ชายแดนกลับมาตึงเครียด! 'บิ๊กเล็ก' โต้ 'กัมพูชา' ยันทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ หลังทหารไทยเสียขาที่ 7

สถานการณ์ชายแดนจะกลับมาตึงเครียดอีกครั้งหรือไม่ หลังเมื่อวานนี้ ทหารไทย เหยียบกับระเบิด ส่งให้ขาขาดเป็นรายที่ 7 ล่าสุดผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็แสดงท่าทีในการยุติข้อตกลงทุกอย่างระหว่างไทย กัมพูชา โดยกองทัพบก เปิดเผยผลการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ยืนยันว่าเป็นการลักลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ของกัมพูชา

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้เปิดเผยความคืบหน้า กรณี กำลังพลประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก็ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์

ระบุว่า พื้นที่เกิดเหตุ เคยเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง ก่อนจะถอนกำลังออกไปภายหลังเหตุปะทะที่ผ่านมา โดยฝ่ายไทย ได้เข้าควบคุมพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม และเสริมความมั่นคงพื้นที่ ด้วยการกวาดล้างทุ่นระเบิด วางเครื่องกีดขวางลวดหนาม และลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 68 ตรวจพบว่าแนวลวดหนามที่วางไว้ถูกลักลอบเข้ามารื้อถอน

จากนั้นวันที่ 10 พ.ย. 68 เวลาประมาณ 08.30 น. หน่วยในพื้นที่จึงได้จัดกำลังชุดลาดตระเวนร่วมกับชุดทหารช่าง เข้าพิสูจน์ทราบบริเวณแนวลวดหนามที่ถูกรื้อถอน จนเกิดเหตุกำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย

หลังเกิดเหตุ หน่วยในพื้นที่ได้จัดกำลังร่วมกับชุดตรวจค้น ยังพบทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มเติมอีก 3 ทุ่น โดยแต่ละทุ่นวางห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 1 เมตร

จากหลักฐานที่ปรากฏ จึงสรุปได้ว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นการลักลอบรื้อถอนลวดหนามและเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย โดยมีเป้าหมายคือกำลังพลที่ลาดตระเวนเส้นทางอยู่เป็นประจำ การกระทำดังกล่าวแสดงถึงความไม่จริงใจในการลดความขัดแย้งของฝ่ายกัมพูชา และสะท้อนถึงความเป็นปรปักษ์ระหว่างกัน ซึ่งขัดต่อปฏิญญาร่วมที่ได้ลงนามไว้อย่างชัดเจน

สรุปเหตุเหยียบทุ่นระเบิด เมื่อวาน ส่งผลให้มีทหารไทยบาดเจ็บรวม 4 นาย คือ

จ่าสิบเอก เทอดศักดิ์ สมาพงษ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขวาขาด

พลทหาร วชิระ พันธะนา มีอาการแน่นหน้าอกจากแรงอัด

พลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขา และ

พลทหาร อนุชา สุจารี มีอาการระคายเคืองตาจากฝุ่นหรือสารเคมีของระเบิด

ขณะนี้ทุกนายได้รับการรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว โดยเหตุล่าสุดถือเป็นทหารไทย รายที่ 7 ที่ต้องสูญเสียขา

เช้านี้ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ทุ่นระเบิด เป็นรุ่นระเบิดเก่าตั้งแต่สมัยสงครามของกัมพูชา ก็ตอบโต้กลับทันทีว่า "จะไปฟังกัมพูชาทำไม ต้องฟังพี่สิ" และยืนยันชัดเจนว่าเป็นของใหม่

ขณะที่ท่าทีของผู้นำเหล่าทัพ ต่างประกาศท่าทีต่อเรื่องนี้ โดยเพจทีมโฆษกกองทัพบก ระบุว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงจุดยืนของกองทัพบกว่า

"ความจริงได้ปรากฏอย่างชัดเจนแล้วว่า ท่าทีแห่งความเป็นปรปักษ์ยังคงอยู่ กองทัพบกจำเป็นต้องยุติทุกข้อตกลง เพื่อรักษาสิทธิในการป้องกันตนเองจากการถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม"

เช่นเดียวกับ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประกาศท่าทีกองทัพไทย ในการยุติข้อตกลง จนกว่ากัมพูชาจะมีความจริงใจอย่างชัดเจน ที่จะไม่เป็นปฏิปักษ์ และกองทัพไย พร้อมที่จะรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ รวมถึงเพจกองทัพอากาศ ก็แสดงจุดยืนไปในทิศทางเดียวกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Y5RHSokFAXM