในรัฐสภาให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันกลั่นกรอง เพราะเป็นเรื่องใหญ่ กระทบทั้งชีวิตทหาร-ชาวบ้านแนวชายแดนและเศรษฐกิจทั้งประเทศ ทูตรัศม์ทิ้งท้ายว่า ผู้นำที่ดีต้องกล้ารั้งกระแส ไม่ใช่ไหลตามอารมณ์สังคมไปสู่ภาวะสงคราม พร้อมตั้งคำถามซ้ำไปยังนายกฯ อนุทินว่า "ตระหนักถึงผลเสียระยะยาวต่อประเทศแค่ไหน และพร้อมรับผิดชอบหรือไม่ หากคำพูดวันนี้ทำให้ไทยเสียมากกว่าได้"



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/smvK-dYBpxI

แท็กที่เกี่ยวข้อง  อนุทินชาญวีรกูล ,ทูตรัศม์

คุณอาจสนใจ

Related News